บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 41

บทที่ 41 ซวยกันเป็นแถบ

 หากครั้งนี้เกี่ยวพันไปถึงจวนเจ้าพระยาจิ้ง นางเกรงว่าจะกลายเป็นคนที่คนทั้งตระกูลก่นด่า

นางค่อยๆนั่งลง กู้ซือยืนอยู่ตรงข้ามนาง สองมือกอดอกมองนาง เป็นการมองที่เรียกว่าจ้องเขม็ง

นางเงยหน้าขึ้นถามกู้ซือ “บอกข้าได้หรือไม่ ไท่ซ่างหวงถูกพิษอะไร”

กู่ซือปิดปากแน่น ไม่พูดสักคำ

หยวนชิงหลิงรู้ว่าพวกที่เป็นองครักษ์นั้น ปากนั้นแข็งกว่าเหล็กกล้า หากไม่ยินดีจะพูด จะง้างยังไงก็ง้างไม่ขึ้น

นางไม่สงสัยเลยสักนิดที่ไท่ซ่างหวงจะถูกวางยา

สามารถดูออกได้จากเรื่องของฝูเป่า ไท่ซ่างหวงนั้นขัดหูขัดตาคนบางคน มีคนอยากให้เขาตายอย่างใจจดใจจ่อ

เพียงแต่ว่า พระตำหนักฉินคุนนั้นมิดชิดแม้แต่ลมยังผ่านไม่ได้ หากจะวางยาในอาหาร แทบเป็นไปไม่ได้เลย

จะวางยาพิษในยารักษาก็เป็นไปได้น้อย เพราะว่า ยาของหมอหลวงล้วนมีคนทดลองยา หากจะวางยาพิษในยารักษา คนคนนั้นคงเป็นฉางกงกงกับแม่นมสี่ ระหว่างแม่นมสี่กับฉางกงกงจะมีคนหนึ่งคอยดูอีกคนทดลองยา หลังจากทดลองยาแล้ว ก็จะส่งไปยังพระตำหนักเพื่อให้ไท่ซ่างหวงกิน

อยู่ในพระตำหนักฉินคุนสามวัน นางจึงรู้ขั้นตอนเหล่านี้

หากในยาและอาหารไม่สามารถวางยาพิษได้ เช่นนั้นก็มีเพียงเครื่องหอม

แต่ว่า ในพระตำหนักไม่ได้มีเพียงไท่ซ่างหวงเพียงคนเดียว มีฉางกงกงรับใช้ข้างกายตลอดเวลา ไท่ซ่างหวงถูกพิษ เช่นนั้นฉางกงกงก็ต้องถูกพิษเหมือนกัน

อีกอย่างในพระตำหนักจะมีขันทีรับใช้เข้าออกอยู่เสมอ ไทเฮาฮ่องเต้หมิงหยวนและเหล่าอ๋องทั้งหลายต่างก็ไปเยี่ยมอยู่ตลอด วางยาในกระถางธูปหอม ก็เป็นวิธีที่โง่เขลามาก

มู่หรูกงกงบอกว่า ไท่ซ่างหวงสลบไป แล้วเป็นใครที่รายงานฮ่องเต้ให้ทราบ ว่านางเป็นคนให้ยาในการรักษา

ฉางกงกงหรือ แต่ฉางกงกงก็ไม่ได้เห็นตอนที่นางกับหยู่เหวินเห้าเข้าไปเพื่อให้ยา

นอกจากหยู่เหวินเห้าแล้ว ก็ไม่มีใครรู้

แม้หยู่เหวินเห้าอยากจะพูด ก็พูดไม่ได้ เพราะหลายวันมานี้เขาไม่ได้เข้าวัง

เขาเคยบอกคนอื่นอย่างนั้นหรือ เขาไม่เหมือนคนที่จะพูดอะไรโดยไร้เหตุผล เขารู้ดีว่าหากเรื่องนี้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา เขาต้องถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ไม่มีผลดีกับเขาแม้แต่น้อย

นอกจากคนที่เชื่อใจมากๆ เขาคงไม่พูดพร่ำเพรื่อ

หากเขาไม่เคยพูดออกไป เช่นนั้นคงมีคนเดาออก

เป็นใครกันที่คอยสังเกตพฤติกรรมนางตอนที่เข้าไปข้างใน

มีสองคน อ๋องจี้กับฉู่หมิงชุ่ย

อ๋องจี้นั้นไม่ว่าใครเข้าไปเขาก็สังเกตอยู่ตลอด โดยเฉพาะตอนที่หยู่เหวินเห้าเข้าไป เขาต้องเงี่ยหูฟังอยู่ตลอด

เป็นฉู่หมิงชิ่ยหรือไม่ หยู่เหวินเห้าอาจจะเคยบอกกับฉู่หมิงชุ่ย

เขาน่าจะเชื่อใจฉู่หมิงชุ่ยมาก พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันที่หอเหวินชาน

สมมติว่าเป็นฉู่หมิงชุ่ย นางคงไม่พูดกับฮ่องเต้โดยตรง แต่จะบอกกับฮองเฮา

ขณะที่กำลังใช้ความคิด นางเงยหน้าถามกู้ซือ “ฮองเฮาไม่ได้เห็นข้าให้ยาไท่ซ่างหวงด้วยตาตนเอง ใยฮ่องเต้จึงปักใจเชื่อคำพูดของฮองเฮาด้วย”

นางจ้องมองกู้ซือ

กู้ซือเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในสายตามีแววตกใจเล็กน้อย แต่เพียงแค่แวบเดียว ก็กลับเป็นปกติ ยังคงไม่พูดอะไรเช่นเดิม

หยวนชิงหลิงไม่ต้องการคำตอบของกู้ซือ แค่มองปฏิกิริยาของเขา ก็สามารถเดาออกแล้ว

เป็นฮองเฮาที่บอกกับฮ่องเต้ และฮ่องเต้ก็ไม่ได้ละเอียดรอบคอบขนาดนั้น ฉะนั้น การวิเคราะห์ของนางไม่ผิด เป็นฉู่หมิงชุ่ย

ดีมาก ฉู่หมิงชุ่ย

หยวนชิงหลิงหนาวสะท้านไปทั้งร่าง

นี่มันเป็นสถานที่คนกินคนชัดๆ

จวนอ๋องฉู่

หลังจากที่หยวนชิงหลิงถูกนำตัวเข้าวัง ทังหยางก็ได้รายงานให้หยู่เหวินเห้ารู้ทันที

หลังจากที่หยู่เหวินเห้ารู้เรื่องแล้ว สีหน้าก็ไม่น่าดูเอาเสียเลย ราวกับถูกโจมตีอย่างหนักหนาสาหัส

รอจนผ่านยามเซินแล้ว ยังไม่เห็นข่าวคราวจากในวัง เขาก็ได้ออกคำสั่งให้ทังหยางเตรียมรถม้า เขาจะเข้าวัง

ทังหยางเอ่ยขอร้องว่า “ท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่ควรเข้าวังตอนนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน