บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 441

หยวนชิงหลิงเห็นคนมาแล้ว ก็โน้มตัวไปดู กิริยาโน้มตัวชะโงกหัว ฮ่องเต้หมิงหยวนแทบจะตัวอ่อนล้มลงไปกับพื้น สวรรค์ ทำเขาตกใจแทบตาย คิดว่าจะกระโดดลงมาซะแล้ว

ตอนนี้เขาจะเป็นโรคหัวใจแล้ว หรือว่าเสด็จพ่อจะไม่มา

“ลงมา รีบลงมาเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงของเขาแฝงแววอ่อนแอ หันศีรษะกลับไปตะคอกเสียงดุ “พวกเจ้ายังยืนนิ่งอยู่ทำไม ขึ้นไปซิ”

ทหารรักษาพระองค์รู้สึกลำบากใจมาก“ฮ่องเต้ กระหม่อมอยากจะขึ้นไป แต่ถ้าก้าวขึ้นบันไดไปแม้แต่ก้าวเดียว พระชายาฉู่บอกว่าจะกระโดด พวกกระหม่อมไม่กล้าขึ้นไปพ่ะย่ะค่ะ ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนโมโหจนแทบทนไม่ไหว นี่มันเทศกาลปีใหม่ ยังหาเรื่องเขาด้วยการเล่นละครเวทีจะกระโดดตึกในวัง เป็นถึงลูกสาวเจ้าพระยาจิ้ง เหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเลยสักนิด

เขายกมือขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง“ ถ่ายทอดคำสั่ง ถ่ายทอดคำสั่ง เชิญพระชายาฉู่ไปยังห้องทรงพระอักษร”

ฮ่องเต้หมิงหยวนนั่งอยู่ในห้องทรงพระอักษร หลังจากผ่านความโกรธไปแล้ว ในใจก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ลูกชายสามคน ประสบชะตากรรมติดๆกันไปแล้ว ที่เหลืออยู่ ก็ไม่ได้ทำให้หมดห่วงได้เลย

ต่างก็บอกว่าเป็นตระกูลราชวงศ์ที่สูงส่ง ความสูงส่งอยู่ตรงไหน

ถ้าหากสายเลือดเดียวกันเข่นฆ่ากันเอง ครอบครัวไร้ความสงบสุขจึงจะเป็นความสูงส่งของราชวงศ์ ใครกันจะอยากได้

หยวนชิงหลิงถูกนำตัวเข้ามา นางคุกเข่าลงกับพื้นอย่างยากลำบาก สองตาแดงก่ำบวมเบ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง คุกเข่าอย่างเหนื่อยล้า

ความโมโหของเขาเกิดขึ้นเพราะหยวนชิงหลิง แต่ตอนนี้เห็นนางในสภาพนี้ ความโมโหได้หายไปแล้ว ความโศกเศร้ายิ่งเพิ่มทวีคูณ

ทำอย่างไรได้ก็นางถูกบีบจนจนตรอกเสียแล้ว

“เจ้าเข้าวังมามีเรื่องอะไรจะพูด”ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ได้ถามถึงเรื่องที่หอเหวินชาง คิดถึงภาพนั้นแล้วรู้สึกใจหล่นวูบ

หยวนชิงหลิงเบิกตาจ้องมอง น้ำตาเอ่อล้นไหลออกมาโดยตรง นางยืนมือไปเช็ด พูดว่า “เสด็จพ่อ ลูกอยากจะฟ้องร้อง เกรงว่าจะมีคนคิดร้ายมาฟ้องร้องก่อน”

ฮ่องเต้หมิงหยวนยกมือขึ้น “ยืนขึ้นก่อนค่อยพูด”

“ยืนไม่ไหวเพคะ”หยวนชิงหลิงพึมพำ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตายิ่งดูน่าเวทนา “เมื่อครู่อยู่สูงเกินไปทำให้ตกใจ จนขาอ่อนไปหมดแล้ว ยืนไม่ไหวแล้วเพคะ”

“……” ฮ่องเต้หมิงหยวนถอนหายใจ เรียกให้แม่นมสี่ประคองนางให้นั่งลง “เจ้ายังรู้จักกลัวอยู่หรือ เป็นถึงมารดา เจ้ากำลังใช้เด็กในท้องของเจ้ามาเพื่อมากู้หน้ากับข้า”

หยวนชิงหลิงนั่งลง ขากำลังสั่นเทาอยู่จริงๆ นางหายใจเฮือกหนึ่ง “ไม่ใช่เพคะ อะซี่กับแม่นมสี่ใช้เชือกผูกกับที่ผูกเอวของข้าเอาไว้ข้างหลัง ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนตบโต๊ะหนึ่งที ถลึงตาคิ้วขมวด “เจ้ากล้าสามหาวเล่นละครตบตาเพื่อข่มขู่ข้าหรือ”

ร่างของหยวนชิงหลิงสั่นไปชั่วครู่ เอ่ยด้วยเสียงสะอื้นไห้ว่า “ท่านอย่าดุข้าเลย หัวข้ายังรู้สึกวิงเวียนอยู่ ถ้าท่านยังดุข้าอีก ข้าอาจจะเป็นลมไปจริงๆ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนโมโหจนจะกระอักเลือดแล้วอย่างแท้จริง ตีไม่ได้ ด่าก็ไม่ได้ หรือว่ายังจะต้องให้ปลอบใจด้วยน้ำเสียงดีๆอีก

คิดถึงเจ้าห้าที่เข้าวังมาอาละวาดครั้งก่อน พวกเขาสามีภรรยาช่างเป็นพวกฝนตกขี้หมูไหลจริงๆ คนเหลวไหลอยู่ด้วยกัน

ฮ่องเต้หมิงหยวนยอมแพ้แล้ว “เรื่องของเจ้าสารเลวเจ้าสี่ ข้ารู้แล้ว ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้า เจ้ากลับไปเถอะ ไม่ต้องหาเรื่องแล้ว”

หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตาอย่างแรง “เขาบอกว่าจะขุดลูกของข้าออกมา ข้าตกใจ ข้าแค่จะมาบอกกับเสด็จพ่อว่า ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกของข้าก็ตาม ล้วนเป็นฝีมือเขาทำ”

“เจ้ากล้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ”ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่เชื่อ แต่เจ้าสารเลวนั้นคงพูดจาข่มขู่ให้นางกลัวเป็นแน่

หยวนชิงหลิงพูดว่า “ข้ารู้ เพราะเรื่องที่จวนเจ้าหญิง ไม่ว่าข้าจะพูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ แต่ครั้งนี้หากข้าพูดอะไรที่เป็นเท็จออกไปแม้ตาครึ่งคำ ขอให้สวรรค์ลงโทษฟ้าผ่า ผ่าข้าสี่แม่ลูกให้ตายตามกันไป”

ฮ่องเต้หมิงหยวนตกใจกับคำพูดนี้ ดูซิ ตั้งครรภ์มากกว่าคนอื่นก็เอาแต่ใจสิ้นดี คนอื่นมากสุดก็แค่พูดว่าสองแม่ลูก แต่นางดีไม่ดีก็พูดว่าสี่แม่ลูกตลอด

ยังสามารถทำอะไรนางได้อีก แผ่นดินในอนาคตของตระกูลหยู่เหวิน เป็นไปได้อย่างสูงว่าจะเป็นคนหนึ่งในท้องนางกำเอาไว้

แต่ว่า คำสาบานราวกับเด็กของหยวนชิงหลิงคำนี้ กลับทำให้ฮ่องเต้หมิงหยวนนิ่งขรึมลงไป

คนอย่างหยวนชิงหลิงไม่ว่าจะอย่างไร ก็คงไม่เอาชีวิตลูกของตัวเองมาสาบาน เจ้าสี่เจ้าสารเลวนั่น คงจะเคยพูดข่มขู่เช่นนั้นไว้จริงๆ

เป็นการพูดเพื่อข่มขู่นาง หรือมีความหมายจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

“กลับไปเถอะ ข้ารู้แล้ว ”เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของฮ่องเต้หมิงหยวนอบอุ่นขึ้นมามาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน