หยู่เหวินเห้าเลี่ยงโดยการเดินอ้อมตัวนางไป ไม่ให้นางเข้าใกล้เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเปื้อน อีกทั้งไม่มัวพูดอะไรไร้ประโยชน์ เขาหยิบสเปรย์ที่หยวนชิงหลิงจัดเตรียมไว้ขึ้นมาฉีดใส่ตัวเอง แล้วรีบเข้าไปทันที ปิดประตูได้ก็ตะโกนมาจากข้างในว่า "กู้ซือ ทังหยาง เฝ้าประตูไว้ให้ดี ไม่มีการอนุญาตจากข้า ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ไม่ต้องให้เข้ามาทั้งนั้น"
กู้ซือกับทังหยางระดมทหารรักษาพระองค์และทหารจวนทันที วางกำลังล้อมห้องผ่าตัดทั้งหมดเอาไว้อย่างแน่นหนา ทั้งคู่เข้ามาคุ้มกันอยู่ตรงหน้าประตูห้องชั้นนอกและประตูห้องชั้นใน ยกสองมือขึ้นกอดอก ท่าทีเคร่งเครียดจริงจังประดุจเทพทวารบาลดำผู้เฝ้าประตู
เสียนเฟยโกรธจนหัวใจปวดหนึบแล้ว นางยกมือขึ้นมากดที่หน้าอกตัวเอง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ได้! ได้ ! แม่ทำทุกอย่างที่คิดว่ามันดีเพื่อเจ้ามาตลอด แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ช่างน่าผิดหวังนัก นับจากนี้ไปหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าก็จงอย่ามาขอให้แม่ช่วยเด็ดขาด!”
แม่นมหูเข้ามาปลอบนาง: "ท่านหญิง ท่านใจเย็น ๆ ก่อนนะเพคะ ท่านอ๋องเองก็ไม่มีทางเลือกแล้วเช่นกัน พระชายาตั้งครรภ์แฝดสาม เป็นธรรมดาที่สถานการณ์พิเศษ ก็ย่อมต้องรับมือด้วยวิธีการพิเศษ อย่ายึดติดกับสิ่งเหล่านี้เลยนะเพคะ"
เมื่อเสียนเฟยได้ยินคำพูดนี้ ก็โกรธจนพูดไม่ออกอย่างถึงที่สุด
นางรู้สึกเหมือนว่าตัวเองช่างหัวเดียวกระเทียมลีบ ยืนหยัดอยู่เพียงลำพังไร้คนสนับสนุน
ไม่มีใครเข้าใจความเพียรพยายามอย่างหนักของนาง ไม่มีใครรู้ว่านางผ่านความเหนื่อยยากลำบากมามากมายแค่ไหน
ความคับข้องใจและความขมขื่น พุ่งเข้าโจมตีในหัวใจของนางไม่หยุด
ไทเฮาเป็นคนที่มาจากตระกูลซู เดิมทีนางควรจะได้เป็นฮองเฮา แต่ตอนนี้กลับต้องอยู่ภายใต้ฮองเฮาฉู่ อีกทั้งบนหัวนาง ก็ยังมีกุ้ยเฟยที่อยู่สูงเหนือไปกว่าอีกหนึ่งคน
เดิมมันควรจะเป็นเกียรติยศที่ตามมาโดยธรรมชาติ แต่กลับต้องตกลงไปติดอยู่ในหล่มแบบดื้อๆ
แต่ในห้องผ่าตัด ไม่มีใครมีเวลาสนใจความเวทนาสงสารตัวเองของนางทั้งสิ้น
บนเตียงผ่าตัด หมันเอ๋อดึงกระจกทองแดงขึ้นมา กระจกทองแดงบานนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ มีขนาดใหญ่มาก เมื่อนำไปแขวนไว้เหนือศีรษะของหยวนชิงหลิง การออกแบบของกระจกบานนี้ จะช่วยทำให้นางสามารถมองเห็นสถานการณ์ในการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน
“แม่นม ตอนที่ข้ากินมื้อเที่ยงนั่น ประมาณยามอะไรหรือ?” หยวนชิงหลิงถาม
แม่นมสี่ตอบว่า "พระชายา เป็นยามอู่เพคะ ตอนนี้เป็นช่วงปลายยามโหม่วแล้ว"
หยวนชิงหลิงพยักหน้า นั่นก็แปลว่าผ่านไปหกชั่วโมงแล้ว
นางหันไปมองฮูหยินเจ้าพระยาเจียงหนิง "มั่นใจหรือไม่?"
“มีเจ้าคอยชี้แนะ คงไม่มีปัญหาอะไรนัก” อันที่จริงฮูหยินเจ้าพระยาเจียงหนิงไม่ได้มีความมั่นใจอะไรมากมาย นางเป็นผู้ช่วยของไทเฮามานานหลายปี ยังเคยทำการผ่าคลอดให้หญิงมีครรภ์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่แท้ที่จริง หญิงท้องผู้นั้นได้หมดลมหายใจไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แต่กลับกัน บรรดาสัตว์หายากบนภูเขาเฟิ่งหวง ล้วนเป็นนางที่ช่วยทำคลอดให้ และมีบางครั้งที่จำเป็นต้องมีการผ่าคลอด นางคุ้นเคยกับคำว่า “ผ่าคลอด” สองคำนี้อย่างมาก จึงหวังว่าการผ่าคลอดมนุษย์กับสัตว์จะเหมือนกัน
เมื่อเปิดกล่องยา แล้วได้เห็นมีดผ่าตัดอันแวววาวเรียงรายอยู่ในนั้น ขาของหยู่เหวินเห้าก็เริ่มสั่นพับ ๆ อ่อนยวบ เขายืนอยู่ข้าง ๆ หยวนชิงหลิง พยายามอยากจะช่วยทำอะไรสักอย่าง แต่กลับพบว่าตัวเองไม่อาจสอดมือเข้าไปได้ เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
หลังจากเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้แล้วเรียบร้อย หยวนชิงหลิงพิจารณาปริมาณของยาชา นางใช้ยาระงับความรู้สึกภายนอกร่วมด้วย เพราะการใช้ยาชาเฉพาะที่ จะสามารถทำให้นางมีสติแจ่มชัด และชี้นำในกระบวนการการผ่าคลอดทั้งหมดนี้ได้
“หยวน มันจะได้จริง ๆ หรือ?” หยู่เหวินเห้าจับมือนาง พลางเอ่ยถามด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
“ต้องได้แน่นอนอยู่แล้วสิ” หยวนชิงหลิงยิ้มให้กำลังใจเขา “ อีกไม่นานเจ้าก็จะได้เห็นหน้าลูก ๆ แล้วนะ”
หยู่เหวินเห้าขอบตาแดงก่ำ “ออกมาเมื่อไหร่ต้องตีให้หลาบจำ ทรมานเจ้าเหลือเกินจริงๆเจ้าลูกพวกนี้”
“ ถ้าเป็นผู้หญิง ยังจะตัดใจตีลงอยู่หรือไม่? ” หยวนชิงหลิงหาเรื่องมาคุยกับเขา เพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์อันตึงเครียดของเขาให้ค่อย ๆ บรรเทาลง
อันที่จริงก็...มันช่วยไม่ได้ล่ะนะ โดยปกติ คนเป็นหมอมักจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของแม่ที่จะคลอด รวมถึงช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของบรรดาญาติมิตรที่อยู่ด้วย ไม่ให้เครียดจนเกินไป
ลูกสาว... หยู่เหวินเห้าคิดถึงบรรดาเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นุ่มนิ่มน่ารักมีเสน่ห์ และมีหน้าตาละม้ายคล้ายหยวนชิงหลิง คิดได้ดังนั้นก็รู้สึกว่าตัดใจตีไม่ลงขึ้นมาเสียแล้ว
ในจวนอ๋องฉู่ตอนนี้ มีคนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสองร้อยคน
นอกจากคนที่มีหน้าที่เฝ้าประตู คนอื่นที่เหลือต่างก็มารวมตัวกันอยู่นอกห้องผ่าตัดทั้งหมด
คนพวกนี้ส่วนใหญ่ ต่างมาเฝ้าจับตาดูอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนที่หยวนชิงหลิงมีอาการปวดท้องและอาเจียนแล้ว บางคนก็มานานกว่านั้นเล็กน้อย พวกเขาพากันมาที่นี่หลังจากที่รู้เรื่องของแฝดสาม
ในตอนที่ทุกคนมารวมตัวกัน โดยมีจุดประสงค์ร่วมกันเพียงหนึ่งเดียว นั่นจะก่อให้เกิดความความเหนียวแน่นอันแข็งแกร่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...