บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 466

หยู่เหวินเห้าจึงไปที่ห้องหนังสือ ชนกับสวีอีที่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพอดี ในปากอ่านอักษร เกือบจะชนกับหยู่เหวินเห้าแล้ว

“ท่านอ๋อง ทำให้ข้าน้อยตกใจหมดแล้วขอรับ ท่านไปห้องหนังสือหรือขอรับ?” สวีอีถาม

“อืม เจ้าบ่นพึมพำอะไรล่ะ?” หยู่เหวินเห้าเห็นเขาบุ่มบ่ามเป็นอย่างมาก จึงตำหนิ

สวีอีฉีกยิ้ม “แม่นมสี่เรียกข้าน้อยให้เขียนรายการส่งไปที่ห้องครัวขอรับ บอกว่ารอประเดี๋ยวแต่ละบ้านมาส่งของขวัญ ต้องการเชิญให้คนที่มารับประทานของหวานและขนม ความหมายโดยนัยคือทั้งปากและใจหวานซึ้ง ข้าน้อยจึงมาเขียนส่งไปให้ห้องครัว บอกให้ห้องครัวจัดเตรียมขอรับ”

“ไปเถอะ!” หยู่เหวินเห้าเห็นเขาทำเรื่องเป็นทางการ จึงไม่กลั่นแกล้งเขา สั่งให้ไปทำแล้ว

“ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวขอรับ” เมื่อสวีอีไปแล้ว

หยู่เหวินเห้าเข้าห้องหนังสือแล้ว เห็นบนโต๊ะวางกระดาษแผ่นหนึ่งไว้จริงๆ เขาดูครู่หนึ่ง เห็นเพียงอักษรแถวหนึ่งที่เขียนเอียงไปมาไม่เป็นระเบียบ เขาลำบากมากกว่าจะสามารถมองออกและแยกแยะได้อย่างชัดเจน “ซาลาเปาทังหยวนข้าวเหนียว? ชื่อเล่นนี้ง่ายดายขนาดนี้? งั้นข้าก็ทำได้นี่”

เขารู้สึกว่าบางอักษรมีที่ไม่เรียบร้อยอยู่บ้าง จึงได้เขียนขึ้นใหม่อีกฉบับ “แต่ว่า ยายหยวนความคิดหลักแหลม ซาลาเปานี่ใหญ่กว่าทังหยวน ทังหยวนใหญ่กว่าข้าวเหนียว ก็ใหญ่กลางเล็กพอดี ซาลาเปาเป็นคนโต ทังหยวนคือคนที่สอง ข้าวเหนียวคือคนที่สาม ได้แล้ว!”

หลังจากเขาเขียนเสร็จ จึงฉวยโอกาสที่ยังเช้าอยู่ รีบส่งเข้าวังก่อน

บนมุมซ้ายของโต๊ะ กระดาษแผ่นหนึ่งที่ใช้หยกขาวทับกระดาษไว้ ด้านบนเขียนว่า “คงชิน หนันซิง เหริ่นตง” หกคำ

ตอนนี้ กระดาษใบนี้ เห็นได้ชัดว่าโดดเดี่ยวเป็นพิเศษ

สามอย่างนี้ล้วนเป็นยาจีน เป็นหยวนชิงหลิงคิดกลั่นกรองออกมา นางคิดว่าหลังจากนี้ต้องการจะเปิดคณะแพทยศาสตร์ เด็กทั้งสามหลังจากนี้จะต้องเรียนจากนาง แพทย์แผนจีนดั้งเดิมจะเสื่อมโทรมไม่ได้ ดังนั้น นางจึงใช้สามสิ่งนี้เป็นชื่อเล่นของลูกๆ ส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาไปทางด้านการแพทย์

ชื่อเล่นส่งถึงไท่ซ่างหวงทางนั้น ไท่ซ่างหวงดูแล้ว ค่อนข้างไม่เต็มใจ หยู่เหวินเห้าจึงกล่าว: “นี่คือยายหยวนตั้ง และแยกแยะได้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านดูสิ ซาลาเปาใหญ่กว่าทังหยวน ทังหยวนใหญ่กว่าข้าวเหนียว แยกแยะได้ดี ใช่หรือไม่ขอรับ? ยายหยวนฉลาดมาก”

ไท่ซ่างหวงได้ยินว่าหยวนชิงหลิงตั้ง จึงอดกลั้นไว้ อย่างไรเสียคนอื่นเขาตั้งครรภ์สิบเดือนให้กำเนิดบุตรออกมาด้วยความยากลำบาก ตั้งชื่อเล่นก็ไม่อนุญาตหรือ?

“เอาเถอะ ชื่อเล่นไม่สำคัญ หลังจากครบหนึ่งปี ก็ไม่เรียกชื่อเล่นแล้ว ใช้ชั่วคราวเถอะ” ไท่ซ่างหวงกล่าว

หยู่เหวินเห้าแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็ไปหาฮ่องเต้หมิงหยวนด้วยความดีใจเหลือเกิน

เมื่อคืนฮ่องเต้หมิงหยวนเหนื่อยเล็กน้อย ช่วงเที่ยงได้บรรทมไปครู่หนึ่งแล้ว เพิ่งจะตื่นขึ้นมาไม่นานก็ได้ยินว่าหยู่เหวินเห้ามา จึงได้ทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าแล้วพบเขา

บอกว่าเอาชื่อเล่นมา จึงดูครู่หนึ่ง ก็รู้สึกรังเกียจเล็กน้อยอย่างแท้จริง หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ยายหยวนตั้ง เสด็จปู่เห็นด้วยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินว่าไท่ซ่างหวงเห็นด้วยแล้ว บอกขันทีสั่งให้บัณฑิตเข้ามาร่างกำหนดพระราชโองการ อนุญาตให้เขียนชื่อเล่นลงด้านข้างของแผนภูมิหยกประจำราชวงศ์ เอาพระประสงค์และชื่อเล่นส่งไปให้อ๋องชินลุ่ยหัวหน้าตระกูลในปัจจุบัน

หยู่เหวินเห้ารู้สึกสบายใจเป็นที่สุด

เพราะว่าชื่อเล่นตามหลักแล้วไม่ควรเขียนในแผนภูมิหยก แต่ว่า นี่เป็นการเห็นถึงความสำคัญและยอมรับของเสด็จพ่อที่มีต่อยายหยวนแล้ว

หลังจากออกมาจากห้องทรงพระอักษร ฉางกงกงขวางเขาไว้ ยื่นสิ่งของให้หยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้าเปิดออก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเสื้อคลุมเล็กๆสามชุด

“ที่บ้านของข้าทำเองกับมือ ท่านอ๋องอย่าได้รังเกียจ” ฉางกงกงกล่าวด้วยความเหนียมอาย

“ท่านทำเองกับมือ? ท่านยังทำงานเย็บปักถักร้อยเป็นด้วย?” หยู่เหวินเห้ารู้สึกแปลกใจมาก

“ไม่เป็นไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ? เสื้อผ้าเครื่องใช้บางอย่างของฮ่องเต้ ก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นแตะต้อง” ฉางกงกงก็ไม่ได้รู้สึกอายคน ตอนนี้เพศสภาพสำหรับเขาแล้ว ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไหร่ แข็งแรงหรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน