ตอนที่มาถึงจวนจูกั๋วกง ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
คนเฝ้าประตูเข้าไปรายงานเพราะรู้ถึงสถานะของหยวนชิงหลิง แต่ว่า พาหมอหลวงเฉาไปด้วย ก็ถูกต้อนรับอย่างยินดีไม่มากก็น้อย
หลังจากเข้าไปในจวนจูกั๋วกงแล้ว ในจวนจูกั๋วกงเต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบสงัดหนักอึ้ง เวลาบ่าวรับใช้ที่เดินไปมาต่างก็เขย่งเท้าทำเสียงให้เบาที่สุด
หยวนชิงหลิงกับหมอหลวงเฉาถูกเชิญไปที่โถงหลัก ในห้องโถงหลักมีคนตระกูลจูนั่งอยู่เต็มไปหมด ตี๋เว่ยหมิงกับฮูหยินก็อยู่ด้วย พอเห็นหยวนชิงหลิง ทั้งสองคนกับคนอื่นๆก็ลุกขึ้นมาคำนับ
หยวนชิงหลิงพูดคำว่าตามสบายเบาๆหนึ่งประโยค เห็นคนที่นั่งอยู่ต่างก็ใช้สายตาที่ค่อนข้างแปลกประหลาดมองมาที่นาง คงจะสงสัยว่านางมาทำอะไร
ขณะเดียวกันตี๋เว่ยหมิงก็ถามขึ้นว่า “พระชายารัชทายาททรงมีน้ำพระทัยมาก ยังต้องลำบากให้ท่านมาเยี่ยมเยียนด้วยตนเอง นี่เป็นความคิดของรัชทายาทกระมัง รัชทายาทช่างมีน้ำใจจริงๆ ”
คำพูดของตี๋เว่ยหมิง แฝงแววประชดประชัน หมายถึงว่าหยวนชิงหลิงนั้นได้รับคำสั่งจากรัชทายาทเพื่อมาทำการแสดง
ฉะนั้น พอคำพูดนี้ของเขาพูดออกไป คนที่นิ่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลจู ต่างก็เผยให้เห็นสีหน้าที่ดูจะเข้าใจมากขึ้น
ก็ไม่น่าแปลก ตอนนี้รัชทายาทเพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ตำแหน่งยังไม่มั่นคง และเพิ่งจะมีความเห็นเรื่องการเมืองการปกครอง ดึงคนสนับสนุนไปทั่วทุกที่ และเคยถูกกั๋วกงคัดค้าน ย่อมต้องมาเยี่ยมเยียนเพื่อเอาใจเป็นธรรมดา
ฉะนั้น แววตาที่พวกเขามองหยวนชิงหลิงนั้น มีแววยโสโอหังอยู่หลายส่วน ราวกับว่าหยวนชิงหลิงนั้นมีเรื่องที่ต้องมาขอร้อง
หยวนชิงหลิงมองความคิดเช่นนี้ของพวกเขาออก ไม่ประหลาดใจ อำนาจของเป่ยถังดูผิวเผินแล้วเหมือนจะถูกรวบรวมอยู่ที่ฮ่องเต้เพียงคนเดียว แต่ว่าสถานการณ์แท้จริงแล้วกลับไม่ใช่เช่นนั้น
เป่ยถังมีเน่ย์เก๋อ หัวหน้าของเน่ย์เก๋อก็คือโสวฝู่ เน่ย์เก๋อไม่ได้มีไว้ประดับบารมี แต่เป็นแผนกที่สามารถถ่วงดุลอำนาจของฮ่องเต้ได้ เรื่องใหญ่หลวงของประเทศส่วนมาก ล้วนเป็นการปรึกษาหารือกันภายในเน่ย์เก๋อก่อนจะถวายฎีกาขึ้นไป แน่นอนว่าเน่ย์เก๋อนั้นไม่สามารถทำโดยพลการได้ แต่ฮ่องเต้ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ส่งผลให้ในบางครั้งฮ่องเต้จะทำอะไร ก็ต้องดูสีหน้าของเหล่าขุนนางใหญ่อยู่หลายส่วน ส่วนรัชทายาทนั้นไม่มีเกียรติในตำแหน่งด้วยซ้ำไป
จูกั๋วกงเป็นขุนนางอาวุโสของเป่ยถัง ตอนนี้ยังคงรับหน้าที่ในกรมทหาร มีความดีความชอบมีอำนาจอย่างแท้จริงและมีอำนาจทางทหารด้วย นี่คือต้นไม้ใหญ่ที่มีรากหยั่งลึกไกลสิบลี้มั่นคงอย่างแท้จริง ฉะนั้นคนในตระกูลจึงมีสิทธิ์ที่จะดูถูกรัชทายาทที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่
หลายรัชสมัยก็เป็นเช่นนี้ ขุนนางอาวุโสผู้มั่นคง รัชทายาทที่เปลี่ยนผัน ตำแหน่งอาวุโสนั้นยากจะสั่นคลอน แต่รัชทายาทนั้นมีการแทนที่เสมอ
หยวนชิงหลิงตอบกลับคำพูดนี้ของตี๋เว่ยหมิงหรือไม่ นางไม่ตอบ เพียงแค่ยิ้มบางๆแสดงถึงมารยาท
กลับเป็นหมอหลวงเฉาที่พูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทได้ยินว่าโรคขัดเบาของฮูหยินกั๋วกงกำเริบ เจ็บปวดยากจะทานทน จึงได้มามอบยาระงับปวดเป็นการเฉพาะ”
ตี๋เว่ยหมิงพูดเสียงเรียบเฉยว่า “ขอบพระทัยพระชายารัชทายาท พระชายารัชทายาทมีความตั้งใจจริงๆ ถึงมาด้วยตนเอง มีตำรับยาก็ให้บ่าวรับใช้ส่งมาก็ได้”
คำพูดนี้ก็ยังเป็นการประชด
ครั้งนี้หยวนชิงหลิงตอบกลับคำพูดของเขา พูดว่า “ยาระงับปวดนี้ไม่ได้เป็นตำรับยา เป็นยาที่มีการกลั่นมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากข้าไม่มาเอง เพื่อดูอาการของฮูหยินกั๋วกง เกรงว่าจะให้ยาในอัตราส่วนที่ไม่เหมาะสม ไม่ต้องพูดถึงเรื่องตั้งใจหรือไม่ ฮูหยินกั๋วกงทำเรื่องดีๆไว้มากมายทำให้คนอย่างข้ารู้สึกเคารพนับถือ นางเป็นคนดี คนดีไม่สมควรต้องได้รับความทุกข์ แม่ทัพใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดขอบคุณอยู่ตลอดเวลา ข้าไม่ได้มาเยี่ยมท่านเสียหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...