บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 53

บทที่ 53 กระดาษติดค้าง

เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นแผนการที่วางไว้หมดแล้ว

เสี่ยวโหลจื่อกลายเป็นแพะรับบาป ตั๋วเงินถูกค้นเจอในห้องของเขา ทั้งยังมีตราประทับของจวนอ๋องฉู่อีกด้วย

และนางกลับถูกกล่าวหาว่าเข้าไปรักษาไท่ซ่างหวงเองอย่างไม่สนใคร ถ้าหากว่าไม่เจอเรื่องยาจิ่วจ่วนนี้ อย่างนั้นนางก็ไม่มีทางรอดพ้นจากผู้ต้องสงสัยแน่

ตอนนี้ นางรอดพ้นแล้วหรือยัง?เกรงว่าจะยัง เพราะฝ่าบาทกำลังแอบสืบแบบลับๆ จวนอ๋องฉู่ยังคงอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานอยู่

ไท่ซ่างหวงจะคิดยังไงกับเรื่องนี้กันแน่?นางอดไม่ได้จึงหันไปมองเขา

ไท่ซ่างหวงก็จ้องนางด้วยสายเคร่งขรึม

หยวนชิงหลิงจึงวางฝูเป่าลง แล้วพยายามเก็บอาการเอาไว้

นางรู้ว่าตอนนี้ไท่ซ่างหวงเองก็น่าจะรู้อะไรบางอย่างอยู่ ถึงนางจะไม่ยอมพูด ยังไงไท่ซ่างหวงก็ฟังฝูเป่าไม่รู้เรื่อง

“มานี่!” ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นเสียงแข็ง

หยวนชิงหลิงลุกขึ้นแล้วค่อยๆ เดินมา “เชิญไท่ซ่างหวงรับสั่งเพคะ”

“เจ้าคิดอะไรอยู่?ทำไมอยู่ดีๆ สีหน้าถึงเปลี่ยนไป?” ไท่ซ่างหวงถามตรงๆ

หยวนชิงหลิงเหลือบมองฉางกงกงกับแม่นมสี่ครั้งหนึ่ง พลางส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้คิดอะไรเพคะ ที่สีหน้าเปลี่ยนไปอาจเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอที่ยังไม่ได้เสวยอาหารเช้าเพคะ”

แม่นมสี่ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ไท่ซ่างหวงก็ยังไม่เสวย ตอนนี้กำลังเตรียม อีกเดี๋ยวก็คงได้เสวย”

“ขอบคุณแม่นม!” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นเบาๆ

ไท่ซ่างหวงก็ไม่ถามต่อแล้ว หลังจากถอนพิษออกจากร่างกายก็ค่อนข้างอ่อนแอมาก ขนาดจ้องมองหยวนชิงหลิง ยังไม่สามารถจ้องได้นาน

อาหารเช้าคือโจ๊กเนื้อ หยวนชิงหลิงกินไปสองถ้วย ถึงรู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น ฝูเป่าอ้าปากแลบลิ้นออกมาด้วยความหิว พร้อมทั้งน้ำลายไหลออกมา นางจึงหันไปพูดกับแม่นมสี่ “ฝูเป่ากินโจ๊กได้แล้ว ทำให้หน่อยนะแบบไม่ต้องใส่เกลือ สุนัขต้องกินของที่จืดหน่อย ที่จริงไท่ซ่างหวงเองก็ต้องเสวยอาหารจืด”

“ข้าไม่เสวยอาหารจืด” ไท่ซ่างหวงรีบพูดขึ้น

“ต้องเสวยเพคะ!” หยวนชิงหลิงหันมามองเขาด้วยสายตาจริงจัง

“เจ้ามันพวกยุ่งเรื่องคนอื่น ยุ่งไปซะทุกเรื่อง แล้วยังจะมายุ่งเรื่องข้าเสวยอาหารจืดไม่จืดอีก?” ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างโมโห และนางก็รู้ที่เขาเรียกมานั้นก็เพื่อต่อว่า

“เรื่องอื่นหม่อมฉันไม่ยุ่ง แต่เรื่องอาหารหม่อมฉันจำเป็นต้องยุ่งเพคะ” หยวนชิงหลิงพูดออกมาสองแง่สองง่าม

ไท่ซ่างหวงจึงไม่พูดต่อ

ตาแก่นี่ เฉลียวฉลาด

ดังนั้นเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษได้หรือ?เขาจะคิดว่าเป็นฝีมือเสี่ยวโหลจื่อจริงหรือ?

แม่นมสี่เอาโจ๊กให้ฝูเป่าที่เตียงไม้ ฉางกงกงก็ไปดูแลเรื่องการต้มซุป

หยวนชิงหลิงพึ่งเดินมาจึงอยากถามไท่ซ่างหวง แต่กลับได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอก “ฝ่าบาทมีรับสั่งพระราชทานของให้พระชายาอ๋องฉู่!”

หยวนชิงหลิงชะงักไปชั่วขณะ พลางหันไปมองด้านนอก ไท่ซ่างหวงจึงพูดขึ้น “ยืนนิ่งอยู่ทำไม?ยังไม่รีบออกไปรับของพระราชทานอีกหรือ?”

“เพคะ!” หยวนชิงหลิงจึงรีบออกไป พลันเห็นมู่หรูกงกงยืนถือถาดอย่างสวยอยู่ด้านนอก อ๋องฉีกับฉู่หมิงชุ่ยที่ยังไม่กลับ ก็หันมามองหยวนชิงหลิง

“ฝ่าบาทมีรับสั่ง พระชายาอ๋องฉู่มีคุณความดี จึงได้พระราชทานไข่มุกหนันสองเส้นที่หลิวฉิวบรรณาการมาให้ และทองคำอีกพันตำลึง!” มู่หรูกงกงพูด

หยวนชิงหลิงคุกเข่าลง “ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ”

ฉู่หมิงชุ่ยหันมามองจนลูกตาแทบถลนออกมา พระราชทานไข่มุกหนันให้ยังไม่พอ ยังพระราชทานทองคำให้อีกหนึ่งพันตำลึงเลยหรือ?ทำไมเสด็จพ่อถึงให้ความสำคัญกับนางขนาดนี้?

มู่หรูกงกงวางถาดใส่มือหยวนชิงหลิง พร้อมกับยิ้มแล้วพูดขึ้น “พระชายา นี่คือไข่มุกหนันที่หลิวฉิวนำเข้ามาพ่ะย่ะค่ะ ล้ำค่ามาก ไม่มีอะไรเทียบได้เลย พระชายาต้องรักษามันไว้ให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณมาก กงกง” หยวนชิงหลิงลุกขึ้นแล้วพูด

“กระหม่อมเข้าไปคารวะไท่ซ่างหวงก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรูกงกงพูดขึ้น พลันหมุนตัวเดินออกไปทันที

หยวนชิงหลิงหันมามองที่ถาดกลับไม่เห็นทองคำ มีแค่เพียงไข่มุกหนันสองเส้นที่แวววาวสวยงามมาก และด้านล่างไข่มุกก็ทับกระดาษไว้หนึ่งใบ นางจึงเปิดดู และเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก เป็นการติดค้างทองคำพันตำลึง

พระราชทานยังจะติดค้างหรือ?

ฉู่หมิงชุ่ยเดินเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้ม “ขอแสดงความยินดีกับชายาอ๋องฉู่ที่ได้รับพระราชทานจากเสด็จพ่อเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน