อ๋องฉีขมวดคิ้วมุ่น “นางตายไปแล้ว ทำไมเจ้าต้องพูดถึงนางขึ้นมาในเวลานี้ด้วย?”
หยวนหย่งอี้บังคับถามต่อไปว่า "เจ้าจะมองว่าข้าเป็นคนขี้ใจน้อยก็ดี เป็นคนใจแคบก็ช่าง ข้าแค่อยากจะถามเจ้าว่า ตอนนี้ในใจเจ้ายังมีนางอยู่หรือไม่? ยังคงคิดถึงคำนึงหานางอยู่หรือไม่?"
อ๋องฉีหลุบสายตาลง ฝืนปกปิดความรู้สึกเจ็บปวดที่วาบผ่านขึ้นมาในดวงตา “ พวกเราไม่พูดถึงนางได้หรือไม่? คนก็ตายไปแล้ว ไม่ว่าข้าจะคิดถึงนางหรือไม่ มันยังมีความหมายอะไรอีกหรือ?มันส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราด้วยล่ะ? ตอนนี้ข้าอยากอยู่กับเจ้า อยากให้เจ้ามาเป็นชายาเอก หลังจากกลับไปเมืองหลวง ข้าจะรีบเข้าวังไปทูลกับเสด็จพ่อและเสด็จแม่ จะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด”
“เจ้าคิดว่าข้าอยากได้ตำแหน่งชายาเอกอย่างนั้นรึ?” ในใจของหยวนหย่งอี้เย็นเฉียบลงทันที
อ๋องฉียื่นมือออกไปประคองไหล่นาง พูดเกลี้ยกล่อมอย่างอดทนว่า “ข้าไม่ได้หมายความว่าเจ้าอยากได้ตำแหน่งพระชายาเอก แต่ข้าสามารถให้มันกับเจ้าได้ เรื่องนี้ข้าสัญญากับเจ้า ไม่มีการแบ่งรับแบ่งสู้ใด ๆ ทั้งสิ้น”
“สิ่งที่เจ้าสามารถให้ข้าได้ อาจไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเสมอไป กระทั่งคำถามที่ข้าถามไป เจ้าก็ยังไม่อาจตอบข้าได้ด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่าตัวเองมีความจริงใจแค่ไหน?” หยวนหย่งอี้ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เมื่อครู่ในดวงตายังคงมีความเจ็บปวดอยู่บ้าง แต่ตอนนี้กลับสงบนิ่งลงมาได้แล้ว
ใบหน้าอันหล่อเหลาของอ๋องฉี คล้ายมีหมอกควันอึมครึมเคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง "มีนางหรือไม่ มันสำคัญขนาดนั้นเลยเชียวหรือ?"
“ถ้าข้าบอกเจ้าว่า ในใจข้ามีผู้ชายคนอื่นอยู่ เจ้าจะถือสาหรือไม่ล่ะ?” หยวนหย่งอี้ตอบกลับด้วยคำถาม
อ๋องฉีโกรธจัดขึ้นมาทันที "ใคร? ไอ้วายร้ายนั่นมันเป็นใคร?"
หยวนหย่งอี้หัวเราะออกมา เป็นการหัวเราะที่ดูอ่อนล้าโรยแรงอย่างถึงที่สุด “ดังนั้น เจ้าถือสาได้ แต่ข้าถือสาไม่ได้อย่างนั้นรึ?”
นางหันหลังกลับ เงาแผ่นหลังชะงักค้างแข็งทื่อ อยากไปจากตรงนี้ แต่ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ กลับไม่อาจก้าวเท้าออกไปได้แม้แต่ก้าวเดียว ในใจยังรู้สึกมีความหวังเล็ก ๆ เป็นความหวังว่าจะได้ยินคำตอบของเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นคำโกหกเพื่อให้นางสบายใจก็ตาม
นางสามารถหลอกตัวเองได้ แต่เขาต้องเป็นฝ่ายหลอกนางให้ก่อน นางถึงจะสามารถพูดโน้มน้าวใจตัวเองได้
นางเป็นฝ่ายยอมถอยให้จนถึงขนาดนี้แล้ว
หลังจากรอแล้วครู่หนึ่ง ก็ยังคงเงียบงันไม่เปลี่ยน หยวนหย่งอี้จึงเดินออกไปช้า ๆ "เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ข้าไปดีกว่า"
อ๋องฉีคว้าข้อมือของนาง แล้วออกแรงบังคับดึงตัวนางเข้ามาข้างหน้า หยวนหย่งอี้ช้อนสายตาขึ้นมอง “ถ้าคิดจะลงมือจริง ๆ ล่ะก็ เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้าหรอกนะ”
อ๋องฉีมองนางอย่างจนใจ “เราไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้หรือ?”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อนก็พอ” หยวนหย่งอี้พูด
อ๋องฉีถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่ง นัยน์ตาหมองเศร้าลงเล็กน้อย “ไม่รู้เหมือนกันว่ามันนับเป็นความคิดถึงคำนึงหาหรือไม่ ข้ากับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากันมานานกว่าหนึ่งปี จะบอกว่าสามารถลืมได้จนหมดสิ้นไม่มีเหลือ ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก”
“นางเคยทำร้ายเจ้า ทั้งยังเกือบทำร้ายเจ้าจนต้องตายอยู่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่?” หยวนหย่งอี้มองเขา
อ๋องฉีค่อย ๆ ปล่อยมือของนางช้า ๆ สีหน้าหนักอึ้งมืดมนราวจมลงไปในก้นแม่น้ำอันมืดมิด "ข้าจำได้ ข้าเกลียดนาง แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะเกลียดนางอีกรึ? คนก็ตายไปแล้ว ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ข้าไม่อยากจดจำความทรงจำอันเลวร้ายน่ารังเกียจเหล่านั้น"
หยวนหย่งอี้ยิ้มเย็นชา “ดังนั้น ตอนนี้เจ้าเลยจดจำแต่ความทรงจำที่ดี ๆ ของนางอย่างนั้นสินะ?”
อ๋องฉีถามกลับว่า “ทำไมเราต้องจดจำเรื่องไม่ดีด้วยล่ะ? นางตายไปแล้ว ไม่มีทางรู้สึกอะไรได้อีก แต่ข้ายังมีชีวิตอยู่ หากข้าเอาแต่จดจำเรื่องน่าเศร้า หรือเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นเอาไว้ตลอดเวลา นั่นจะไม่เป็นการทรมานตัวเองหรอกหรือ?”
หยวนหย่งอี้ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็ตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดแล้ว อันที่จริงการที่เขาพูดอะไรเสียมากมายขนาดนี้ ก็เพราะเขาแค่ไม่อาจลืมความรู้สึกรักใคร่ผูกพันได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจเขายังคงมีฉู่หมิงชุ่ยไม่เคยเปลี่ยน
นางรู้สึกทรมานใจมาก แต่กลับค่อย ๆ เกิดความรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างน่าประหลาด รู้ว่าตัวเองควรไปที่ไหนควรทำอะไรเสียที นางเงยหน้าขึ้นมองเขา รอยยิ้มค่อย ๆ แย้มกว้างขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าพูดได้ถูกต้องแล้ว ทำไมต้องจดจำเรื่องเลวร้าย จดจำแต่เรื่องดีงามเถอะ เช่นนี้ชีวิตเราจะง่ายขึ้นมากทีเดียว"
พูดจบนางก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
อ๋องฉีไม่ฝืนพยายามรั้งนางให้อยู่ต่ออีก ไม่รู้ว่าตอนที่พูดประโยคนี้ นางมีความหมายว่าอย่างไร แค่รู้สึกว่าสีหน้าของนางซีดเซียวหมองหม่น ราวกับจิตใจของนางกำลังหนักอึ้งหดหู่
ส่วนหนึ่งภายในหัวใจ มันเจ็บปวดเหมือนถูกหนอนแมลงรุมกัดกิน เจ็บปวดเสียวแปลบ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...