เดิมทีจวิ้นจู่องจิ้งต้องอยู่กับไทเฮา เมื่อถูกไทเฮาประณาม ทั้งได้เห็นว่าไทเฮาทรงประชวรพระวาโย ในใจก็หวาดกลัว จึงฉวยโอกาสระหว่างที่กำลังวุ่นวายโกลาหลหนีออกมา เมื่อมาถึงสวนว่าง ย่อมจะต้องมีคนมาล้อมถามว่าเกิดอะไรขึ้นอยากขาดไปไม่ได้ นางแผดเสียงร้องตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว ว่าพระชายารัชทายาทคิดจะฆ่าฮู่เฟย ยังบอกด้วยว่าพระชายารัชทายาทเคยขึ้นเขาโรคเรื้อนมาก่อน ติดไออัปมงคลกลับมาด้วย
บวกกับท่าทางของเสี้ยนจู่โหรหมิ่น ที่เหมือนจะตกใจมากเช่นกัน เอาแต่พูดว่า: "ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ไม่รู้ว่าทำไมพระชายารัชทายาทถึงพุ่งเข้าไปชนฮู่เฟยอย่างนั้น ชนจนฮู่เฟยไปกระแทกกับโต๊ะ ส่งผลกระทบกับครรภ์ของนาง ทั้งเนื้อทั้งตัวของพระชายารัชทายาทเหมือนว่าถูกครอบงำด้วยมนต์ดำเลย ทั้งยังตีข้าด้วย”
ทุกคนไม่รู้ว่าข้างในวุ่นวายจนมีสภาพเป็นอย่างไรบ้างแล้ว รู้แค่ว่านับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้เสด็จเข้าไป ก็ยังไม่ออกมาอีกเลย แม้กระทั่งรัชทายาทกับอ๋องชินลุ่ยก็หายตัวไป เหลือเพียงอ๋องหวย อ๋องซุน และอ๋องจี้ดูสถานการณ์อยู่ที่นี่
หลังจากฟังคำพูดของจวิ้นจู่องจิ้งกับเสี้ยนจู่โหรหมิ่น มีหลายคนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน ทุกคนคงให้น้ำหนักต่อคำพูดที่เป็นลางอัปมงคลของเสี้ยนจู่โหรหมิ่น แต่วันนี้ ทุกคนต่างก็ไม่เต็มใจจะยอมรับคำพูดที่เป็นลางอัปมงคลเช่นนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองของพสกนิกรทั่วหล้า พระชายารัชทายาทได้กลายเป็นวีรสตรีของเป่ยถัง ผู้มีผลงานในการเอาชนะโรคเรื้อนของเป่ยถังลงได้สำเร็จไปแล้ว
เวลานั้นกู้ซือได้พากองทหารรักษาพระองค์มาถึงพอดี แล้วประกาศรับสั่งจากฮ่องเต้หยวนหมิงว่าจวิ้นจู่องจิ้ง กับเสี้ยนจู่โหรหมิ่นได้ก่อความผิดด้วยการชนใส่ฮู่เฟย ส่งผลให้ฮู่เฟยล้มลงจนครรภ์กระทบกระเทือน จึงมีคำสั่งให้เข้าควบคุมตัวและนำไปขังไว้ก่อน รอให้ฮู่เฟยมีพระประสูติการแล้วจึงค่อยสั่งลงโทษ
จวิ้นจู่องจิ้งได้ยินคำสั่งที่กู้ซือประกาศ ก็ตกใจจนเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น พูดแก้ตัวด้วยสีหน้าซีดเผือดว่า: "ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่ข้านะ เป็นพระชายารัชทายาทต่างหาก เป็นนางที่ผลักฮู่เฟยจนล้ม"
เสี้ยนจู่โหรหมิ่นเดินโซซัดโซเซขึ้นไปข้างหน้า พยุงจวิ้นจู่องจิ้งให้ลุกขึ้น กำหมัดแน่นแล้วหันไปพูดใส่กู้ซือด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า "ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ท่านแม่ของข้าที่ทำ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นพระชายารัชทายาท"
กู้ซือต้องทำให้เรื่องเงียบลงโดยเร็ว เขามาพร้อมกับรับสั่งของฝ่าบาท ไฉนเลยจะยอมปล่อยให้พวกนางพูดพล่ามให้เรื่องวุ่นวายต่อไปได้ ? จึงยกมือขึ้น เรียกทหารขึ้นมาลากตัวพวกนางสองคนแม่ลูกลงไปทันที
จวิ้นจู่องจิ้งเป็นธิดาคนโปรดขององค์หญิงพระองค์ใหญ่ เสี้ยนจู่โหรหมิ่นยิ่งเป็นที่รักขององค์หญิงพระองค์ใหญ่ แต่ฮ่องเต้หมิงหยวนกลับมีรับสั่งให้กักขังพวกนาง ย่อมแสดงให้เห็นว่าพวกนางไม่อาจปัดความเกี่ยวข้องในเรื่องที่เกิดกับฮู่เฟยได้นั่นเอง
แต่กลับคิดจะใส่ร้ายพระชายารัชทายาทอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
เมื่อกู้ซือได้ยินสิ่งที่ทุกคนแอบกระซิบกระซาบกันอย่างลับ ๆ ก็คิดว่าหัวใจของคนเรานี้ช่างแปลกนัก หลายวันก่อนหน้านี้ ไม่ว่าข้อกล่าวหาอะไรที่เกี่ยวกับพระชายารัชทายาท พวกเขายังพร้อมจะเชื่อได้อย่างไม่มีข้อสงสัยแท้ ๆ
แต่เมื่อพระชายารัชทายาทกลายเป็นวีรสตรีผู้สร้างความดีความชอบ ไม่ว่าคำพูดร้าย ๆ อะไรแม้เพียงประโยคเดียว ก็เป็นเหมือนกับน้ำสกปรกที่สาดใส่นางไปเสียหมด
เขาค่อย ๆ ถอยกลับไปช้า ๆ โสวฝู่ฉู่รับฟังอยู่ข้าง ๆ ด้วยความพึงพอใจ กู้ซือรู้สึกงุนงงมาก จึงเอ่ยถามเบา ๆ ว่า: "โสวฝู่ พวกเขาถึงกับเต็มใจเชื่อพระชายารัชทายาทแบบไม่มีข้อสงสัยเลย พระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกจริง ๆ เสียแล้วกระมัง?"
มุมปากของโสวฝู่ยกโค้งเป็นรอยยิ้ม ดวงตาเล็ก ๆ ของเขาหรี่ลงจนเหลือเพียงรอยต่อ "ใครจะไปคิดสงสัยต่อผู้มีอำนาจกันล่ะ? พระชายารัชทายาทรักษาโรคเรื้อนได้สำเร็จ ในอาณาเขตของนาง นางคือผู้มีอำนาจ ตราบใดที่มีรัศมีอำนาจนี้ล้อมรอบ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เมื่อความรู้สึกของผู้คนที่พากันเทิดทูนบูชานางยังไม่จางหายไป จะไม่มีใครยอมให้นางถูกใส่ร้ายป้ายสีได้เด็ดขาด นี่ล่ะที่เรียกว่าใจคน”
กู้ซือพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
ในห้องคลอดของตำหนักสู้ซิน ด้วยความช่วยเหลือของอาซี่ หยวนชิงหลิงได้ผ่าคลอดให้กับฮู่เฟย ทำให้นางผดุงครรภ์ตกใจจนแทบจะเป็นลม หมอหลวงที่อยู่ด้านนอกก็พากันค้นคว้าพลิกหาข้อมูลทางการแพทย์เป็นพัลวัน มีบันทึกที่เกี่ยวกับการผ่าเปิดท้องเพื่อนำเด็กออกมาจริง แต่อัตราการเสียชีวิตสูงมาก จึงไม่มีใครกล้าลงมือปฏิบัติจริง
แม้ว่าย่าหยวนจะเป็นศาสตราจารย์ด้านการแพทย์แผนจีน แต่นางก็คุ้นเคยกับการแพทย์แผนตะวันตกด้วย ดังนั้น นางจึงไม่รู้สึกผิดแปลกอะไรกับการผ่าตัดคลอด
ตอนที่นางมาถึง เด็กกำลังจะถูกนำออกมาพอดี นางรีบฆ่าเชื้อทั้งตัวแล้วก้าวเข้าไปช่วยทันที
มีเลือดออก ย่าหยวนจึงออกใบสั่งยาชุดหนึ่ง แล้วสั่งให้คนไปเคี่ยวยาทันที รีบใช้ยานั้นเพื่อจับการแข็งตัวของเลือด ตรวจสอบสภาวะเลือดออกอย่างระมัดระวัง ยังไม่เย็บปิดปากแผลก่อน
แต่เด็กกลับไม่ค่อยดีนัก พอนำออกมาได้ ก็แทบไม่มีจังหวะการเต้นของหัวใจเลย หยวนชิงหลิงรีบเข้าไปช่วยกดนวดที่หัวใจ นางผดุงครรภ์ก็วุ่นวายจนมือเท้าสับสน นางวิ่งออกไปด้วยความตื่นตระหนก แล้วบอกว่าฮู่เฟยได้มีพระประสูติการพระโอรส แต่พระโอรสไม่ร้องไห้ ทั้งไม่มีการเต้นของหัวใจด้วย
ฮ่องเต้หมิงหยวนหลับตาลง รู้สึกโศกเศร้าในใจ แต่ยังคงควบคุมจิตใจในสถานการณ์อันสิ้นหวังได้อย่างเป็นปกติ
ฮู่เฟยถูกวางยาชาเฉพาะที่ จึงมีสติตื่นอยู่ตลอด เพียงแต่ขยับไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าเด็กไม่มีการเต้นของหัวใจก็ร้องไห้ออกมา ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ฟังอยู่ด้านนอก ดวงตาก็แดงเรื่อขึ้นมาเช่นกัน
บรรดาท่านหญิงในวังต่างก็ส่งคนของตนเองไปรอฟังข่าวคราวที่ตำหนักสู้ซิน ตอนที่เหล่าคนรับใช้ได้ยินว่าเด็กที่คลอดออกมาตายแล้ว ต่างก็กลับไปรายงานเรื่องนี้ที่ตำหนักใครตำหนักมัน แน่นอนว่าข่าวนี้ย่อมแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่คนที่อยู่ด้านนอกสวนว่างต่างก็รู้กันทั้งหมด
พระโอรสทันทีประสูติออกมาก็สิ้นพระชนม์ นี่นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของเป่ยถังอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...