ตอนตีห้า คนของจวนเหลิ่งพาหยู่เหวินเห้ามาส่ง
เขาดื่มจนเมามาก เข้าประตูมาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว หยวนชิงหลิงสั่งคนพาเขาไปนอนบนเตียง แล้วก็เรียกหมันเอ๋อไปเอาน้ำร้อน มาช่วยเช็ดหน้าเช็ดมือให้เขา
บนตัวเขามีกลิ่นสุราแรงมาก ได้ยินคนของจวนเหลิ่งพูดว่า เขาดื่มสุราไปกว่าห้าชั่ง
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าภายในใจลึกๆเจ็บปวด แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน นับดูแล้วก็ประมาณสองปีกว่า ความใกล้ชิดสนิทสนมกัน ต่างก็คุ้นเคยกันดี รู้ใจกัน ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย แต่เมื่อนับดูแล้ว มีความอันตรายจริงๆ คงมีเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว
นั่งอยู่ข้างกายเขา ฝ่ามือลูบใบหน้าของเขา ช่วงนี้เขาก็ต้องทุกข์ทรมานลำบากอย่างมาก ผิวบนใบหน้าหยาบกระด้างยิ่งกว่าที่ผ่านมา
ตั้งแต่ไปอยู่กรมการพระนคร เขาไปเช้ากลับค่ำงานยุ่งอย่างมากทุกวัน แทบจะไม่มีเวลาหยุดพัก มีเวลาว่างเป็นบางครั้ง ก็ต้องไปยุ่งกับงานอย่างอื่น
เขาลำบากอย่างมาก
เพราะในใจเขาทุกข์ทรมานอย่างมาก จึงได้ดื่มจนเมาขนาดนี้?
จ้องมองดูอยู่สักพัก แล้วก็เห็นเขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา
แววตาของเขาฉายแววโศกเศร้าขึ้นมาให้เห็นก่อน จากนั้นก็กลายเป็นแววตาที่ซับซ้อน จับมือของนางไว้ แล้วก็ดึงไปแนบไว้ที่หน้าของตนเอง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “ทำไมถึงยังไม่นอน?”
เขายืนมือดึงหยวนชิงหลิงลงมา โอบกอดไว้แนบอก คางวางแนบใบหูของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “นอนเถอะ ดูตาของเจ้าสิแดงไปหมดแล้ว”
หยวนชิงหลิงซบอยู่ในอ้อมอกของเขา วางมือไว้บนไหล่ของเขา ร่างกายอ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด
หยู่เหวินเห้าดูเหมือนจะหลับไปอีกแล้ว ลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่หน้าผากของหยวนชิงหลิงแนบชิดดวงตาของเขา สามารถรู้สึกได้ว่าขนตาของเขาสั่นไหว
เขาไม่ได้หลับ
นางรู้สึกว่า ระหว่างสามีภรรยาไม่ควรที่จะสงบกับเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ ดังนั้นนางจึงใช้มือทั้งคู่วางบนหน้าอกของเขา แล้วก็เงยหัวขึ้นมามองดูใบหน้าของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นภายในวัง ถ้ารู้หมดแล้ว”
หยู่เหวินเห้าหลับตาอืมคำหนึ่งอย่างหนักแน่น จากนั้นสักพักแล้วก็ลืมตา พร้อมพูดขึ้นว่า “ห้ามคิดไปเรื่อยเปื่อย เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้”
ดวงตาหยวนชิงหลิงเปียกชื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าโทษข้าไหม?”
หยู่เหวินเห้ามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างค่อนข้างตะลึงว่า “ทำไมเจ้าถึงได้คิดเช่นนี้? ข้าจะโทษเจ้าได้อย่างไร? เจ้าทำอะไรผิด?”
ในใจหยวนชิงหลิงอึดอัดเล็กน้อย “เรื่องมาถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็นเพราะข้า ข้าคิดว่าเจ้าจะห่างเหินกับข้า”
หยู่เหวินเห้าสัมผัสหน้าผากของนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบ ภายในปากยังเต็มไปด้วยกลิ่นสุราว่า “ไม่มีทางไปตลอด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าเป็นคนที่เสียเปรียบที่สุด หากจะมีความผิดจริง ก็เป็นเพราะข้าวู่วาม ไม่ควรที่จะไปเผาตระกูลซู....แต่ตระกูลซู จะสมยอมให้ท้ายหรือ? เจ้าหยวน ต่างไม่มีความผิด เพียงแต่จุดยืนไม่เหมือนกัน ใจของท่านแม่อยู่ที่ตระกูลซู นางไม่เคยคิดถึงประเทศชาติบ้านเมือง นางมีวันนี้ ก็เพราะทำตัวเองทั้งนั้น ข้าในฐานะที่เป็นรูปต่อให้เจ็บปวดใจ แต่ที่จริงข้าไม่มีทางเลือก หากข้าปล่อยปละละเลยไม่สนใจ แล้วจะแตกต่างอะไรกับการให้ท้าย? ไม่อยู่ในตำแหน่งน้ัน ไม่พึงคิดถึงเรื่องของตำแหน่งนั้น ข้าจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ ถึงจะสามารถทำให้คำร่ำลือสงบลง แบบนั้นหลิงเอ๋อร์อภิเษกไปแล้ว ถึงจะไม่มีคำครหา”
คำพูดพวกนี้ หยู่เหวินเห้าใช้พูดปลอบใจตัวเอง ตอนนี้ก็เอามาใช้ปลอบหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงรู้ ต่อให้หลักการพูดได้ดีขนาดไหน ก็ไม่เท่ากับว่าในใจจะไม่ทุกข์ทรมาน
“ส่วนอย่างอื่น เสด็จพ่อควรที่จะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นเถอะ ก่อนที่ข้าจะออกจากวัง ก็ได้ทูลขอให้เสด็จพ่อปลดจากการเป็นองค์ชายรัชทายาทแล้ว”หยู่เหวินเห้าหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ดื่มสุราไปค่อนข้างเยอะ ขมับนูนขึ้นมากระตุก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...