หยวนชิงหลิงรู้ว่าหวงกุ้ยเฟยเห็นเจ้าหญิงเป็นลูกสาวของตนเองจริงๆ ที่จริงหากเรื่องไม่กลับกลายเป็นเช่นนี้ บางทีความรู้สึกอาจจะบริสุทธิ์มากยิ่งกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้ ความรู้สึกค่อนข้างซับซ้อนไปแล้ว
แต่ว่าทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหวงกุ้ยเฟย นางก็ถูกบีบให้ทำเรื่องที่ความสามารถไม่ถึง
หยวนชิงหลิงจับมือของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “องค์ชายรัชทายาทอยู่เป็นเพื่อนนาง ท่านวางใจ กลับไปพักผ่อนเถอะ อากาศหนาวเหน็บขนาดนี้ ท่านไม่กลัวหนาวหรือ”
หวงกุ้ยเฟยน้ำตาไหล น้ำเสียงแฝงไปด้วยความสะอึกสะอื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท เจ้าเชื่อข้า ข้าไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน ก็เพิ่งรู้ตอนที่ฮ่องเต้ประกาศ ตอนนั้น มีคนมากมายขนาดนี้ข้าก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ข้าไม่ได้โลภเกียรติยศพวกนี้”
หยวนชิงหลิงจะไม่รู้หรือ? ดังนั้น นางจึงพูดปลอบว่า “อย่าคิดมาก เรื่องมากมายพวกเราไม่สามารถควบคุมได้ พวกเรารักษาความรู้สึกดั้งเดิมไว้ก็พอ”
หวงกุ้ยเฟยถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าอยู่ภายในวังนี้มากว่าครึ่งชีวิต ปล่อยวางทุกอย่างแล้ว ข้ายินยอมที่จะรักใคร่พวกเขาในฐานะแม่ และก็ทำอยู่เช่นนี้มาตลอด แต่เมื่อได้สถานะนี้มาแล้ว ข้ากลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร”
หยวนชิงหลิงเงียบ
หวงกุ้ยเฟยถามขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้าจะไปไหน?”
หยวนชิงหลิงมองดูมู่หรูกงกง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไปตำหนักชิ่งหยู”
ท่าทีหวงกุ้ยเฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เข้าใจทุกอย่าง จึงพูดขึ้นว่า “อืม เจ้าไปเถอะ”
หยวนชิงหลิงถวายบังคมทูลลา
เดินตามมู่หรูกงกงมาตลอดทาง รู้สึกว่าลมเย็นหนาวเหน็บจนถึงกระดูก พัดผ่านใบหน้าเจ็บปวดเหมือนดั่งถูกมีดบาด นางอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา
เพราะเป็นช่วงวันฉลองวันขึ้นปีใหม่ ภายในวังยังคงมีไฟแสงสีห้อยอยู่ทุกหนทุกแห่ง ความมืดมนหายไปภายใต้แสงไฟ แต่ก็ยังคอยดูอยู่รอบๆ ไปละเว้นแม้เพียงสักจุด ทำให้คนรู้สึกกดดันอย่างมาก
มาถึงหน้าประตูตำหนักชิ่งหยู โคมแดงที่แขวนอยู่ที่ประตูส่องแสงสลัว ราวกับถูกความมืดกลืนกิน ค่อยๆกลืนกินแสงสว่าง โยกเยกไปมาอย่างอ่อนโยน
หน้าประตูตำหนักมีกองทหารรักษาชุดเกราะยืนอยู่ มือถือดาบยาวยืนเรียงอยู่สองแถว ยืนนิ่งไม่ขยับราวกับรูปปั้น แม้แต่แววตาก็ไม่มีแววแห่งความอ่อนโยนเลยสักนิด แลดูเยือกเย็นแข็งทื่อ
เข้าไปภายในตำหนัก นางข้าหลวงที่ยืนอยู่หน้าประตู นางไม่รู้จักสักคน ใบหน้าของทุกคนไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดใด เพียงแต่เมื่อเห็นนางมา ได้ถวายทำความเคารพ
หยวนชิงหลิงมองเห็นมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง ภายใต้แสงที่พร่าเลือน ใบหน้าของเขาไม่สามารถจดจำได้ รูปร่างค่อนข้างคุ้นเคย ในมือของเขาถือถาดไม้ไว้ บนนั้นมีมีดสั้น ผ้าขาว สุรามีพิษวางอยู่
หยวนชิงหลิงมองดูแวบหนึ่ง แล้วก็รีบหันไปมองทางอื่น
มู่หรูกงกงชี้ไปที่ประตูไม้แกะสลักสีแดง พร้อมพูดกับนางว่า “พระชายารัชทายาท เชิญ”
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆก้าวเดินขึ้นไปบนบันไดหิน ขั้นบันไดหินทำความสะอาดแล้ว มองไม่เห็นรอยเลือดแล้ว
มู่หรูกงกงยื่นมือผลักเปิดประตู ประตูไม้ที่หนักส่งเสียงดังเพราะถูกเปิดออก หยวนชิงหลิงเหมือนได้ยินเสียงการเข่นฆ่าดังขึ้นด้านหลัง นางรีบหันไปมอง ด้านหลังกลับมีเพียงลมเย็นที่เหน็บหนาว
เข้าไปภายในตำหนัก มู่หรูกงกงกับหยวนชิงหลิงตรงเข้าไปในตำหนัก เขาเปิดม่านแก้ว พร้อมพูดกับหยวนชิงหลิงว่า “เชิญพระชายารัชทายาท ข้าน้อยจะรออยู่ที่นี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...