หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าอยู่ที่นี่ ส่งนางแทนเจ้าห้า”
กู้ซือพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็ดี จะได้ไม่เป็นการไร้ญาติขาดมิตร”
ภายนอกตำหนัก มีนางข้าหลวงถอดโคมไฟสีแดงลง ความมืดมนเข้ามาแทนที่ในทันใด หยวนชิงหลิงยื่นมือจับเสาไว้ เกือบเป็นลมไป
กู้ซือเดินผ่านนางไป นางเหมือนได้ยินเสียงร้องไห้ของหยู่เหวินหลิง เหมือนมองเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเจ้าห้า ภายในใจเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุด
นางอ่อนล้าไปทั้งตัวไม่มีเรี่ยวแรง หากไม่ใช่เพราะมีบ่าวใช้มาประคองนางไว้ นางเกือบที่จะล้มลงพื้นแล้ว
เสียนเฟยเห็นกู้ซือเข้ามา แววตาแตกสลายอย่างหวาดกลัว ร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งว่า “ข้าต้องการพบองค์ชายรัชทายาท ข้าต้องการพบฮ่องเต้ ข้าต้องการพบไทเฮา.....”
กู้ซือพูดขึ้นว่า “เหนียงเหนียง เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเถอะ”
“ไม่ ยังไม่ถึงวันที่สิบห้า ยังไม่ถึงวันอภิเษกของเจ้าหญิง.... เจ้าหญิงจะอภิเษกในช่วงไว้ทุกข์แม่ไม่ได้ งานแต่งนี้จะได้รับการสาปแช่ง ไม่ต้องเข้ามา”น้ำเสียงของเสียนเฟยเคร่งขรึมเหมือนนกเค้าแมวบินอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี แฝงไปด้วยลมหายใจแห่งความสิ้นหวัง
มู่หรูกงกงพูดขึ้นว่า “เสียนเฟยเหนียงเหนียงวางใจ เจ้าหญิงได้รับหวงกุ้ยเฟยเป็นแม่แล้ว วันอภิเษกของนางจะมีแม่คอยอวยพร นี่เป็นคู่งานอภิเษกที่ดี องค์หญิงจะมีความสุข เหนียงเหนียงจากไปอย่างสบายใจเถอะ”
หยวนชิงหลิงค่อยๆเดินกลับมาในตำหนัก พิงอยู่ตรงด้านข้างม่าน มองเห็นเสียนเฟยปัดถาดไม้ที่วางอยู่ด้านข้างทิ้งอย่างบ้าคลั่ง สุราพิษหกเต็มพื้น มีดสั้นก็หล่นตกลงเสียงดัง มีเพียงผ้าขาวผืนนั้น ถูกลมพัดขึ้นมา พันอยู่บนเข่าของนาง นางยื่นมือไปแกะออกยากสุดแรง สีหน้าหวาดกลัว ร้องคำรามอยู่อย่างสุดเสียง
มู่หรูกงกงจึงรีบพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเหนียงเหนียงเลือกผ้าขาว ข้าน้อยจะช่วยเหนียงเหนียงเอง”
เขาหยิบผ้าขาวขึ้นมา เห็นเพียงผ้าขาวผืนนั้นปลิวไสวเหมือนดั่งงู ห้อยลงมาจากบนคาน มู่หรูกงกงมัดเป็นปม ผูกตรงคอเสียนเฟย
เสียนเฟยดึงผ้าขาวอย่างบ้าคลั่ง ร้องไห้พร้อมตะโกนพูดขึ้นว่า “หยู่เหวินเห้า เจ้ารีบมา ท่านแม่จะทุกพวกเขาฆ่าตายแล้ว เจ้ารีบมา ช่วยแม่ด้วย แม่ไม่อยากตาย.....”
กู้ซือใช้มีดสั้นปลดเชือกบนตัวของนาง มู่หรูกงกงใช้มือดึงผ้าขาว ผ้าขาวผูกคอเสียนเฟยห้อยขึ้นมา
เท้าทั้งคู่ของนางเพิ่งได้รับอิสระ ตอนนี้กลับลอยอยู่บนอากาศแล้ว
หยวนชิงหลิงค่อยๆคุกเข่าลง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงกลวงว่า “หยวนชิงหลิงกราบส่งท่านแม่แทนหยู่เหวินเห้า ขอท่านแม่ไปอย่างสงบ”
บนใบหน้าของนางมีน้ำตาไหลลงทั้งสองข้าง ก้มหน้าก้มตาลง ไม่กล้ามองเท้าทั้งคู่ที่ลอยอยู่บนอากาศ รองเท้าปักลายดอกถูกถีบกระเด็น ตกอยู่ตรงหน้าของนาง หนังมองเห็นลายปักงดงามประณีตบนรองเท้า ลวดลายเหมือนดั่งกล้วยไม้ที่สามารถเต้นรำได้
เสียงคำรามร้องไห้หายเงียบไปแล้ว ได้ยินเพียงเสียงครางในลำคอ นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง รู้สึกเพียงร่างกายอ่อนล้าแข็งทื่อ คนก็แทบจะเป็นลมตายไปแล้ว
เหมือนคิดได้ถึงตอนแรก นางถูกจำคุกอยู่ภายในวัง มองเห็นนางสนมอายุน้อยคนนั้นตายอยู่ตรงหน้าของนาง การมาถึงของชีวิตเต็มไปด้วยปาฏิหาริย์ การหายสาบสูญของชีวิต กลับดูเป็นเหมือนเรื่องล้อเล่นขนาดนี้
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียนเฟยถูกปลดลงมา วางลงบนเตียงอรหันต์ ยังไงกู้ซือกับมู่หรูกงกงก็เห็นแก่หยู่เหวินเห้า จัดการร่างของเสียนเฟยอย่างสุภาพ
หยวนชิงหลิงคุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มกราบนางสามครั้ง ถือเป็นการตอบแทนให้หยู่เหวินเห้ากับแฝดสามแล้ว
หยู่เหวินเห้านั่งรออยู่ในพระตำหนักฉินคุน เขาเหมือนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของท่านแม่ขึ้นมาในทันใด ในที่สุดเขาก็วิ่งออกไปยังอดทนไม่ไหว
เขาวิ่งมาจนถึงตำหนักชิ่งหยู มองเห็นหยวนชิงหลิงถูกบ่าวใช้ประคองออกมา ส่วนกู้ซือกับมู่หรูกงกงก็ตามอยู่ข้างหลัง ฝีเท้าของเขาหยุดทันที สายตามองเข้าไปภายในตำหนักอย่างร้อนใจ
ภายในตำหนัก ตอนนี้เหลือเพียงแสงสว่างของเทียนเล่มเดียว แสงไฟสลัว มองอะไรไม่เห็นเลย
ลมหายใจของเขาถี่มาก แทบจะร้องไห้ไปพร้อมกับหายใจ เหงื่อไหลตกลงมาจากหน้าผาก ไม่รู้ว่าหยาดเหงื่อหรือน้ำตาที่ไหลออกจากตา เขาค่อยๆคุกเข่าลง
ในใจของเขาว่างเปล่า ราวกับว่าชีวิตไม่รู้ที่มาในทันใด เสียงลมหวีดดังเข้าหู เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นหยวนชิงหลิงเดินมาอย่างโซเซ เขายื่นมือไปประคองนางไว้ด้วยสัญชาตญาณ แต่ร่างกายของเขาอ่อนแรง ล้มหงายหลังไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...