ทั้งสองนั่งมองหน้ากัน เดิมทีอยากพูดจา แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน
ด้านนอกลมแรงมาก โคมไฟแกว่งไกว พัดจนไฟในตำหนักจะดับไม่ดับอยู่แล้ว ผ้าม่านก็ม้วนขึ้น เสียงดังหวิวหวิว
ก็เหมือนเช่นนี้ ข้างกายมักจะเหมือนมีน้ำฝนเกล็ดน้ำแข็งหิมะเสมอ ในใจของทั้งสองมีคำเป็นพันหมื่นคำแต่ก็แค่จ้องมองกันเงียบๆอยู่เช่นนี้ ราวกับว่าทั้งหมดได้ทะลุปรุโปร่ง คำพูดกลับเป็นส่วนเกินแล้ว
เขาจับมือของนาง กล่าวเบาๆ: “โชคดีที่มีเจ้าอยู่ ถึงจะเหนื่อยมากก็ไม่รู้สึกลำบากแล้ว”
พวกเขาเป็นแสงเทียนแสงหนึ่งและความอบอุ่นในโลกของกันและกัน
หยวนชิงหลิงซบลงในอ้อมอกของเขาเบาๆ ฟังเสียงหัวใจของเขา ในใจก็รู้สึกสงบเป็นอย่างมาก เขาอยู่ โลกก็อยู่ แม้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ไม่ทำให้นางหวาดกลัวแล้ว
หยู่เหวินเห้าก้มหัวลงจูบนาง ริมฝีปากแห้งเล็กน้อยแฝงไปด้วยความอุ่น นางกอดคอของเขา จึงตระหนักขึ้นได้ว่าพวกเขาเหมือนจะไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันเช่นนี้มานานมากแล้ว
หมันเอ๋อยกอาหารเข้ามาเพิ่งถึงหน้าประตูเห็นฉากนี้เข้า จึงรีบถอยออกไป
เสียงของสวีอีมักจะดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศอยู่เสมอ เขาพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ปากกล่าวด้วยความรีบร้อน: “องค์ชาย จวนอ๋องจี้เกิดเรื่องแล้ว......โอ้ว ทั้งสองท่านกำลังยุ่งอยู่หรือขอรับ?......ประเดี๋ยวข้าน้อยค่อยมาใหม่ขอรับ”
หยู่เหวินเห้าปล่อยหยวนชิงหลิง ใบหน้าที่สง่างามขรึมเล็กน้อย กล่าวด้วยความไม่พอใจ: “เข้ามา จวนอ๋องจี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
สวีอีจึงเข้ามาด้วยท่าทางผ่าเผย กล่าวรายงาน: “คนของจวนอ๋องจี้มาร้องเรียนที่กรมการพระนคร บอกว่าจวนอ๋องจี้มีขโมยเข้า สิ่งของถูกขโมย ผู้ช่วยเจ้ากรมบอกว่ากลัวจะเกี่ยวข้องกับคดีการขโมยแผนที่ทางการทหารก่อนหน้านี้ ดังนั้นเชิญรัชทายาทเสด็จไปด้วยตนเองรอบหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้ารีบคลุมเสื้อผ้าด้านนอก กล่าวกับหยวนชิงหลิง: “ข้าไปสักรอบ”
“ท่านกินก่อนสักหน่อย?” หยวนชิงหลิงเห็นในมือของหมันเอ๋อยกอาหารไว้แล้ว รีบร้องเรียกเสียงหนึ่ง
หยู่เหวินเห้ามือหนึ่งคว้าหมั่นโถวสองลูกยัดใส่ปากไป พูดอย่างคลุมเครือไม่ชัดเจน: “ข้ากลับมาค่อยกินอีก”
สิ้นสุดเสียงพูด ก็ไม่เห็นคนแล้ว สวีอีก็รีบวิ่งตามออกไป
หมั่นเอ๋อยกอาหารกับข้าวเข้ามา ทอดถอนใจแล้วกล่าว: “องค์ชายรัชทายาทลำบากขนาดนี้ แม้แต่อาหารดีๆสักมื้อก็ไม่ได้กิน”
หยวนชิงหลิงก็สงสารเขา กล่าวกับหมันเอ๋อ: “ตุ๋นซุปในหม้อสักหน่อย รอเขากลับมากินเถอะ”
“ได้เจ้าค่ะ ท่านกินก่อน ประเดี๋ยวข้าน้อยไปต้มน้ำซุป วันนี้ในห้องครัวยังมีเนื้ออีกมาก ตระกูลลู่ทางนั้นก็มอบมาให้มากมาย กินไม่ทันแล้ว แม่นมสี่เอาบางส่วนไปรมควันแล้วเจ้าค่ะ”
ตระกูลลู่มีความเกรงอกเกรงใจเป็นอย่างมาก ลู่หยวนอยู่ที่นี่ ตระกูลลู่ก็ส่งคนมาปรนนิบัติ เกรงว่าจะเอาเปรียบจวนอ๋องฉู่ ดังนั้นจึงได้ซื้อเนื้อแล้วเอามาให้ทุกวัน
สถานการณ์วุ่นวายโกลาหล หยวนชิงหลิงก็กินไม่ลง หยิบหมั่นโถวจิ้มกับน้ำผักกินง่ายๆก็จบแล้ว
หมันเอ๋อเห็นดังนั้น ขมวดคิ้วขึ้น “ท่านต้องกินมากๆหน่อยนะเจ้าคะ”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่กินแล้ว หมันเอ๋อ เจ้ากินเถอะ”
“ข้าน้อยกินแล้วเจ้าค่ะ” หมันเอ๋อกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...