ไทเฮาป่วยหนัก เหล่าสนมในวังหลังต่างก็มาเฝ้าไข้อยู่เป็นเพื่อน
ไทเฮาไม่อยากจะพบใครทั้งนั้น อยากจะพบแค่เหล่าของว่าง
เดิมทีลมปราณแห่งความเจ็บป่วยมีความรุนแรง เด็กๆไม่ควรอยู่ข้างกาย แต่หยวนชิงหลิงไม่ได้ห้าม เพราะไม่ใช่โรคที่สามารถติดต่อกันได้ มีเด็กๆคอยอยู่เป็นเพื่อนข้างๆจึงเป็นวาสนา
ฉะนั้น หยวนชิงหลิงจึงพักอาศัยอยู่ในวังเสียเลย สามารถพาลูกๆไปพบได้เสมอ บวกกับนางรู้วิชาแพทย์ อยู่ข้างกายเป็นเพื่อนไทเฮา หากมีสถานการณ์เร่งด่วนอะไรจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที
ด้วยเหตุนี้ ในหลายวันมานี้ ไทเฮาแทบจะอยู่กับนางในตำหนักทั้งวัน
เมื่อถึงวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ไทเฮาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามาก ยังสามารถลุกขึ้นนั่งกินโจ๊กไปหนึ่งถ้วย หลังจากกินเสร็จแล้ว รู้สึกปากไร้รสชาติ ยังอยากจะกินของว่างเสียหน่อย หยวนชิงหลิงจึงให้คนไปทำมาให้
ก่อนหน้านี้ในวังได้เริ่มจัดเตรียมงานศพของไทเฮาแล้ว การวางแผนจัดงานทุกเรื่องล้วนมีกรมวังกับกรมพิธีการเป็นผู้ดำเนินการ ในใจของทุกคนราวกับได้เตรียมทำใจไว้แล้ว วังหลังก็ได้แต่รอช่วงเวลาลมหายใจสุดท้ายของไทเฮา
แต่วันนี้เห็นไทเฮาเจริญอาหารมาก ยังสามารถลุกขึ้นนั่งได้ ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่อาการของโรคกำเริบหนักขึ้น ในหัวใจของทุกคนราวกับเห็นความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
วันไหว้พระจันทร์ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา วังหลังจัดงานเลี้ยงฉลอง
วันนี้อาการของไทเฮาดูจะดีขึ้นมาก บอกว่าอยากจะออกไปดูวังหลัง
อากาศค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นลงแล้ว เดิมทีฮ่องเต้หมิงหยวนไม่อนุญาต แต่ว่านางยืนยันว่าจะไป ได้แต่จัดเตรียมเกี้ยวไว้ให้ ให้คนหามออกไปนั่งเล่นที่ศาลา
วันนี้ในวันคึกคักเป็นพิเศษ ทุกที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟและกระดาษสีสันสดใส ในอุทยานอวี้ฮัวเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ จงใจแขวนประดับตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงเป็นพวงๆเต็มไปหมด ด้านนอกของโคมไฟทุกดวงทุกติดไว้ด้วยกระดาษทายตัวอักษร ไทเฮานั่งอยู่ข้างใน มองดูเหล่าชายหนุ่มหญิงสาวของราชวงศ์ที่เดาคำถามกันอย่างสุดความสามารถ
บรรยากาศคึกคักเหล่านี้ พุ่งทะยานสูงขึ้นตลอด เพราะว่าวันนี้ในวังได้มีการจัดรายการแสดงต่างๆไว้มากมาย ยังมีการจัดเวทีแสดงงิ้วขึ้นมาโดยเฉพาะ รอหลังจากกินอาหารเที่ยงกันแล้วก็สามารถเปิดการแสดงได้
เม็ดบัวสดใหม่ถูกนำขึ้นมาถวาย หยวนชิงหลิงแกะให้ไทเฮาสองเม็ด
ไทเฮากินไม่มาก แต่ว่าชอบรสชาตินี้ “เม็ดบัวนี้ ก็เหมือนชีวิตคน มีความขมก่อนจะพบความหอม ให้รสชาติหวานติดปากยาวนาน”
“เช่นนั้นท่านก็กินให้มากหน่อย”หวงกุ้ยเฟยอุ้มองค์ชายสิบอยู่ข้างๆ พูดขึ้นยิ้มๆ
“ไม่ล่ะ กินของสิ่งนี้ก็เหมือนชีวิตคน ชิมแค่ผิวเผินก็พอ ไม่สามารถกินอย่างตะกละได้”ไทเฮาทำมือกดลง หันหน้าไปมององค์ชายสิบ ยิ้มจนหางคิ้วเป็นรอยย่นขึ้นมา “เด็กคนนี้ ทำไมยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน ประเดี๋ยวจะตัวใหญ่เท่าพี่รองของเขาแล้ว”
พระชายาซุนมองน้องชายสามี และยิ้มขึ้นมา “ท่านก็ช่างพูดเสียจริง สังเกตดูดีๆแล้ว เหมือนเจ้ารองย่อส่วนเลย”
หยวนชิงหลิงก็มองแวบหนึ่ง อดที่จะหัวเราะไม่ได้ ซุนอ๋องเป็นฉบับร่างขยายขององค์ชายสิบจริงๆด้วย ต่างก็มีศีรษะและใบหูที่ใหญ่อวบอ้วน มีใบหน้าอวบอิ่มทั้งคู่
นางพูดยิ้มๆว่า “นี่เป็นหน้าตาของคนมีวาสนา ดีจริงๆ ”
พระชายาอันถามว่า “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าพี่รองจะลดความอ้วนมิใช่หรือ ทำไมไม่เห็นเป็นผลเสียที”
พระชายาซุนเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีว่า “เจ้าเชื่อเขาหรือ ในหนึ่งปีพูดเรื่องลดความอ้วนตั้งกี่ครั้ง ไม่เห็นทำสำเร็จสักครั้ง เขาคุมปากตัวเองไม่ได้ ไม่ได้กินหนึ่งมื้อเหมือนฟ้าจะถล่มลงมาให้ได้ ”
“ปีก่อนดูผอมลงเล็กน้อยแล้ว”
“นั่นเพราะถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ ต้องหลีกเลี่ยงของกินบางอย่าง เขาจึงลดน้ำหนักซะเลย พอร่างกายดีขึ้น ก็ยังคงกินเหมือนเดิม แล้วยังไม่ชอบเคลื่อนไหว เหมือนหมูไม่มีผิด ”
แม้ว่าพระชายาซุนจะบ่นด่าสามี แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง
หรงเยว่ที่กำลังปอกเม็ดบัว ถามไทเฮาว่า “เสด็จย่า ท่านชอบใครระหว่างองค์ชายสิบ หรือเหล่าของว่างมากกว่ากัน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...