บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 790

ทั้งสามคนถือคบเพลิงเดินเข้าไป ทางเทพเจ้าคดเคี้ยวเลี้ยงลดเป็นอย่างมาก ราวกับเขาวงกตก็ไม่ปาน ดีที่ทั้งสามคนดูแผนที่มาก่อน ไม่เช่นนั้นคงหลงทางแน่

ทางสวิ้นจ้างนั้นอยู่บริเวณรอบๆทั้งสี่ด้านของจุดศูนย์กลางวังใต้ดิน เป็นหลุมใหญ่ๆที่ขุดลึกลงไปด้านล่าง มีสิ่งของนานาชนิดที่ถูกฝังไว้พร้อมกันกับศพ โครงกระดูกของม้าวัวและแพะ เงินทองอัญมณีมีค่า เครื่องปั้นดินเผา อาวุธ นางกำนัลกับขันทีที่ปั้นขึ้นจากดินเหนียว ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ทั้งสามคนมองดูแวบหนึ่ง เหมือนสิ่งของที่ฝังร่วมกับโลงศพไม่เคยถูกแตะต้องมาก่อน

หรือพูดอีกอย่างก็คือ คนคนนี้ไม่ได้มาเพื่อขโมยของล้ำค่าในสุสานจริงๆ

เดินต่อเข้าไปข้างใน ก็เป็นจุดศูนย์กลางที่ใช้วางโลงศพแล้ว

ประตูหินได้ถูกทำลายแล้ว ระดับความเสียหายเท่ากับประตูสามหิน หินแตกละเอียดหล่นเกลื่อนพื้น แสงสว่างจากภายในส่องออกมา ทั้งสามคนดับคบเพลิงของตัวเอง โยนทิ้งไว้ข้างนอก แล้วเดินเข้าไป

อากาศข้างในไม่นับว่าอึดอัดมาก เห็นได้ชัดว่าที่นี่ได้ถูกทำลายไม่ใช่แค่เวลาวันสองวันแล้ว

ที่นี่เหมือนตำหนักในวังตำหนักหนึ่ง เสาทั้งสี่ต้นแกะสลักด้วยลวดลายมังกรเหิน ทั้งสูงทั้งยาว ราวกับจะทะลุขึ้นไปบนฟ้า ด้านบนสุดแกะสลักลายเมฆและลายมังกร ภาพวาดฝาผนังต่างๆ ไข่มุกมังกรสี่เม็ดส่องสว่างไปทั่ววังใต้ดิน

โลงศพของฮ่องเต้ฮุยจงถูกวางเอาไว้บนแท่นสูงในวังใต้ดิน ขนาดของแท่นวางนั้นออกแบบตามลักษณะของตำหนัก ราวบันไดหยกขาว ขั้นบันไดหยกขาว เผยให้เห็นถึงเกียรติอันสูงส่งของฮ่องเต้

โลงศพถูกทาด้วยสีทองทั้งหมด ทำมาจากไม้เนื้อทองหนานมู่ ทั้งสามยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ หัวใจก็เย็นวาบไปกว่าครึ่ง เพราะว่าโลงศพไม่ได้ปิดสนิทเอาไว้ ระยะห่างแค่สิบก้าวก็เห็นรอยแยกบนโลงศพ ตะปูโลงศพได้ถูกงัดออกมาทั้งหมดแล้ว

“สวรรค์”กู้ซือสีหน้าขาวซีด หัวใจเต้นระส่ำตกใจเป็นอย่างยิ่ง “เข้ามาหาฮ่องเต้ฮุยจงจริงๆด้วย”

ทั้งสามคนสีหน้าเคร่งขรึม คนคนนี้ไม่ได้มาเพราะสิ่งของที่ได้ทำการฝังร่วมกับศพ แต่มาเพียงเพื่อทำลายศพของฮ่องเต้ฮุยจงอย่างนั้นหรือ นั่นก็หมายความว่าคนคนนี้ต้องเกลียดชังฮ่องเต้ฮุยจงเป็นอย่างยิ่ง

หัวใจของหยู่เหวินเห้าคิดถึงอ๋องชินเป่าขึ้นมาอีกครั้ง เห็นที การคาดเดาของยายหยวนไม่ใช่ก็ใกล้เคียง

เขาอยากจะเดินเข้าไปดู กู้ซือขวางเขาเอาไว้ “ระวังหน่อย ในเมื่อโลงศพเคยถูกคนลงมือแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจมีอันตราย”

“เช่นนั้นก็ใช้พลังฝ่ามือผลักออกเถอะ”หยู่เหวินเห้าพูด

ทั้งสามคนคุกเข่าลงก่อนที่จะโขกหัวคำนับเพื่อเป็นการรายงาน จากนั้นก็ยืนขึ้นขับเคลื่อนพลังฝ่ามือ จึงเห็นฝาโลงของโลงศพไม้เนื้อทองหนานมู่ถูกยกขึ้นมาในทันใด และตกหล่นลงไปที่พื้น

มองโลงศพที่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น หัวใจของหยู่เหวินเห้าไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลย กลับกัน ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งเข้าไปใหญ่

เขาถึงกับไม่กล้าเข้าไปดู เกรงว่าศพของฮ่องเต้ฮุยจงจะถูกคน……

กู้ซือสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆเดินเข้าไปด้านหน้า ในปากพูดว่า “กระหม่อมกู้ซือ คำนับฮ่องเต้ฮุยจง ฮ่องเต้ฮุยจงอย่า……”

น้ำเสียงของเขา หยุดลงอย่างกะทันหัน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

หยู่เหวินเห้ากับอ๋องอันเห็นดังนั้น ก็รีบก้าวขึ้นไปดูข้างหน้า ต่างก็มีสีหน้าตกใจเช่นกัน ดวงตาแทบถลนออกมา

ในโลงศพ นอกจากเงินทองของมีค่ากับผ้าไหมที่ฝังรวมกับศพ ก็ไม่มีอะไรเลย

ศพของฮ่องเต้ฮุยจงหายไปแล้ว

“สวรรค์ ”กู้ซือตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นแล้ว พูดพึมพำว่า “ใครกันแน่ที่ทำเช่นนี้ ถึงกับขโมยศพของฮ่องเต้ฮุยจงไปโดยที่ใครก็ไม่รับรู้เลย คนคนนี้ช่างบังอาจยิ่งนัก”

หลังจากหยู่เหวินเห้าผ่านความตกใจมาแล้ว แววตาเฉียบแหลมก็มองกวาดไปรอบๆ แววตาหยุดนิ่งลงบนฝาโลงที่ถูกเปิดออก เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าดู บนนี้มีตัวอักษรสลักไว้ด้วย”

อ๋องอันกับกู้ซือเดินเข้าไปทันที ด้านในของฝาโลงศพ มีตัวอักษรสิบสองตัวสลักเอาไว้ ถ้าหากไม่สังเกตดูดีๆ จะมองไม่เห็น

“ฮุยจงโหดเหี้ยมไร้ความเมตตา ไม่เหมาะสมที่จะถูกฝังในสุสานจักรพรรดิ”

หยู่เหวินเห้าสีหน้าเขียวคล้ำ กัดฟันกรอดเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นใคร ข้าต้องลากตัวเขาออกมาให้ได้ สับร่างให้เป็นชิ้นๆ”

ทั้งสามคนออกจากวังใต้ดิน ไปรายงานฮ่องเต้หมิงหยวนที่ตำหนักเสี่ยงเอิน

“ท่าน……”ฮ่องเต้หมิงหยวนตกตะลึง “ท่านสงสัยว่าท่านลุงเป็นคนทำหรือ”

ไท่ซ่างหวงโบกมืออย่างยากลำบาก “ไม่ ไม่ใช่ฝีมือเขา เขาไม่ทำเช่นนี้แน่ เจ้าแค่สั่งให้คนไปบอกเขา เขาจะเล่าเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างที่ฮ่องเต้ฮุยจงยังครองบัลลังก์อยู่ให้รัชทายาทได้รับรู้ ให้รัชทายาทไปตรวจสอบเรื่องนี้ แม้ต้องใช้กำลังทั้งหมดของประเทศ ก็ต้องหาศพของฮ่องเต้ฮุยจงกลับมาให้ได้ ”

“พ่ะย่ะค่ะ ขอให้เสด็จพ่อวางใจ ลูกจะทำอย่างไม่เสียดายอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็จะหาร่างของฮ่องเต้ฮุยจงกลับมาให้ได้ ”ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยรับประกัน

ไท่ซ่างหวงอืมหนึ่งเสียง ให้เขาออกไปทำเรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นต้องคอยปรนนิบัติอยู่ข้างเตียง

ตอนที่หยวนชิงหลิงกลับเจ้ามาในตำหนักอีกครั้ง ไท่ซ่างหวงได้ปกปิดความขุ่นมัวในสายตาไว้จนหมด เพียงแต่ไม่พูดจาได้แต่นิ่งมองปลายสุดของที่แขวนมุ้งอย่างใจลอย

หยวนชิงหลิงรู้ว่าเรื่องนี้นางไม่ควรถาม ไม่ควรรับรู้ ฉะนั้น จึงไม่ได้เอ่ยขึ้น ได้แต่อยู่เป็นเพื่อนไท่ซ่างหวงในตำหนัก

เมื่ออาการของไท่ซ่างหวงค่อยๆทรงตัวแล้ว นางออกจากวังไปก็เห็นว่าหยู่เหวินเห้ากลับมาแล้วเช่นกัน ตามกฎแล้ว เขาสมควรจะอยู่เฝ้าที่สุสานจักรพรรดิเป็นเวลาสามวัน

หยู่เหวินเห้าก็เพิ่งจะกลับมาถึงจวนและกำลังเปลี่ยนชุด เห็นหยวนชิงหลิงที่กลับมาจากวังหลวง ก็ถามขึ้นว่า “อาการของเสด็จปู่เป็นอย่างไรบ้าง”

“ทรงตัวดีแล้ว น่าจะไม่ร้ายแรงอะไร”หยวนชิงหลิงเห็นเขารื้อหาเสื้อผ้า ก็หาเสื้อผ้าที่เป็นสีขาวทั้งชุดให้เขา ถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

หยู่เหวินเห้าเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้านาง พูดว่า “ศพของฮ่องเต้ฮุยจงถูกขโมยไป”

หยวนชิงหลิงถามว่า “รู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทำ”

“ไม่รู้”หยู่เหวินเห้ารัดเข็มขัด มองนาง “แต่ว่า ตอนแรกที่เจ้าสงสัยอ๋องชินเป่า ตอนนี้ข้าก็สงสัยเช่นกัน ”

“ท่านได้สั่งให้คนติดตามเขาอยู่มิใช่หรือ มีอะไรผิดปกติหรือไม่”

“ไม่มี ไม่มีหนทางให้ลงมือ ประเดี๋ยวเสด็จลุงกลับเมืองหลวงแล้ว ข้าต้องถามบางเรื่องกับเขา”หยู่เหวินเห้ารินน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะหนึ่งแก้ว แววตาเย็นชานิ่งสนิท “ไม่ว่าจะเป็นใคร ข้าต้องลากตัวคนคนนี้ออกมาให้ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน