บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 837

ผ่านไปสองวัน กรมการพระนครมีการพิพากษา อ๋องชินเป่าถูกประหารด้วยการประทานเหล้าพิษ เก็บร่างไว้อย่างสมบูรณ์

พร้อมกับการไปจากเมืองหลวงของหงเย่ การได้รับโทษทัณฑ์ของอ๋องชินเป่า และอ๋องอันถูกกักบริเวณ เรื่องนี้ดูเหมือนจะสงบลงแล้ว

แต่ว่า ทุกคนต่างก็รู้ดีแก่ใจ นี่เป็นเพียงการเตรียมการก่อนการเผชิญหน้าของทั้งสองประเทศเท่านั้น และเป็นการฉีกมุมที่พ่ายแพ้ของเป่ยถังให้เปิดเผยออกมา

ภายใต้สถานการณ์ที่ดูสงบเงียบ เป็นน้ำร้อนที่กำลังถูกต้มอยู่หม้อหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะถึงจุดเดือดเมื่อไหร่และจะทำให้ฝาหม้อที่สงบนิ่งอยู่นั้นพลิกคว่ำลงมา

แม้ว่าหยู่เหวินเห้ายังคงเป็นเจ้ากรมการพระนคร แต่ว่าได้เข้าสู่การทำงานในเน่ย์เก๋อแล้ว เรื่องมากมายในกรมการพระนครได้มอบหมายให้อ๋องฉีไปดูแล เขาเอาแต่ปรึกษาหารือเรื่องงานกับโสวฝู่ฉู่และเหลิ่งจิ้งเหยียนทั้งวัน บางครั้งแม้จะออกจากวังแล้ว ก็ไปที่บ้านของโสวฝู่ กลับอีกทีก็ดึกดื่นเที่ยงคืน

หยวนชิงหลิงก็ยุ่งอยู่กับเรื่องของโรงเรียนแพทย์ เวลาของสองสามีภรรยาได้สวนทางกันทั้งหมด ตอนที่หยู่เหวินเห้ากลับถึงบ้าน หยวนชิงหลิงก็นอนหลับไปนานแล้ว เมื่อหยวนชิงหลิงออกจากบ้าน หยู่เหวินเห้าก็เพิ่งจะนอนหลับได้ไม่นาน การปฏิสัมพันธ์หนึ่งเดียวของพวกเขา คือการที่หยู่เหวินเห้ากลับมาแล้วจะจูบนางหนึ่งที ตอนที่นางออกจากบ้านก็จะจูบเขาหนึ่งที

หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขากำลังวางแผน แทรกซึมกลับไปทางเซียนเปย การเลือกคนจนกระทั่งถึงการวางแผนทั้งหมดต้องละเอียดรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นเพียงเล็กน้อย นอกจากจะไม่ได้อะไรกลับมาแล้ว ยังเป็นการพัวพันถึงชีวิตคน

และการค้าระหว่างเป่ยถังกับแคว้นต้าโจว ก็กำลังดำเนินการอย่างคึกคัก

ท่านชายสี่เหลิ่งได้รับใบสั่งซื้อจากทางแคว้นต้าโจวมามากมาย ถือครองยอดในตลาดไปครึ่งหนึ่ง สำนักงานใหญ่ของเขาก็ย้ายจากจื๋อลี่มายังเมืองหลวง นับว่าได้ยืนอย่างมั่นคงในที่แห่งนี้แล้ว

เป็นถึงลูกเขยของฮ่องเต้ เขามีอิทธิพลที่มากพอ สามารถได้รับความเชื่อถือจากเหล่าพ่อค้าในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว และเขาเองก็เป็นคนใจกว้าง ทุกคนต่างก็ชื่นชอบที่จะทำการค้ากับเขา

เพียงแต่ว่า ก็มีคนคอยก่อกวนอยู่อย่างลับๆ เขาแต่งงานกับเจ้าหญิงมาระยะหนึ่งแล้ว ทำไมจึงไม่เห็นเจ้าหญิงตั้งครรภ์ขึ้นมาสักที

คำติฉินนินทาเหล่านี้ทำเอาหยู่เหวินหลิงกลัดกลุ้มมิใช่น้อย หยวนชิงหลิงเคยไปปลอบใจนาง ในยุคสมัยนี้เป็นเช่นนี้ แต่งงานเกินสามเดือนแล้ว ถ้าหากยังไม่ตั้งครรภ์ก็ต้องถูกคนนินทา

อาการของลู่หยวนดีขึ้นมากแล้ว สามารถพูดคำง่ายๆได้ และสามารถยืนขึ้นเดินได้บ้าง นี่ต้องยกให้เป็นความดีความชอบที่หยวนหย่งอี้คอยอยู่เป็นเพื่อน ตั้งแต่หยวนชิงหลิงบอกว่าลู่หยวนต้องทำกายภาพบำบัด นางก็คอยฝึกฝนการเดินเป็นเพื่อนลู่หยวนทุกวัน ลู่หยวนมีพลังภายในเป็นพื้นฐาน ด้วยเหตุนี้จึงพัฒนาได้เร็วมาก

จนถึงที่สุดแล้วอ๋องอันก็ยังไม่มาขอโทษ นี่ย่อมมีเหตุผลของเขา เพราะเขาถูกกักบริเวณ แต่ว่า เขาได้สิ่งให้คนส่งจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ลู่หยวน เป็นจดหมายขอโทษ ลู่หยวนอ่านจบแล้วก็เผาทำลายทันที ไม่ได้ให้พ่อแม่ดู และไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร

ลู่หยวนนั้นรู้ดีแก่ใจที่สุด ฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ แต่ว่าฮ่องเต้ไม่ได้ลงโทษ ถ้าเขายังคงติดตามเรื่องนี้นั่นเท่ากับเป็นการล่วงเกินราชวงศ์ เขาไม่สามารถทำให้คนทั้งตระกูลต้องตกอยู่ในอันตราย

ยังดี ฮ่องเต้ก็รับทราบถึงความลำบากของเขา แต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้าพระยาสุข

ใช่แล้ว ปลอดภัยก็ดี

เขาดีใจมากที่หยวนหย่งอี้กลายเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขา พูดถึงเรื่องแต่งงาน พูดตามตรงเขาเองก็ไม่อยากจะแต่งงาน ในใจของคนที่ฝึกวรยุทธทุกคนต่างก็มีความฝันที่อยากจะเป็นผู้กล้าช่วยเหลือคนอื่น เขาหวังว่าจะสามารถถือดาบท่องไปทั่วหล้า

ความคิดนี้เหมือนความคิดตั้งแต่แรกเริ่มของหยวนหย่งอี้ แต่ว่าคนที่จะออกจากบ้าน ถ้าหากในใจยังมีคนที่ต้องห่วงใย เช่นนั้นเส้นทางนี้ก็คงจะเดินได้ไม่เหมือนดังใจหวัง

หลังจากอาการของลู่หยวนนิ่งแล้ว ก็เริ่มฝึกวรยุทธ

ความมุ่งมั่นของเขาน่าตกใจมาก หยวนชิงหลิงเคยบอกว่าเขาต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานมาก แต่เขาใช้ระยะเวลาเพียงสองเดือน ก็ทำให้ตัวเองสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง

หลังจากที่ลู่หยวนหายดีแล้วก็บอกว่าจะไปจากเมืองหลวง ในช่วงเวลาที่หลับใหลไปนั้นทำให้เขารู้สึกว่าเวลามีค่ามาก จำเป็นต้องพูดแล้วทำเลย

พ่อแม่ของตระกูลลู่ก็ไร้ซึ่งหนทาง ได้แต่ตอบตกลง

ก่อนจะจากไป เขาได้นัดพบกันอ๋องฉี

ในช่วงเวลาที่เขาหลับใหลไปนั้น อ๋องฉีมาอยู่เป็นเพื่อนเขาแทบจะทุกวัน แต่หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วก็ไม่เคยมาอีกเลย

อ๋องฉีคิดว่าเขาคงไม่รับรู้ถึงการมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงเวลานั้น ฉะนั้นเมื่อได้รับจดหมายจากลู่หยวน ก็รู้สึกประหลาดใจมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน