บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 845

สรุปบท บทที่ 845 นี่เป็นไปไม่ได้: บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอน บทที่ 845 นี่เป็นไปไม่ได้ จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 845 นี่เป็นไปไม่ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ไม่” หยู่เหวินเห้าคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วก็พูดปฏิเสธขึ้นทันทีว่า “เสด็จพ่อเคารพกตัญญูต่อเสด็จปู่มาตลอด เขาให้ความสนใจเสด็จปู่มากกว่าใครทั้งหมด จะกระทำเรื่องเนรคุณเพียงเพราะเรื่องเล็กแบบนี้ได้อย่างไร? ใช่ว่าเป็นครั้งแรกที่เสด็จปู่เข้ามายุ่งกับการเมือง การแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาทที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาก็ยังเชื่อฟังเสด็จปู่ไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง ต่อให้เสด็จพ่อไม่ยอมไล่เจ้าสี่ไป ไท่ซ่างหวงก็ไม่มีทางขัดขืน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”

เหลิ่งจิ้งเหยียนมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้านั่งลงก่อน ฟังข้าค่อยๆพูด หลังจากฟังเสร็จแล้ว เจ้าก็จะรู้ว่าทำไมฮ่องเต้ถึงทำเช่นนี้”

หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตาอย่างไม่ใส่ใจ ดึงหยู่เหวินเห้ามานั่งลง หยู่เหวินเห้ายังคงแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อ แต่แววตาที่กระสับกระส่ายเปิดเผยความในใจของเขาแล้ว

“ได้ เจ้าพูดมา ข้าฟังดูก่อนว่าเจ้าพูดอย่างไรแล้วข้าค่อยตอบโต้”น้ำเสียงของหยู่เหวินเห้าแฝงไปด้วยความสั่นเทา

เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นว่า “ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ฮ่องเต้เป็นคนกตัญญูจริง ก่อนขึ้นครองราชย์ เป็นองค์ชายรัชทายาทนานหลายปีขนาดนั้น เขามีความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทีครบถ้วนทั้งสองอย่างต่อไท่ซ่างหวงมาตลอด ไท่ซ่างหวงสละบัลลังก์จนถึงตอนนี้ รวมกันก็แปดปีกว่าแล้ว เรื่องใหญ่มากมายในราชสำนัก มีบางครั้งที่เขาก็จะไปถามความเห็นของไท่ซ่างหวง ปกติไท่ซ่างหวงจะชี้แนะสิ่งที่สำคัญ แทรกแซงน้อยครั้งมาก บ่อยครั้ง แม้แต่ความเห็นก็มีให้ไม่มาก.....”

“งั้นก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเจ้าพูดได้อย่างมีสายสัมพันธ์ขนาดนี้ แล้วจะเป็นความคิดของเสด็จพ่อได้อย่างไร?”ในใจหยู่เหวินเห้าวุ่นวายเป็นอย่างมาก ได้ยินเหลิ่งจิ้งเหยียนพูดเช่นนี้ ก็รีบพูดตัดบทตอบโต้เขาทันที

เหลิ่งจิ้งเหยียนมองดูเขาด้วยสายตาลึกล้ำ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ฮ่องเต้ทำเช่นนี้มาตลอด จนกลายเป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง แต่เมื่ออยู่บนบัลลังก์นานแล้ว ผ่านเรื่องราวมามากมาย เรื่องใหญ่มากมายเขาเองก็มีความคิดเป็นของตนเอง ในตอนนี้ เขาก็ไม่ยินยอมที่จะไปถามไท่ซ่างหวง แต่เมื่อกี้ก็พูดแล้ว นี่เป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง ต่อให้ไม่ยินยอมเขาก็จะไปถาม

ในเวลาเช่นนี้ หากไท่ซ่างหวงยังคงเป็นเหมือนปกติ ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรมากมาย เพียงแค่พูดชมว่าเขาทำได้ดี แบบนั้น ในใจของฮ่องแต่ก็จะไม่มีความทุกข์ระทมใจ ในทางกลับกัน เรื่องการแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาท ที่จริงฮ่องเต้กับไท่ซ่างหวงมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ฮ่องเต้ไม่ได้พูดออกมา ไท่ซ่างหวงกลับทำเรื่องหลายอย่างเพื่อเป็นการพูดอ้อมให้ฮ่องเต้ฟัง องค์ชายรัชทายาทเขาเลือกไว้แล้ว นี่ทำให้ในใจของฮ่องเต้เกิดความไม่พอใจ ยังจำก่อนที่จะมีพิธีการแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาทไหม ฮ่องเต้เคยหาเรื่องเจ้าอยู่บ่อยครั้งไหม?

ที่จริงก็เนื่องจากสาเหตุนี้ แต่ต่อมาอ๋องจี้ไม่ได้เรื่อง เจ้าเองก็ลงมือกระทำงานบางอย่างได้อย่างจริงจัง ที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้ามีลูกเป็นแฝดสาม เรื่องนี้ทำให้ฮ่องเต้ดีใจเป็นอย่างมาก ทำให้มองเห็นเจ้าแตกต่างไป และยินยอมที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นองค์ชายรัชทายาท ฮ่องเต้ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ความสัมพันธ์ที่มีกับไท่ซ่างหวงก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง ยังเข้ากันได้ดีเหมือนเดิม แต่ที่จริงในใจฮ่องเต้ยังมีความไม่พอใจอยู่

เพราะสุดท้ายสิ่งที่เขาเลือกกับสิ่งที่ไท่ซ่างหวงเลือก เหมือนกันโดยบังเอิญ ทำให้ไท่ซ่างหวงแลดูมีความมองการณ์ไกล ขัดกับความตั้งใจเดิม ที่เขาตั้งใจจะแต่งตั้งอ๋องจี้ให้เป็นองค์ชายรัชทายาท เขามองคนผิดไป ดังนั้นความแน่นอนในท้ายสุด กลายเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เขาเคยทำมาทั้งหมดถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ทำให้เขาตระหนักได้อย่างแผ่วเบาว่า เขาฉลาดหลักแหลมได้ไม่เท่าไท่ซ่างหวง สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและถือเป็นภัยคุกคาม เพราะหากไท่ซ่างหวงยังมีชีวิตอยู่ ความจงรักภักดีของขุนนางล้วนเป็นไท่ซ่างหวง และองค์ชายรัชทายาทองค์ปัจจุบัน

ไท่ซ่างหวงก็เป็นคนเลือกเองกับมือ หากวันหนึ่ง ไท่ซ่างหวงจะปลดเขา ก็ถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก เจ้าอย่างเถียงข้า ข้าติดตามอยู่ข้างกายฮ่องเต้มามากกว่า ความคิดอ่านในใจของเขาข้าสามารถเข้าใจ เขาถึงขั้นเคยพูดถามล้อเล่นกับข้าว่า มีความเป็นไปได้เช่นนี้ไหม”

“เสด็จปู่ไม่มีทางทำเช่นนี้แน่”หยู่เหวินเห้าพูดพึมพำขึ้น

เหลิ่งจิ้งเหยียนมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวงจะทำเช่นนี้หรือไม่ค่อยว่ากัน แต่ข้าขอถามเจ้าหนึ่งประโยค หากไท่ซ่างหวงต้องการปลดฮ่องเต้ เขาสามารถทำได้ไหม?”

ในใจหยวนชิงหลิงก็เศร้าวิเวกวังเวง ที่เรียกว่าความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ ความสามัคคีในครอบครัว กลับกลายเป็นไม่มีอะไรมากไปกว่าความสำเร็จร่วมกัน เมื่อมีอำนาจและผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ภาพลวงตาของความสามัคคีก็จะถูกฉีกขาดอย่างรวดเร็ว

แสงสุดท้ายในดวงตาของหยู่เหวินเห้า ล้วนหืดหายไปหมด มองดูเหลิ่งจิ้งเหยียน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมเจ้าถึงได้รู้ชัดเจนขนาดนั้น?”

“ฮ่องเต้ไม่ได้ปิดบังข้า สิ่งที่เขาทำ ต้องมีคนเห็นด้วย ต่อให้เป็นเพียงภายนอก เขาก็ต้องการที่จะได้ยินถึงเสียงที่เห็นด้วย”

“และเจ้าก็ไม่ได้พูดกล่อมเขา”น้ำเสียงหยู่เหวินเห้าเยือกเย็น

เหลิ่งจิ้งเหยียนหัวเราะขึ้นมา หัวเราะอย่างโศกเศร้า พร้อมพูดขึ้นว่า “พูดกล่อม? ข้าไม่เพียงพูดกล่อมไม่ได้ หากเมื่อไท่ซ่างหวงสิ้นพระชนม์แล้ว ศีรษะของข้านี้ ยังไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหน เมื่อฮ่องเต้ตัดสินใจพูดเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟัง ชีวิตของข้านี้ก็ไม่ใช่ของข้าแล้ว”

หยู่เหวินเห้าตกตะลึงขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน