คำพูดเหลิ่งจิ้งเหยียนประโยคนี้ เขาไม่เถียง ต่อให้เขาไม่มีความรู้สึกในทางการเมือง ก็รู้ว่าพวกนี้เป็นความลับที่มืดมิดที่ไม่ควรให้ใครรู้ หากเสด็จปู่สิ้นพระชนม์ เป้าหมายของเสด็จพ่อบรรลุแล้ว จะเหลือทิ้งความตำหนิไว้ได้อย่างไร? จะต้องฆ่าเหลิ่งจิ้งเหยียนแน่นอน
หัวใจของหยู่เหวินเห้าเหน็บหนาว ความโกรธและหมดหนทาง เป็นเหมือนดั่งแมลงกัดกินอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ทั้งเจ็บปวดทั้งเสียใจ ทรมานอย่างบอกไม่ถูก
เขาอยากรีบเข้าหวังไปถามเสด็จพ่อ ถามว่าที่เขาพูดถึงความกตัญญูกตเวทีมาตลอด กลับไม่ดูดำดูดีกับความเป็นความตายของเสด็จปู่
เหลิ่งจิ้งเหยียนมองเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ดวงตาฉายแววความเจ็บปวดแตกสลาย จึงถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่จริงองค์ชายรัชทายาทไม่ต้องโกรธขนาดนี้ ที่จริงตอนนี้ฮ่องเต้ก็เจ็บปวดทรมานอย่างมาก สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดนี้ เป็นเพราะการพิจารณาถึงความเป็นผู้มีอำนาจ แต่ในฐานะที่เป็นลูกชายคนหนึ่ง จิตใต้สำนึกของเขาถูกประณามอยู่ตลอดเวลา มู่หรูกงกงพูดว่า ช่วงนี้เขามักจะนอนไม่หลับ กลางคืนฝันร้าย ตอนเช้าตื่นขึ้นมาผมก็ร่วงออกมาเป็นกำ”
ดวงตาหยู่เหวินเห้าแดงก่ำ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การที่ต้องพิจารณาถึงความเป็นผู้มีอำนาจนั้น ไม่สามารถที่จะวางลงได้หรือ?”
“บางสิ่งบางอย่าง เมื่อถูกฉีกขาดแล้ว ก็จะมีแรงผลักดันเขาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เขาเองก็น่าจะไม่สามารถควบคุมได้ เพราะต่อให้ตอนนี้เปลี่ยนความคิด ระหว่างความเป็นพ่อลูก ได้มีรอยร้าวแล้ว หากไท่ซ่างหวงยังสุขภาพดี ความรู้สึกอันตรายในใจของเขาจะยิ่งมีมากขึ้น ยังไม่รู้ว่าจะทำเรื่องอะไรอีก”
หยวนชิงหลิงมองดูเหลิ่งจิ้งเหยียน พร้อมพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าเหลิ่น เจ้าเล่าทั้งหมดให้พวกเราฟัง เพราะมีวิธีรับมือใช่ไหม?”
หยู่เหวินเห้ากับกู้ซือได้ยินหยวนชิงหลิงถามขึ้นนี้ จึงต่างก็หันหน้าไปมองดูเขา
ภายในดวงตาของเหลิ่งจิ้งเหยียนประกายแสงสลัว พร้อมพูดขึ้นว่า “วิธีก็ไม่ใช่วิธีที่ดีอะไร แต่จะช่วยไท่ซ่างหวง ตอนนี้ที่สามารถเป็นไปได้มีเพียงวิธีนี้ คลายความรู้สึกวิกฤตในใจของฮ่องเต้ ก็ต้องปล่อยวางอำนาจองค์ชายรัชทายาท”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ข้าขอปลดตนเองหรือ?”
“ไม่ ฮ่องเต้ไม่มีทางปลดเจ้า แต่การกระทำของเจ้าจะต้องโปร่งใสก่อน จะต้องรายงานแผนการที่วางไว้ในเซียนเปย ทูลฮ่องเต้ทั้งหมด และมีคนบางส่วน เจ้าห้ามไปมาหาสู่อีก อย่างเช่นอ๋องเว่ย อย่างเช่นองครักษ์ลับผีแม่ทัพหลอ อย่างเช่นโสวฝู่ฉู่เซียวเหยากง พวกขุนนางเก่าที่สามารถเรียกลมเรียกฝนในราชสำนักได้เป็นต้น”
ในใจหยู่เหวินเห้ากดดันอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่จริงพูดง่ายๆก็คือ เขากลัวว่าข้าจะยึดวัง”
“ใช่ นี่เป็นความกังวลอย่างที่สุดของฮ่องเต้”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าออกจากกรมการพระนคร ไม่มีอำนาจในที่ทำการปกครองเมืองหลวง นี่พอหรือยัง?”
“บางที นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด”เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“ได้ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปลาออกจากราชการ”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างโมโห
เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดขึ้นว่า “ในระหว่างที่เจ้าดำรงตำแหน่งเจ้ากรมการพระนคร ทำผลงานได้ดีอย่างมาก ฮ่องเต้จะรั้งเจ้าไว้อย่างที่สุด ยังไงเขาก็จะต้องมีคำอธิบายต่อเหล่าขุนนาง”
“ความเสแสร้งนี้ ข้ารู้อยู่แล้ว เขารั้ง ข้าต้องแน่วแน่ที่จะลาออก”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างประชด
เหลิ่งจิ้งเหยียนเงียบไม่พูดไม่จา สีหน้าแลดูทุกข์ระทม สักพัก เขาก็ขอตัวกลับแล้ว
กู้ซือสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “หากไม่ใช่ใต้เท้าเหลิ่นพูดวิเคราะห์เยอะขนาดนี้ ข้ายังไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะมีความกังวลเช่นนี้”
หยู่เหวินเห้ายกมือขึ้นอย่างรำคาญว่า “เจ้ากลับไปเถอะ ข้าขออยู่เงียบๆคนเดียว”
“งั้นก็ได้ มีเรื่องอะไร ข้าค่อยมาบอกเจ้า”กู้ซือยกมือประสาน ทำความเคารพพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย แล้วก็หันตัวเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...