ฮ่องเต้หมิงหยวนยื่นมือไปประคองเขาขึ้นมา “เสด็จพ่อ เข้าข้างในเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง ข้าชอบนั่งตรงนี้” ไท่ซ่างหวงปัดมือ จากนั้นก็ถอนหายใจหนัก “ข้าชอบนั่งตรงนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สละราชย์ก็มองประตูตำหนักนี้ทุกวัน เจ้ารู้ไหม ใครๆ ก็มีวันนั้น ข้าสงบใจรอ ไม่มีเรื่องเสียใจ ไม่มีความปรารถนา เหนื่อยมาค่อนชีวิต ยังไงก็ต้องเดินสู่ทางสุดท้าย”
ฮ่องเต้หมิงหยวนใจสั่นสะท้าน เสด็จพ่อเข้มแข็งมาตลอดชีวิต ไม่เคยกล่าวคำพูดพวกนี้ต่อหน้าลูกหลานเลย
เขาสูบยาอีกอึก “ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าเริ่มมีความหวัง วันเวลาอย่างกับอยู่ในบ่อน้ำตายแล้วมุดเข้าไปอยู่ในตาน้ำ บุ๋มๆๆเห็นโอกาสรอด แต่... เจ้าก็ไม่รู้อีกว่าตาน้ำนี้จะถูกอุดตายอีกเมื่อไหร่”
“เสด็จพ่อ...” ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ฟังแล้วก็ปวดใจ “หม่อมฉันรู้ว่าทรงโปรดพระชายารัชทายาทมาก แต่สถานการณ์นางตอนนี้ยังไม่ถือว่าเลวร้ายที่สุด จะมองแง่ร้ายไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นไท่ซ่างหวงก็เงยหน้าขึ้น “ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว ในเมื่อจะแต่งตั้งรัชทายาท ก็น่าจะกำจัดอันตรายให้เขา ใจคนไม่อาจทดสอบ เจ้าไม่ส่งเจ้าสี่ไปแต่แรก แล้วยังยอมให้เขามีโอกาสอีกหลายครั้ง นี่ก็เลยทำให้เขามีใจทะเยอทะยาน”
ฮ่องเต้หมิงหยวนนั่งลงเบาๆ ท่าทางและอารมณ์ของสองพ่อลูกแทบจะเหมือนกัน “หม่อมฉันก็มีเรื่องที่ต้องคิดเหมือนกัน สองปีมานี้เจ้าห้าสร้างผลงานได้จริง ขุนนางก็เอาใจเข้าหา แทบสวามิภักดิ์กับเขาทุกคน แต่เสด็จพ่อ ท่านเคยคิดหรือไม่ พร้อมกันนั้นก็มีอันตรายอยู่รอบด้าน คนที่ติดตามเขาเหล่านั้นค่อยๆ ถือตัวทำตามอำเภอใจ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่ทุ่มเทกับราชสำนัก ไม่คิดถึงประชาชน ไม่มีแผ่นดินอยู่ในสายตา เอาแต่พะเน้าพะนอรัชทายาท นานวันเข้ารัชทายาทจะเป็นเหมือนพวกเขาหรือไม่? เดิมฉากละครที่ข้าทำขึ้นก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นจริง การให้ท้ายเจ้าสี่ ไม่ใช่เพื่อคานอำนาจกับรัชทายาท แต่เพื่อให้คนข้างตัวรัชทายาทเกิดความระแวง ไม่เอาแต่เยินยอรัชทายาท เสด็จพ่อ นี่เป็นหลักครองราชย์ที่ทรงเคยสอนหม่อมฉันนี่พ่ะย่ะค่ะ ”
ไท่ซ่างหวงสะอึกไปพักหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจ “ใช่ ข้าไม่ได้เป็นฮ่องเต้มานานแล้ว ลืมว่าความลำบากของการเป็นฮ่องเต้”
“หม่อมฉันไม่ใช่ว่าให้ท้ายเจ้าสี่อย่างเดียว ระยะนี้ทุกสิ่งที่เขาทำหม่อมฉันก็รู้หมด แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่ในการควบคุมของหม่อมฉัน”
ไท่ซ่างหวงพยักหน้า “อื่ม เจ้าทำถูกแล้ว ข้าแก่แล้ว บางครั้งก็ใช้อารมณ์ เจ้าส่งเขาไปจวนเจียงเป่ยตอนนี้ก็ดีแล้ว พี่น้องจะได้ไม่ทำจนราชวงศ์ต้องเกิดโศกนาฏกรรม”
นัยน์ตาฮ่องเต้หมิงหยวนมีความเศร้า เจ้าสี่ก็เป็นลูกชายของเขาเหมือนกัน นั่นก็เลือด นี่ก็เนื้อ นอกจากอุบายแห่งราชาแล้ว เขาก็เป็นพ่อ มีความคิดของคนเป็นพ่อ แอบหวังว่าเขาจะกลับใจได้
เขาเขียวน้ำใสตามถนนสายหนึ่ง ม้าสองตัวเดินทางเร่งด่วน เมื่อพลบค่ำก็ถึงจวนกว่างจ้าว ทั้งสองเข้าเมืองไปนั่งพักที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เดินทางติดต่อกัน ทั้งสองเนื้อตัวมอมแมม ใบหน้ามีความอ่อนล้า
“นายท่าน คืนนี้จะแค่พักไม่นอนหรือขอครับ?” สวีอีขาสั่นพั่บๆ ควบม้าจนก้นจะแตกแล้ว
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “ไม่ รีบกลับเมืองหลวงเถอะ คืนนี้ยังต้องเดินทางอีก ถ้าง่วงก็หาที่พักซักหน่อย เร่งเดินทางอย่างนี้พรุ่งนี้เย็นก็น่าจะถึงเมืองหลวงแล้ว”
สวีอีหัวเราะพูด “นายท่าน อยากพบพระชายารัชทายาทมากขนาดนั้นเลยหรือขอรับ?
หยู่เหวินเห้าเหลือบมองเขาทีหนึ่งแล้วเคาะโต๊ะ “รินน้ำชา!”
“ท่านไม่ได้บอกพระชายารัชทายาทว่าให้นางรอท่านกลับมาจากชนะศึกที่ประตูเมืองหรือขอรับ? ทำไมต้องรีบกลับก่อนด้วยล่ะ?”
“เซอร์ไพรส์ไง เข้าใจหรือเปล่า?” เมื่อหยู่เหวินเห้านึกถึงหยวนชิงหลิงแล้วก็ทำตาเคลิ้ม ไม่รู้ว่าหากปรากฏตัวต่อหน้านางกะทันหัน นางจะมีปฏิกิริยาอย่างไร? ต้องดีใจจนกระโดดกอดคอเขาแน่
“ไม่เข้าใจขอรับ!” สวีอีไม่เข้าใจความรัก ยักไหล่ “ออกมานานขนาดนี้ จะครึ่งเดือนแล้วกระมัง หากฝ่าบาททรงทราบว่าท่านกลับไปก่อนจะไม่เอาความหรือขอรับ?”
หยู่เหวินเห้าเคืองนิดๆ “ใครจะไปให้เขารู้ล่ะ? ข้าคิดไว้แล้ว ไว้กลับไปก็พานางไปอยู่กับไท่ซ่างหวงที่พระที่นั่งระยะหนึ่ง ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องราชสำนัก ได้ท่องเที่ยวซักที กินๆ เที่ยวๆ เอาไว้กองทัพส่วนมากถึงเมืองหลวงแล้ว ข้าค่อยไปสมทบ ใครก็ไม่รู้ สมบูรณ์แบบซะจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...