บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 888

ทังหยางออกมาจากทางเดินระเบียงแล้วรีบขวางเขาไว้ ในดวงตาไม่มีทั้งความประหลาดใจและความดีใจ “พระองค์ มีเรื่องหนึ่งกระหม่อมต้องรายงานก่อน แล้วพระองค์ค่อยเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”

หยู่เหวินเห้ามองเขา “เจ้าอย่างกับรู้อยู่แล้วว่าข้าจะกลับมาแน่ะ”

ทังหยางพูดเสียงเบา “ท่านอ๋องซุนบอกว่าอีกสองวันนี้ท่านจะถึงเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่สนุกเลย งั้นเจ้าหยวนก็รู้แล้วละสิ?” หยู่เหวินเห้าอารมณ์เสีย รีบเดินทางกลับทั้งกลางวันกลางคืน ในใจสั่งสมความดีใจไว้มากมาย แต่กลับมาถูกพี่รองทำเสียเรื่อง

เขาผลักทังหยาง แล้วเดินตรงเข้าข้างใน “จะรายงานเรื่องอะไร? เดินไปพูดไป”

เขาล้วงเอาถุงผ้าแพรออกมาจากแขนเสื้อ ถุงนั้นงามมาก ปักลายโบตั๋นหรูหรา

นี่ก็คือของขวัญที่เขาซื้อให้เจ้าหยวนตอนอยู่เมืองเม่า อย่าเอาแต่ว่าเขาไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ จี้หยกหรูอี้ชิ้นนี้เขาใช้เงินถึงสิบกว่าตำลึงซื้อมา

ทังหยางยังขวางเขาอีก ปากสั่นพูด “พระองค์ ฟังกระหม่อมพูดก่อน พระชายารัชทายาทเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย”

หยู่เหวินเห้ามองเขาแล้วหัวเราะ “ทังหยาง ตอนนี้เจ้าก็เอากับเขาด้วยหรือ? เจ้าหยวนให้เจ้ามาหลอกข้าละสิ? อยากแกล้งให้ข้าตกใจ? ไม่มีทางเสียหรอก!”

“พระองค์!” ดวงตาทังหยางเริ่มมีน้ำตาคลอ ลูกผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ ทังหยางไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เรียกไปเสียงหนึ่งแล้วก็สะอื้นพูดไม่ออกอีก

รอยยิ้มหยู่เหวินเห้าชะงัก เขาผลักทังหยางแล้วก็วิ่งไปทางตำหนักเซี่ยวเยว่ด้วยความคลุ้มคลั่ง

สวีอีเพิ่งเข้าประตูมาก็เห็นหยู่เหวินเห้าวิ่งโร่ไป ส่วนทังหยางก็ยืนนิ่งอย่างกับตอไม้ เขาจึงถามขึ้น “ใต้เท้าทัง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

ทังหยางเอามือปาดที่ขอบตา พูดเสียงหนัก “พระชายารัชทายาทเกิดเรื่องแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้สติ ทุกคนไม่รู้จะทำยังไงกันแล้ว”

สวีอีตะลึงค้าง “สวรรค์!”

หยู่เหวินเห้าวิ่งพรวดเดียวถึงปากประตูตำหนักเซี่ยวเยว่ หมันเอ๋อกับอะซี่กำลังดูแลเด็กทั้งสามอยู่ที่ลานกว้าง เมื่อเห็นคนวิ่งเข้ามาก็ชะงัก พอเห็นว่าเป็นหยู่เหวินเห้า ปากอะซี่ก็ฉีกออก จากนั้นก็ปิดปากร้องไห้

ใบหน้าหยู่เหวินเห้าซีดเซียวไปทันที ใต้ฝ่าเท้าราวกับมีตะกั่วอยู่เต็มไปหมด เคลื่อนไหวลำบาก ริมฝีปากขยับเล็กน้อย ยินเสียงตัวเองที่ไม่มีอารมณ์ใดๆ “อะซี่เจ้าร้องไห้ทำไม?”

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ตายแล้ว!” ข้าวเหนียวน้อยวิ่งเข้ามา กอดขาเขาแล้วร้องไห้โฮ

สมองหยู่เหวินเห้าดังตึง ราวกับมีอะไรระเบิดอยู่ในนั้น ทำให้สมองเขาว่างเปล่าไปนาน ก้มหน้ามองข้าวเหนียวน้อยที่ร้องไห้หนักอย่างเลื่อนลอย จากนั้นก็ค่อยๆ อุ้มเขาขึ้นมา ดวงตาแวบไปมองคนที่ค่อยๆ เดินออกมาจากในนั้น ทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาตึงเครียด

เมื่อนั้นซาลาเปาก็วิ่งมาตีก้นข้าวเหนียว ร้องไห้พูด “เจ้าพูดไปเรื่อย พูดไปเรื่อย เสด็จแม่แค่หลับไปเท่านั้น ไม่ได้ตายซักหน่อย”

ว่าแล้วเขาก็ร้องไห้เสียงดัง

ทังหยวนเห็นพี่ใหญ่ร้องไห้ เขาก็ร้องตาม ในมือยังกำดินทรายอยู่ ร้องไห้ไปก็เช็ดหน้าไป เมื่อน้ำตาติดกับดินทรายก็ทำใบหน้าน้อยๆ เปรอะเปื้อนไปหมด

ข้างหูหยู่เหวินเห้ามีแต่เสียงร้องไห้ บัดนี้ทั้งหมดของทั้งหมดราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจเชื่อมต่อกัน เขาวางข้าวเหนียวที่กำลังร้องไห้หนักลงแล้วเดินไปข้างหน้า

ฮูหยินเหยาเดินออกมาจากข้างใน เมื่อเห็นสภาพนี้แล้วก็รีบสั่งให้คนโอ๋เด็กๆ จากนั้นก็เดินเร็วมาอยู่ตรงหน้าหยู่เหวินเห้า “น้องห้า สงบสติก่อน นางอยู่ข้างใน แค่หมดสติไปเท่านั้น ไม่ได้...”

หยู่เหวินเห้าพยักหน้า จากนั้นถึงรู้สึกว่าก้อนหินที่ทับอยู่บนทรวงอกเขาเคลื่อนออกไปเล็กน้อยพอให้เขาหายใจได้

เขาเดินขึ้นบันไดหิน ก้าวข้ามธรณีประตู เขาไม่เคยรู้สึกว่าเส้นทางนี้เดินลำบากขนาดนี้มาก่อน

เขานั่งลงข้างเตียง แทบหมดเรี่ยวแรง

“พระชายารัชทายาทไม่มีบาดแผล ไม่มีรอย ไม่เหมือนกับถูกทำร้ายพ่ะย่ะค่ะ” ทังหยางเกรงว่าเขาจะควบคุมสติไม่อยู่ รีบพูดอธิบาย

“เขาออกเมืองหลวงไปแล้ว!” เมื่อนั้นหยู่เหวินเห้าถึงนึกขึ้นได้ว่าเห็นขบวนรถม้าของเขาที่จวนกว่างจ้าว ใบหน้าเขาขมึงตึงทันที

“ฝ่าบาทส่งเขาไปที่จวนเจียงเป่ย สั่งให้เขาออกเมืองหลวงโดยทันที คิดดูแล้วก็น่าจะไปได้สองวันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าเห็นเขาแล้ว!” หน้าผากหยู่เหวินเห้านูนขึ้นชัดเจน หมัดดังกรอบแกรบ เพลิงในดวงตาลุกโชนราวกับจะเผาไหม้เขาทั้งตัว

เขาเงยหน้าขึ้น ทว่าดวงตายังมองที่หยวนชิงหลิง “ไม่มีใครรู้เห็นเรื่องทั้งหมดในตอนนั้นเหรอ?”

ทังหยางพูดเสียงเบา “น่าจะไม่มีพ่ะย่ะค่ะ พระชายาหวยได้ยินแต่เสียงที่พวกเขาพูดกัน แต่พอมาถึงพระชายารัชทายาทก็หมดสติอยู่กับพื้นแล้ว”

“แล้วนางล่ะ?”

“วันนี้พระชายายังอยู่ที่นี่ เพิ่งกลับไปได้ไม่ถึงชั่วยาม บอกว่าจะกลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วมาอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ” ทังหยางกล่าว

นัยน์ตาหยู่เหวินเห้านิ่งลึก “ทังหยาง ส่งคนไปสกัดหยู่เหวินอาน นำตัวเขากลับเมืองหลวงมา”

ทังหยางลังเลแพล็บหนึ่ง “พระองค์ เรื่องนี้ท่านอ๋องฉีกำลังสอบสวนอยู่ อีกอย่างก็เป็นราชโองการของฝ่าบาทให้เขาออกจากเมืองหลวง หากใช้กำลังไปจับกุม เกรงว่า...”

“ไม่มีเกรงอะไร! ไปทำตามนั้นก็พอ!”

ทังหยางเอ่ย “เรื่องนี้ยังไม่กระจ่างชัด หากจำตัวกลับมาแล้วท่านคิดจะทำยังไงพ่ะย่ะค่ะ?”

หยู่เหวินเห้ากุมมือหยวนชิงหลิงที่เย็นเฉียบ จ้องแก้มนางที่ขาวซีดและแพขนตาที่นิ่งไม่ขยับ พูดเสียงเบา “ข้าจะเอาชีวิตมัน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน