ทังหยางออกมาจากทางเดินระเบียงแล้วรีบขวางเขาไว้ ในดวงตาไม่มีทั้งความประหลาดใจและความดีใจ “พระองค์ มีเรื่องหนึ่งกระหม่อมต้องรายงานก่อน แล้วพระองค์ค่อยเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้ามองเขา “เจ้าอย่างกับรู้อยู่แล้วว่าข้าจะกลับมาแน่ะ”
ทังหยางพูดเสียงเบา “ท่านอ๋องซุนบอกว่าอีกสองวันนี้ท่านจะถึงเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่สนุกเลย งั้นเจ้าหยวนก็รู้แล้วละสิ?” หยู่เหวินเห้าอารมณ์เสีย รีบเดินทางกลับทั้งกลางวันกลางคืน ในใจสั่งสมความดีใจไว้มากมาย แต่กลับมาถูกพี่รองทำเสียเรื่อง
เขาผลักทังหยาง แล้วเดินตรงเข้าข้างใน “จะรายงานเรื่องอะไร? เดินไปพูดไป”
เขาล้วงเอาถุงผ้าแพรออกมาจากแขนเสื้อ ถุงนั้นงามมาก ปักลายโบตั๋นหรูหรา
นี่ก็คือของขวัญที่เขาซื้อให้เจ้าหยวนตอนอยู่เมืองเม่า อย่าเอาแต่ว่าเขาไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ จี้หยกหรูอี้ชิ้นนี้เขาใช้เงินถึงสิบกว่าตำลึงซื้อมา
ทังหยางยังขวางเขาอีก ปากสั่นพูด “พระองค์ ฟังกระหม่อมพูดก่อน พระชายารัชทายาทเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย”
หยู่เหวินเห้ามองเขาแล้วหัวเราะ “ทังหยาง ตอนนี้เจ้าก็เอากับเขาด้วยหรือ? เจ้าหยวนให้เจ้ามาหลอกข้าละสิ? อยากแกล้งให้ข้าตกใจ? ไม่มีทางเสียหรอก!”
“พระองค์!” ดวงตาทังหยางเริ่มมีน้ำตาคลอ ลูกผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ ทังหยางไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เรียกไปเสียงหนึ่งแล้วก็สะอื้นพูดไม่ออกอีก
รอยยิ้มหยู่เหวินเห้าชะงัก เขาผลักทังหยางแล้วก็วิ่งไปทางตำหนักเซี่ยวเยว่ด้วยความคลุ้มคลั่ง
สวีอีเพิ่งเข้าประตูมาก็เห็นหยู่เหวินเห้าวิ่งโร่ไป ส่วนทังหยางก็ยืนนิ่งอย่างกับตอไม้ เขาจึงถามขึ้น “ใต้เท้าทัง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
ทังหยางเอามือปาดที่ขอบตา พูดเสียงหนัก “พระชายารัชทายาทเกิดเรื่องแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้สติ ทุกคนไม่รู้จะทำยังไงกันแล้ว”
สวีอีตะลึงค้าง “สวรรค์!”
หยู่เหวินเห้าวิ่งพรวดเดียวถึงปากประตูตำหนักเซี่ยวเยว่ หมันเอ๋อกับอะซี่กำลังดูแลเด็กทั้งสามอยู่ที่ลานกว้าง เมื่อเห็นคนวิ่งเข้ามาก็ชะงัก พอเห็นว่าเป็นหยู่เหวินเห้า ปากอะซี่ก็ฉีกออก จากนั้นก็ปิดปากร้องไห้
ใบหน้าหยู่เหวินเห้าซีดเซียวไปทันที ใต้ฝ่าเท้าราวกับมีตะกั่วอยู่เต็มไปหมด เคลื่อนไหวลำบาก ริมฝีปากขยับเล็กน้อย ยินเสียงตัวเองที่ไม่มีอารมณ์ใดๆ “อะซี่เจ้าร้องไห้ทำไม?”
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ตายแล้ว!” ข้าวเหนียวน้อยวิ่งเข้ามา กอดขาเขาแล้วร้องไห้โฮ
สมองหยู่เหวินเห้าดังตึง ราวกับมีอะไรระเบิดอยู่ในนั้น ทำให้สมองเขาว่างเปล่าไปนาน ก้มหน้ามองข้าวเหนียวน้อยที่ร้องไห้หนักอย่างเลื่อนลอย จากนั้นก็ค่อยๆ อุ้มเขาขึ้นมา ดวงตาแวบไปมองคนที่ค่อยๆ เดินออกมาจากในนั้น ทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาตึงเครียด
เมื่อนั้นซาลาเปาก็วิ่งมาตีก้นข้าวเหนียว ร้องไห้พูด “เจ้าพูดไปเรื่อย พูดไปเรื่อย เสด็จแม่แค่หลับไปเท่านั้น ไม่ได้ตายซักหน่อย”
ว่าแล้วเขาก็ร้องไห้เสียงดัง
ทังหยวนเห็นพี่ใหญ่ร้องไห้ เขาก็ร้องตาม ในมือยังกำดินทรายอยู่ ร้องไห้ไปก็เช็ดหน้าไป เมื่อน้ำตาติดกับดินทรายก็ทำใบหน้าน้อยๆ เปรอะเปื้อนไปหมด
ข้างหูหยู่เหวินเห้ามีแต่เสียงร้องไห้ บัดนี้ทั้งหมดของทั้งหมดราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจเชื่อมต่อกัน เขาวางข้าวเหนียวที่กำลังร้องไห้หนักลงแล้วเดินไปข้างหน้า
ฮูหยินเหยาเดินออกมาจากข้างใน เมื่อเห็นสภาพนี้แล้วก็รีบสั่งให้คนโอ๋เด็กๆ จากนั้นก็เดินเร็วมาอยู่ตรงหน้าหยู่เหวินเห้า “น้องห้า สงบสติก่อน นางอยู่ข้างใน แค่หมดสติไปเท่านั้น ไม่ได้...”
หยู่เหวินเห้าพยักหน้า จากนั้นถึงรู้สึกว่าก้อนหินที่ทับอยู่บนทรวงอกเขาเคลื่อนออกไปเล็กน้อยพอให้เขาหายใจได้
เขาเดินขึ้นบันไดหิน ก้าวข้ามธรณีประตู เขาไม่เคยรู้สึกว่าเส้นทางนี้เดินลำบากขนาดนี้มาก่อน
เขานั่งลงข้างเตียง แทบหมดเรี่ยวแรง
“พระชายารัชทายาทไม่มีบาดแผล ไม่มีรอย ไม่เหมือนกับถูกทำร้ายพ่ะย่ะค่ะ” ทังหยางเกรงว่าเขาจะควบคุมสติไม่อยู่ รีบพูดอธิบาย
“เขาออกเมืองหลวงไปแล้ว!” เมื่อนั้นหยู่เหวินเห้าถึงนึกขึ้นได้ว่าเห็นขบวนรถม้าของเขาที่จวนกว่างจ้าว ใบหน้าเขาขมึงตึงทันที
“ฝ่าบาทส่งเขาไปที่จวนเจียงเป่ย สั่งให้เขาออกเมืองหลวงโดยทันที คิดดูแล้วก็น่าจะไปได้สองวันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าเห็นเขาแล้ว!” หน้าผากหยู่เหวินเห้านูนขึ้นชัดเจน หมัดดังกรอบแกรบ เพลิงในดวงตาลุกโชนราวกับจะเผาไหม้เขาทั้งตัว
เขาเงยหน้าขึ้น ทว่าดวงตายังมองที่หยวนชิงหลิง “ไม่มีใครรู้เห็นเรื่องทั้งหมดในตอนนั้นเหรอ?”
ทังหยางพูดเสียงเบา “น่าจะไม่มีพ่ะย่ะค่ะ พระชายาหวยได้ยินแต่เสียงที่พวกเขาพูดกัน แต่พอมาถึงพระชายารัชทายาทก็หมดสติอยู่กับพื้นแล้ว”
“แล้วนางล่ะ?”
“วันนี้พระชายายังอยู่ที่นี่ เพิ่งกลับไปได้ไม่ถึงชั่วยาม บอกว่าจะกลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วมาอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ” ทังหยางกล่าว
นัยน์ตาหยู่เหวินเห้านิ่งลึก “ทังหยาง ส่งคนไปสกัดหยู่เหวินอาน นำตัวเขากลับเมืองหลวงมา”
ทังหยางลังเลแพล็บหนึ่ง “พระองค์ เรื่องนี้ท่านอ๋องฉีกำลังสอบสวนอยู่ อีกอย่างก็เป็นราชโองการของฝ่าบาทให้เขาออกจากเมืองหลวง หากใช้กำลังไปจับกุม เกรงว่า...”
“ไม่มีเกรงอะไร! ไปทำตามนั้นก็พอ!”
ทังหยางเอ่ย “เรื่องนี้ยังไม่กระจ่างชัด หากจำตัวกลับมาแล้วท่านคิดจะทำยังไงพ่ะย่ะค่ะ?”
หยู่เหวินเห้ากุมมือหยวนชิงหลิงที่เย็นเฉียบ จ้องแก้มนางที่ขาวซีดและแพขนตาที่นิ่งไม่ขยับ พูดเสียงเบา “ข้าจะเอาชีวิตมัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...