หยู่เหวินเห้าไม่สนใจเรื่องสติปัญญาความฉลาดที่ถูกพวกเด็กๆกดขี่โดยสิ้นเชิง ไล่ถามเพียงลูกเดียวว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าสามารถควบคุมคนของคุณยายทางนั้นได้หรือไม่?”
ทั้งสามสบตากันครู่หนึ่ง “อันนี้ไม่เคยลองพ่ะย่ะค่ะ สองวันมานี้พวกเราล้วนควบคุมคนที่นี่”
“พวกเจ้ายังเคยควบคุมคนที่นี่ด้วยหรือ?” หยู่เหวินเห้าหรี่ตาลง อยากดุสักครั้งหนึ่งด้วยความเคยชิน แต่เมื่อคิดว่าเวลาไหนแล้ว นั่นก็ล้วนเป็นเรื่องเล็ก “ลองดูว่าสามารถควบคุมคนของคุณยายทางนั้นได้หรือไม่”
“ไม่เคยลองนี่พ่ะย่ะค่ะ ทั้งสามค่อนข้างงุนงง “ไปทางนั้นทำไม? พวกเราก็ไม่รู้จักใครนี่ อีกทั้ง ควบคุมที่นี่ก็ล้วนเป็นหลังจากที่ท่านแม่บอกแล้วพวกเราถึงได้เริ่มทำ น่าสนุกมาก คนเหล่านั้นเห็นแล้วก็วิ่ง กรีดร้องโวยวายเสียงดัง”
“ท่านแม่บอกพวกเจ้าเมื่อไหร่ว่าให้พวกเจ้าควบคุมผู้คน?”
ซาลาเปากล่าว: “ต้องควบคุมคนตาย ก็คือบอกก่อนที่นางจะนอนน่ะพ่ะย่ะค่ะ ควบคุมคนที่มีชีวิตลำบากมาก จะปวดหัวมาก แต่ควบคุมคนตายจะไม่เป็น เวลานอนตอนกลางคืน ก็สามารถใช้ร่างกายของคนอีกผู้หนึ่งออกไปเล่นได้ ข้าก็เคยไปเล่นสองครั้งแล้ว มีครั้งหนึ่งยังต้องปีนขึ้นมาจากใต้ดินด้วย สิ้นเปลืองแรงนักพ่ะย่ะค่ะ”
พูดจบก็มองดูหยู่เหวินเห้าด้วยความภาคภูมิใจ ท่าทางน่าสนุกมากจริงๆเช่นนั้น
หยู่เหวินเห้ากัดฟัน หลังจากนี้ค่อยจัดการ
“ฟังนะ พวกเจ้าลองดูซิว่าขณะที่นอนตอนกลางคืนสามารถไปที่คุณยายทางนั้นได้หรือไม่ จากนั้นหาเจ้าอาวาสให้พบ ถามเจ้าอาวาสว่าสถานการณ์ตอนนี้ของท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง? ต้องการให้พวกเราทำอะไรบ้าง”
ซาลาเปาพยักหน้า “อ๋อ เช่นนั้นพวกเราก็ไปหาคุณยาย แต่ไม่รู้ว่าคุณยายหน้าตายังไง?”
ทังหยวนกล่าว: “ไปหาเสด็จทวด เสด็จทวดรู้ นางบอกว่ายังรู้เลขที่บ้านอีกด้วย เก่งกาจมากนะ”
“ข้าก็รู้ ท่านแม่เคยบอกแล้วนี่” ข้าวเหนียวบอก
“เช่นนั้นคืนนี้พวกเราก็ไป!” ทั้งสามพูดจบรีบปีนขึ้นเตียงนอนอย่างรวดเร็ว
หยู่เหวินเห้ามองดูพวกเขา ลังเลครู่หนึ่ง “สามารถพาพ่อไปด้วยได้หรือไม่?”
ไม่เข้าใจการควบคุมอะไรชนิดนี้ แต่ว่า พวกเด็กๆสามารถไปได้ เขา......โดยคร่าวๆก็อาจจะทำได้ใช่หรือไม่?
“ท่านพ่อท่านทำเป็นหรือ?” ซาลาเปาเบิกตาโตแล้วเอ่ยถาม
“เจ้าสอนข้า!”
“ได้ สอนท่าน” ซาลาเปากล่าว
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามต่างคนต่างแย่งกันพูดเอาวิชาวิทยาศาสตร์ในชั้นเรียนคืนนั้นของหยวนชิงหลิงพูดออกมาเหมือนกันรอบหนึ่ง หลังจากพูดจบ กล่าวต่อหยู่เหวินเห้า “ก็เป็นเช่นนี้ แค่เช่นนี้ก็ทำได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้านิ่งเงียบครู่หนึ่ง กล่าวด้วยแววตาเฉยเมย: “พวกเจ้าไปเถอะ พ่อไม่ไปแล้ว”
อะไรเอาคลื่นสมองเปลี่ยนเป็นสัญญาณอะไรเข้าไปปลูกถ่ายที่เรียกว่าก้านสมองอะไรนั่นจากนั้นเป็นอะไรยังไง คนผู้นั้นก็สามารถขยับเดินได้เหมือนคนปกติ ใครจะรู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องเรื่อยเปื่อยอะไรล่ะ
พูดซะจนน่ากลัว นี่ไม่ใช่ศพคืนชีพหรือ?
ทั้งสามหลับตาลงนอนแล้ว
หยู่เหวินเห้าก็นั่งอยู่ข้างกายพวกเขา รออย่างจดจ่อ
ซาลาเปาลืมตาข้างหนึ่งขึ้นด้วยความกลัดกลุ้ม “ท่านพ่อ ท่านจ้องอยู่พวกข้านอนไม่หลับ”
หยู่เหวินเห้าอ๋อคำหนึ่ง “เช่นนั้นข้ากลับไป พวกเจ้าใช้เวลานานเท่าไหร่?”
“ไม่รู้สิพ่ะย่ะค่ะ!” ซาลาเปามองดูเขา “ท่านพ่อ ต้องเสาะหาพิกัดให้พบ ต้องมีคนตาย ดีที่สุดคือตายได้ไม่นาน จากนั้นปีนขึ้นมาจากใต้ดินจะได้ไม่ส่งกลิ่นเหม็นพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งต้องให้ความสำคัญกับสนามแม่เหล็ก ไม่ใช่ว่าทุกร่างจะเหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”
“ทุกวันคนตายมากมายขนาดนั้น” หยู่เหวินเห้าพึมพำ เห็นทั้งสามล้วนจับจ้องเขาอยู่ เหมือนมองคนโง่เช่นนั้น เขาลุกขึ้นมา “ได้ ได้ ข้าออกไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...