เธอพยายามเค้นสมองของเธอว่าจุดอ่อนของหยู่เหวินเห้าคืออะไร?
มีฉู่หมิงชุ่ย นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามของเขา จับจุดอ่อนของเขาได้แถมยังขยับสิ่งต้องห้ามของเขาอีก ผลออกมาต้องแย่มากแน่ๆ “ช่างเถอะ ข้าจะคิดหาทางอื่น ถ้าหากไม่ได้ข้าก็จะไปพบเจ้าพระยาหุ้ยติ่งด้วยตัวเอง” หยวนชิงหลิงกล่าวก่อนจะแยก
หยู่เหวินเห้าสูดลมหายใจ เธอจะไปพบเจ้าพระยาหุ้ยติ่งด้วยตัวเอง? เธอมีความกล้าแบบนี้ เขายกรองเท้าให้เธอเลย
ไม่ใช่ว่าเขาประเมินคนต่ำไป แต่ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุคนในตระกูลฉู่
หยวนชิงหลิงเป็นคนคิดจริงทำจริง ในวันรุ่งขึ้นก็ให้ลู่หยาส่งคำทักทายไปถึงเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเป็น แต่เจ้าพระยาหุ้ยติ่งไม่ได้ตอบรับพระชายาจากจวนของเจ้าพระยาจิ้ง และปฏิเสธโดยตรงว่าเจ้าพระยาหุ้ยติ่งไม่ได้อยู่ที่จวนมาสองวันแล้ว
ลู่หยาหลังจากกลับมาที่จวนก็รู้สึกโมโห กล่าวกับหยวนชิงหลิงว่า: “เจ้าพระยาหุ้ยติ่งนั้นไม่เคารพท่านเลย เขาอยู่ที่จวนแน่แท้ ตอนที่ข้าน้อยรายงานตัวอยู่ที่ประตู เขากำลังกลับไปบนระเบียงพอดีเจ้าค่ะ”
“ลู่หยา ไม่ต้องมากความ!” แม่นมฉีตำหนิ
หยวนชิงหลิงตอบกลับนิ่งๆ : “เขาเป็นเจ้าพระยาคนโปรดของฮ่องเต้ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะบ่ายเบี่ยงหรือหลีกเลี่ยงที่จะพบข้า
“แม้แต่ฝ่าบาทยังไม่อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ”
“แน่นอน ฝ่าบาทเองก็อยู่ใต้คำบัญชาของเขา” ใครจะมองลูกน้องอดีตอยู่ในสายตา? แถมยังเป็นลูกน้องที่ทำให้เขาขุ่นเคือง
หยวนชิงหลิงไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ตามปกติการแต่งงาน ถ้าหากเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเห็นจวนของเจ้าพระยาจิ้งอยู่ในสายตาล่ะก็ คงจะเห็นเธอกำลังพยายามเพื่ออนาคตของน้องสาวอย่างนี้หรือ แต่การที่ปฏิเสธตั้งแต่ประตูทางเข้าก็เท่ากับว่าเขาไม่ให้ความเคารพจวนของเจ้าพระยาจิ้งเลย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการแต่งงานนี้ไม่สำคัญ
“พระชายา ไม่เหมือนท่านขอร้องเหลือจากเจ้าพระยาจิ้งเพคะ” ลู่หยากล่าว
“ขอร้องเขาก็ยังไม่เหมือนขอร้องเง็กเซียนฮ่องเต้!” หยวนชิงหลิงตอบอย่างเย็นชา
“งั้นเราไปข้อร้องเง็กเซียนฮ่องเต้กันเพคะ” ลู่หยาคิดว่าหยวนชิงหลิงพูดจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อคนหมดหนทาง ก็ทำได้แค่ไหว้พระขอพรเท่านั้น
หยวนชิงหลิงคิด ก่อนจะตอบว่า: “ช่วยข้าเตรียมตัวที ข้าจะกลับจวน”
“ไม่ได้หมายถึงข้อร้องเจ้าพระยาไม่มีประโยชน์หรือ?” แม่นมฉีถาม
“การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่พ่อแม่เป็นผู้ตัดสินใจ แค่พ่อก็ดื้อดึงพอแล้ว หวังว่าคนเป็นแม่จะคิดเผื่อลูกสาวได้ เจ้าชักชวนย่อมดีกว่าข้าชักชวน”
ที่จริงก็พิสูจน์ความคิดเธอแล้ว
ฮูหยินเจ้าพระยาจิ้งก็ถูกเจ้าพระยาจิ้งหยวนปาล้างสมอง ล้างเสียจนสะอาด
ได้ฟังหยวนชิงหลิงต่อต้านงานแต่งงานนี้แล้ว เธอโกรธจัดชี้ไปที่หยวนชิงหลิงแล้วพูดอย่างโกรธเคือง: “สรุปแล้วเจ้ามีปัญหาอะไร? น้องสาวของเจ้าได้ดิบได้ดี เจ้าไม่ยินดีกับน้องแล้วยังมาต่อต้านงานแต่งนี้อีกหรือ?
หยวนชิงหลิงมองไปที่ผู้หญิงหน้าตาโหดร้ายตรงหน้า นี่คือทำหน้าที่แม่ที่ดีถึงครึ่งหนึ่งแล้วจริงๆ หรือ?
“ท่านแม่ ภรรยาหลวงสามคนของเจ้าพระยาหุ้ยติ่งตายแล้ว ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่?” หยวนชิงหลิงรู้สึกยังคงเกลี้ยกล่อมได้ คนเป็นแม่ไม่สามารถมองดูลูกสาวตัวเองถูกส่งไปตายต่อหน้าต่อตาได้หรอก คนที่อยู่แต่บนห้องอย่างเธออาจจะยังไม่รู้ว่าเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเป็นคนอย่างไร นางหวงเลิกคิ้วตอบ “แล้วอย่างไรหรือ? ภรรยาหลวงทั้งสามคนของเขาสุขภาพไม่ดีเองจะโทษใครได้เล่า? โทษที่โชคชะตาของพวกเธอช่างน้อยนิด ไม่มีวาสนาจนร่ำรวยมีเกียรติ ได้เป็นฮูหยินเจ้าพระยาชีวิตที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว”
“ท่านแม่ก็เป็นฮูหยินเจ้าพระยา” หยวนชิงหลิงพูดนิ่งๆ
ปากของนางหวงขยับขึ้นลงและปะทุคำพูดที่โกรธกริ้วออกมา “จวนของเจ้าพระยาจิ้งจะมาเทียบกับจวนของเจ้าพระยาหุ้ยติ่งได้อย่างไร? เจ้าพระยาหุ้ยติ่งสกุลฉู่ ทั้งยังเป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่สุดในปัจจุบัน ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับเขาอย่างมาก ข้าขอเตือนเจ้าอย่าริอาจมาขัดขวางงานแต่งงานของน้องสาวของเจ้า มิเช่นนั้นข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้าและข้าไม่ได้ขู่ พ่อเจ้าเหนื่อยมากเพื่อให้เจ้าได้แต่งเข้าวัง หลังจากที่เจ้าเข้าวังเจ้าทำอะไรเพื่อคนที่บ้านของเจ้าบ้าง? เป็นแค่นักทวงหนี้กลับมาขอแต่เงิน อะไรก็ทำไม่ได้ไม่แปลกใจที่พ่อเจ้าจะโกรธ
คำพูดนี้เหมือนกับหยวนปาหลง ไม่ใช่พวกเดียวกันไม่สามารถเข้าใจได้
หยวนชิงหลิงไม่อยากพูดอะไรกับเธอแล้ว” ข้าไปล่ะ”
“ต้องการให้น้องสาวของตัวเองแต่งงานกับเจ้าพระยาหุ้ยติ่งผู้โหดเหี้ยม ไม่เรียกว่าไร้ความรู้สึกรึ?” หยวนชิงหลิงตอบอย่างเย็นชา
“ใครจะแต่งงานกับเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง?” หยวนหลุนเหวินสีหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
หยวนชิงหลิงมองเขา “พี่ใหญ่ไม่รู้หรือ? ท่านพ่อจะยกน้องสาวคนรองให้เจ้าพระยาหุ้ยติ่ง แต่งงานกับตระกูลฉู่”
“ไร้สาระ!” หยวนหลุนเหวินโกรธจัด ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีด
หยวนชิงหลิงคาดไม่ถึงว่าในตระกูลหยวนยังมีคนไม่รู้เรื่อง เธอถาม “พี่ใหญ่ก็คัดค้านใช่ไหม ท่านพี่ได้โปรดช่วยโน้มน้าวท่านพ่อที ถ้าหากน้องสาวแต่งงานล่ะก็ มีแต่ตายสถานเดียว
หยวนหลุนเหวินไม่พูดมากความ “เจ้าไปพบท่านย่า ข้าจะไปพบท่านพ่อ เรื่องนี้จะต้องยุติลง”
พูดจบเขาก็เดินไปทันที
หยวนชิงหลิงมองตามหลังที่คุกรุ่นพลางปลอบใจตัวเอง อย่างน้อยก็ยังมีคนรู้ความ
“ท่านป้า!” หยวนชิงหลิงมองใบหน้าแสดงอารมณ์แปลกๆ เหมือนขี้เกียจหายใจของเธอ “ข้าต้องไปเยี่ยมท่านย่า ขอตัวค่ะ”
“รีบอะไรหรือ?” นางหลวนหยุดไว้ด้วยมือข้างเดียว เงยหน้าขึ้นมา “ท่านย่าของเจ้าป่วยหนัก ไม่สะดวกพบใคร พระชายากลับไปเถิด”
“ท่านย่าป่วยหนัก ข้าไปเยี่ยมในฐานะหลานสาว ท่านมีเหตุผลอะไรมาขวาง?” หยวนชิงหลิงตอบอย่างเย็นชา
“เยี่ยมรึ?” นางหลวนยิ้มเย็น “ข้าไม่รู้ว่าท่านต้องการจะทำอะไรไหม? อย่าฝันไปเลย ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากฮูหยินใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์ ฮูหยินใหญ่เป็นผู้ป่วยแม้แต่ข้ารับใช้ในจวนยังไม่ฟังนาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าพระยาเลย พระชายาถอดใจเสียเถิด”
ทั้นใดนั้นหยวนชิงหลิงพบว่า เมื่อทั้งจวนกำลังวางแผนเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน มันทั้งพลังอันทรงพลังและบิดเบี้ยวเหลือเกิน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...