บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 90

เธอพยายามเค้นสมองของเธอว่าจุดอ่อนของหยู่เหวินเห้าคืออะไร?

มีฉู่หมิงชุ่ย นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามของเขา จับจุดอ่อนของเขาได้แถมยังขยับสิ่งต้องห้ามของเขาอีก ผลออกมาต้องแย่มากแน่ๆ “ช่างเถอะ ข้าจะคิดหาทางอื่น ถ้าหากไม่ได้ข้าก็จะไปพบเจ้าพระยาหุ้ยติ่งด้วยตัวเอง” หยวนชิงหลิงกล่าวก่อนจะแยก

หยู่เหวินเห้าสูดลมหายใจ เธอจะไปพบเจ้าพระยาหุ้ยติ่งด้วยตัวเอง? เธอมีความกล้าแบบนี้ เขายกรองเท้าให้เธอเลย

ไม่ใช่ว่าเขาประเมินคนต่ำไป แต่ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุคนในตระกูลฉู่

หยวนชิงหลิงเป็นคนคิดจริงทำจริง ในวันรุ่งขึ้นก็ให้ลู่หยาส่งคำทักทายไปถึงเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเป็น แต่เจ้าพระยาหุ้ยติ่งไม่ได้ตอบรับพระชายาจากจวนของเจ้าพระยาจิ้ง และปฏิเสธโดยตรงว่าเจ้าพระยาหุ้ยติ่งไม่ได้อยู่ที่จวนมาสองวันแล้ว

ลู่หยาหลังจากกลับมาที่จวนก็รู้สึกโมโห กล่าวกับหยวนชิงหลิงว่า: “เจ้าพระยาหุ้ยติ่งนั้นไม่เคารพท่านเลย เขาอยู่ที่จวนแน่แท้ ตอนที่ข้าน้อยรายงานตัวอยู่ที่ประตู เขากำลังกลับไปบนระเบียงพอดีเจ้าค่ะ”

“ลู่หยา ไม่ต้องมากความ!” แม่นมฉีตำหนิ

หยวนชิงหลิงตอบกลับนิ่งๆ : “เขาเป็นเจ้าพระยาคนโปรดของฮ่องเต้ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะบ่ายเบี่ยงหรือหลีกเลี่ยงที่จะพบข้า

“แม้แต่ฝ่าบาทยังไม่อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ”

“แน่นอน ฝ่าบาทเองก็อยู่ใต้คำบัญชาของเขา” ใครจะมองลูกน้องอดีตอยู่ในสายตา? แถมยังเป็นลูกน้องที่ทำให้เขาขุ่นเคือง

หยวนชิงหลิงไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ตามปกติการแต่งงาน ถ้าหากเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเห็นจวนของเจ้าพระยาจิ้งอยู่ในสายตาล่ะก็ คงจะเห็นเธอกำลังพยายามเพื่ออนาคตของน้องสาวอย่างนี้หรือ แต่การที่ปฏิเสธตั้งแต่ประตูทางเข้าก็เท่ากับว่าเขาไม่ให้ความเคารพจวนของเจ้าพระยาจิ้งเลย

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการแต่งงานนี้ไม่สำคัญ

“พระชายา ไม่เหมือนท่านขอร้องเหลือจากเจ้าพระยาจิ้งเพคะ” ลู่หยากล่าว

“ขอร้องเขาก็ยังไม่เหมือนขอร้องเง็กเซียนฮ่องเต้!” หยวนชิงหลิงตอบอย่างเย็นชา

“งั้นเราไปข้อร้องเง็กเซียนฮ่องเต้กันเพคะ” ลู่หยาคิดว่าหยวนชิงหลิงพูดจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อคนหมดหนทาง ก็ทำได้แค่ไหว้พระขอพรเท่านั้น

หยวนชิงหลิงคิด ก่อนจะตอบว่า: “ช่วยข้าเตรียมตัวที ข้าจะกลับจวน”

“ไม่ได้หมายถึงข้อร้องเจ้าพระยาไม่มีประโยชน์หรือ?” แม่นมฉีถาม

“การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่พ่อแม่เป็นผู้ตัดสินใจ แค่พ่อก็ดื้อดึงพอแล้ว หวังว่าคนเป็นแม่จะคิดเผื่อลูกสาวได้ เจ้าชักชวนย่อมดีกว่าข้าชักชวน”

ที่จริงก็พิสูจน์ความคิดเธอแล้ว

ฮูหยินเจ้าพระยาจิ้งก็ถูกเจ้าพระยาจิ้งหยวนปาล้างสมอง ล้างเสียจนสะอาด

ได้ฟังหยวนชิงหลิงต่อต้านงานแต่งงานนี้แล้ว เธอโกรธจัดชี้ไปที่หยวนชิงหลิงแล้วพูดอย่างโกรธเคือง: “สรุปแล้วเจ้ามีปัญหาอะไร? น้องสาวของเจ้าได้ดิบได้ดี เจ้าไม่ยินดีกับน้องแล้วยังมาต่อต้านงานแต่งนี้อีกหรือ?

หยวนชิงหลิงมองไปที่ผู้หญิงหน้าตาโหดร้ายตรงหน้า นี่คือทำหน้าที่แม่ที่ดีถึงครึ่งหนึ่งแล้วจริงๆ หรือ?

“ท่านแม่ ภรรยาหลวงสามคนของเจ้าพระยาหุ้ยติ่งตายแล้ว ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่?” หยวนชิงหลิงรู้สึกยังคงเกลี้ยกล่อมได้ คนเป็นแม่ไม่สามารถมองดูลูกสาวตัวเองถูกส่งไปตายต่อหน้าต่อตาได้หรอก คนที่อยู่แต่บนห้องอย่างเธออาจจะยังไม่รู้ว่าเจ้าพระยาหุ้ยติ่งเป็นคนอย่างไร นางหวงเลิกคิ้วตอบ “แล้วอย่างไรหรือ? ภรรยาหลวงทั้งสามคนของเขาสุขภาพไม่ดีเองจะโทษใครได้เล่า? โทษที่โชคชะตาของพวกเธอช่างน้อยนิด ไม่มีวาสนาจนร่ำรวยมีเกียรติ ได้เป็นฮูหยินเจ้าพระยาชีวิตที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว”

“ท่านแม่ก็เป็นฮูหยินเจ้าพระยา” หยวนชิงหลิงพูดนิ่งๆ

ปากของนางหวงขยับขึ้นลงและปะทุคำพูดที่โกรธกริ้วออกมา “จวนของเจ้าพระยาจิ้งจะมาเทียบกับจวนของเจ้าพระยาหุ้ยติ่งได้อย่างไร? เจ้าพระยาหุ้ยติ่งสกุลฉู่ ทั้งยังเป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่สุดในปัจจุบัน ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับเขาอย่างมาก ข้าขอเตือนเจ้าอย่าริอาจมาขัดขวางงานแต่งงานของน้องสาวของเจ้า มิเช่นนั้นข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้าและข้าไม่ได้ขู่ พ่อเจ้าเหนื่อยมากเพื่อให้เจ้าได้แต่งเข้าวัง หลังจากที่เจ้าเข้าวังเจ้าทำอะไรเพื่อคนที่บ้านของเจ้าบ้าง? เป็นแค่นักทวงหนี้กลับมาขอแต่เงิน อะไรก็ทำไม่ได้ไม่แปลกใจที่พ่อเจ้าจะโกรธ

คำพูดนี้เหมือนกับหยวนปาหลง ไม่ใช่พวกเดียวกันไม่สามารถเข้าใจได้

หยวนชิงหลิงไม่อยากพูดอะไรกับเธอแล้ว” ข้าไปล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน