บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 958

หงเย่สั่งให้คนส่งกระดาษบันทึกมา บอกว่าต้องการเข้าเยี่ยมรัชทายาทสามีภรรยา

บังเอิญขณะที่ส่งมา หยู่เหวินเห้าไปค่ายทหารทางนั้นแล้ว วันถัดไปจึงจะกลับมาได้ หยวนชิงหลิงดูกระดาษบันทึกแล้วจึงปฏิเสธ ระยะนี้จิตใจของนางวุ่นวายสับสน ไหนเลยจะมีเวลากินเลี้ยงกับหงเย่?

ทีแรกคิดว่าได้ทำให้จากไปแล้ว ใครจะรู้ว่าหงเย่ราวกับฟังคำว่าปฏิเสธสองคำนี้ไม่เข้าใจ พาอะโฉ่วสาวรับใช้มุ่งตรงมาที่จวนอ๋องฉู่ ยังจะนำของขวัญมาอีกมากมาย

ที่เรียกกันว่าไม่ยื่นมือไปตบหน้าคนที่มีรอยยิ้ม เอาของขวัญมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านเช่นนี้ อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังเป็นจวิ้นอ๋องของแคว้นต้าโจวอีก หยวนชิงหลิงทำได้เพียงออกมาต้อนรับ

เพิ่งจะเข้าเรือนหลัก ก็เห็นเจ้าห้านั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ในเรือนหลัก แต่กลับไม่เห็นหงเย่ นางหัวเราะขึ้นมาแล้ว “ไม่ได้บอกว่าพรุ่งนี้จึงจะกลับหรือ? คิดไม่ถึงว่าท่านจะดู......”

คนผู้นั้นเงยหน้าขึ้น หยวนชิงหลิงหยุดพูดอย่างรวดเร็ว มองดูเขาด้วยความเหลือเชื่อ

ไม่ใช่เจ้าห้า แต่เป็นหงเย่

เขาสวมชุดคลุมสีขาวเรียบลายเมฆดำ รองเท้าบูตขาวหัวงอนคู่หนึ่ง มงกุฎปักด้วยปิ่นปักผมหัวก้อนเมฆ ข้างๆหูถึงหว่างคิ้วมีแผลเป็นจางๆรอยหนึ่ง

เสื้อผ้าเช่นนี้ รองเท้าบูตเช่นนี้ยังมีปิ่นปักผมนี้อีก ล้วนเป็นแบบเดียวกับเจ้าห้า และรอยแผลเป็นนั้น......หยวนชิงหลิงมองดูลักษณะของเขา รู้สึกตะขิดตะขวงใจมาก โกรธมาก

“พระชายารัชทายาท สบายดีนะพ่ะย่ะค่ะ?” หงเย่ปิดหนังสือ มองดูนางแล้วกล่าว

หยวนชิงหลิงเดินเข้ามาช้าๆ สายตาตรวจตราบนหน้าของเขา “เวลาที่ท่านชายหงเย่ไม่สวมชุดสีแดง ยังทำให้คนจำไม่ได้จริงๆ”

“แบบนี้มีสง่าราศีหรือไม่?” หงเย่ยังคงมองดูนาง นัยน์ตาอ่อนโยน

“หยวนชิงหลิงนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน “เจ้าก็คือกับฉู่หมิงหยาง.......”

หงเย่ยิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้!”

นัยน์ตารวมเป็นประกายไฟเล็กน้อย มองดูหยวนชิงหลิงด้วยความหมายลึกซึ้ง

หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าการจับจ้องเช่นนี้อึดอัดเป็นอย่างมาก นี่เป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเสแสร้ง นางสัมผัสได้ ตั้งใจทำให้คนเกิดความวิตกกังวล

และนางไม่ได้รู้สึกว่าเขามีความรู้สึกที่ดีกับนางเท่าไหร่นัก แม้แต่เรื่องนั้นที่เขาเล่า ก็ล้วนจอมปลอมไร้ที่เปรียบ

“ท่านแม่!” ข้าวเหนียวจูงหูของหมาป่าหิมะเดินเข้ามาจากด้านนอก ปีนขึ้นบนตักของหยวนชิงหลิงให้หยวนชิงหลิงอุ้ม เมื่อครู่เขาเล่นอยู่ด้านนอกกับพวกพี่ชาย วันที่อากาศหนาวเหน็บมากเช่นนี้ เล่นจนเหงื่อแตกพลั่ก

หยวนชิงหลิงอุ้มเขา ในตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดู เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้เขา “ดื่มน้ำหรือไม่?”

“ดื่มแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่” ข้าวเหนียวหันหน้าไปมองหงเย่ “ท่านอาผู้นี้เป็นใครกันพ่ะย่ะค่ะ? เขาขโมยเสื้อผ้าของเสด็จพ่อใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

สายตาของหยวนชิงหลิงกวาดไปที่หงเย่ด้วยความเฉยเมยแวบหนึ่ง “แม่เชื่อว่าท่านอาผู้นี้ซื้อเสื้อผ้าเองได้ ไม่ต้องขโมยของของผู้อื่น”

นางหอมลงไปบนแก้มของข้าวเหนียวเล็กน้อย อมยิ้มแล้วกล่าว: “เอาล่ะ ไปเล่นเถอะ แม่มีเรื่องจะพูดกับท่านอาหน่อย พูดคุยเสร็จแล้วจะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

“เช่นนั้นวันนี้ท่านเตะบอลเป็นเพื่อนข้าหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ได้!” หยวนชิงหลิงตอบรับแล้ว

ข้าวเหนียวจึงไถลลงไป จูงหมาป่าหิมะแล้วออกไป

หงเย่มองดูหยวนชิงหลิง รอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อครู่ไม่มีแล้ว จดจ่อขึ้นมาก ในตามีประกายที่แปลกประหลาด แต่กลับไม่ได้เสแสร้งเช่นนั้นแล้ว

“ยังไม่ได้แสดงความยินดีที่พระชายารัชทายาทมีบุตรเลยพ่ะย่ะค่ะ” หงเย่กล่าวเบาๆ

หญิงอัปลักษณ์มองดูหมันเอ๋อ จ้องมองครู่หนึ่ง บนใบหน้าเผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่งออกมา จากนั้นหมุนตัวแล้วจากไป

เมื่อครู่หมันเอ๋อถูกนางจ้องมองจนขนลุก กล่าวว่า: “คนผู้นี้น่าแปลกเป็นอย่างมากจริงๆ อัปลักษณ์เหมือนกับแม่นมฉินเช่นนั้น”

หยวนชิงหลิงถูกนางเตือนขึ้นมาเช่นนี้ ก็นึกถึงใบหน้าของแม่นมฉินที่อัปลักษณ์ผิดธรรมชาติเป็นอย่างมากนั่น นี่บางทีอาจจะเป็นวิชาการเปลี่ยนแปลงใบหน้า และหรือจะเป็นวิชามนต์ดำในการเปลี่ยนแปลงใบหน้าของพวกเขา

แต่ว่า ดอกเตอร์หนึ่งคำนี้ของหงเย่ ยังทำให้จิตใจของนางตกลงไปในก้นบึ้ง

อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเขาเคยไปที่ทะเลสาบจิ้ง เพราะมีจุดประสงค์จริงๆ และไม่ได้มาเที่ยวเล่น แม้ว่าจะรู้ว่านางมาจากมิติเวลาอื่น แต่ตามหลักแล้วเขาก็ไม่น่าจะมีทางรู้ตัวตนของนางได้

เจ้าห้ารีบกลับมาในคืนนั้น เสี้ยวหงเฉิงส่งคนไปบอกเขาแล้ว องครักษ์ลับผีก็แจ้งให้รู้แล้ว ฉวยโอกาสตอนที่เขาออกจากเมืองหลวงไปที่จวน เห็นได้ชัดว่าตั้งใจไปหายายหยวน ดังนั้น ไม่ว่าจะทำธุระเรียบร้อยหรือไม่ ก็รีบควบม้ากลับมาในทันทีแล้ว

“เขารู้ตัวตนของเจ้า? เขาเรียกเจ้าว่าดอกเตอร์?” หยู่เหวินเห้าเดือดดาลอย่างหนัก เดิมทีมีเพียงเขาผู้เดียวที่รู้ว่าก่อนหน้านี้ยายหยวนเป็นดอกเตอร์ ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าหงเย่ก็รู้ด้วย นอกจากโมโหแล้ว ก็ยังมีความกังวลอยู่ลึกๆ

บอกว่าเขาลึกล้ำยากจะคาดเดา ก็ล้วนเป็นแค่ผิวเผิน คนผู้นี้ก็คือปีศาจ

“เขาไปทะเลสาบจิ้ง เพราะมีจุดประสงค์อย่างแน่นอน อีกทั้งตอนนี้พวกเราก็ไม่มีปัญญาส่งของกลับไปทางทะเลสาบจิ้งได้ เจ้าห้า ข้ารู้สึกว่าข้าต้องไปที่ทะเลสาบจิ้งสักรอบหนึ่ง” หยวนชิงหลิงกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

“แต่ว่า ไปทะเลสาบจิ้งแล้วเจ้าจะสามารถมองอะไรออกมาได้? นั้นก็คือทะเลสาบแห่งหนึ่ง ข้อมูลสำคัญอะไรก็ไม่มี”

“ข้าจะไปดูการกระแสน้ำ ทะเลสาบจิ้งดูเหมือนเป็นบ่อน้ำนิ่ง แต่ว่า ด้านล่างน่าจะมีคลื่นใต้น้ำ ข้าสงสัยว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงคลื่นใต้น้ำหรือระบายน้ำของทะเลสาบแล้ว” ขณะที่ส่งสิ่งของออกไปไม่ได้หยวนชิงหลิงก็มีการคาดเดานี้แล้ว แต่ว่าขณะนั้นรู้สึกว่าวิธีการคิดเช่นนี้เพ้อเจ้อไปหน่อย รู้สึกว่าคนทำการเปลี่ยนแปลงมิติเวลานั้นค่อนข้างเป็นไปไม่ได้

แต่การปรากฏตัวของหงเย่ ดอกเตอร์คำหนึ่งนี้ ทำให้นางรู้สึกว่าอาจจะเป็นไปได้จริงๆ เพราะว่าในเมื่อทะเลสาบจิ้งเป็นประตูทางเข้าออกของมิติเวลา เช่นนั้นสาเหตุการทำให้เกิดเป็นประตูทางเข้าออกสามารถมีได้หลายปัจจัย กระแสน้ำอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น หากว่าเปลี่ยนแปลงการไหลของน้ำ ประตูทางเข้าของมิติเวลายังคงเป็นประตูทางเข้า แต่ที่เชื่อมต่อกับมิติเวลาไม่แน่ว่าจะต้องเป็นอันก่อนหน้านั้น

“ได้ ถ้าเจ้าอยากไปข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า” หยู่เหวินเห้ากล่าว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน