แม้ว่าหยู่เหวินจุนจะเกลียดชังฮูหยินเหยาเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า ยากที่จะได้พบกับเสด็จแม่สักครั้ง เรื่องนี้ย่อมไม่สำคัญ ถามเสียงเบาว่า “เสด็จแม่ ท่านยังมีเงินเก็บอยู่หรือไม่ ช่วยส่งเสียลูกหน่อย”
“ทำไม นี่แม้แต่เลี้ยงดูตัวเจ้าเองก็ไม่ไหวแล้วหรือ ”ฉินเฟยถาม ฮ่องเต้เคยตรัสได้ ไม่เคยใจดำกับพวกเขามาก่อน
หยู่เหวินจุนถอนหายใจ “ท่านไม่รู้อะไร ข้าวของราคาแพง พวกเราได้รับเงินเดือนแค่น้อยนิดเท่านั้น ไม่พอสำหรับใช้จ่ายเลยแม้แต่น้อย แม้แต่สินสอดติดตัวของพระชายาองค์ชายก็ถูกนำออกมาช่วยเหลือหมดแล้ว
ตอนนี้พวกเราไม่มีสิ่งมีค่าติดตัวเลย แม้แต่เสื้อผ้าก็มีแต่ของเก่า ไม่เคยได้รับการตัดชุดใหม่มานานแค่ไหนแล้ว
แม้แต่จะกินอาหารดีๆสักมื้อยังต้องคิดแล้วคิดอีก เดิมทีมีบ่าวรับใช้ที่อยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งหลายคน เพราะไม่มีเงินเดือนจะจ่ายให้ ก็ออกไปสองสามคนแล้ว เสด็จแม่ ลูกยากลำบากจริงๆ”
ฉินเฟยได้ยินแล้วก็รู้สึกสงสาร ดีที่การออกจากวังครั้งนี้ก็คิดไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินทองของเขาบ้าง นำเอาเครื่องประดับหนึ่งกล่องและเงินหนึ่งพันตำลึงมา มอบให้เขาทั้งหมด
หลังจากกลับวังแล้ว งานเลี้ยงในครอบครัวกำลังถูกจัดขึ้นอย่างคึกคัก คนทั้งครอบครัวมีความสุขด้วยกัน ทั้งร้องทั้งเต้น แม้แต่กุ้ยเฟยก็ออกมาดื่มเหล้าด้วย
คนเหล่านี้ดูมีเกียรติอย่างไร้ที่สิ้นสุด ลูกชายของนางที่เป็นถึงองค์ชายใหญ่กลับต้องตกอับยากจนอยู่ข้างนอก ในใจของฉินเฟยไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าคนของหวงกุ้ยเฟยจะไปเชิญนางมาร่วมงานด้วย นางก็อ้างว่าไม่สบาย กลับไปยังตำหนักของตนเอง
หวงกุ้ยเฟยรู้ว่านางต้องรู้สึกน้อยใจแน่ คิดว่าไม่มาก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่พูดจาทำให้ทุกคนหมดสนุก ยากมากที่ไท่ซ่างหวงจะมีความสุขเช่นนี้
จวิ้นจู่ทั้งสองคนก็ถูกรับเข้าวังมาด้วย ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกสงสารหลานสาวทั้งสองคน จึงได้รางวัล และยังกำชับนักหนาว่าวันหน้าต้องดูแลเสด็จแม่ดีๆ
คำพูดนี้ส่งผ่านไปถึงหูของฉินเฟย ฉินเฟยทนไม่ได้อีกต่อไป ไปถึงตำหนักฟางหมิงก็คุกเข้าลงร้องไห้ทันที “ฮ่องเต้ ทรงประทานรางวัลให้หลาน หม่อมฉันดีใจมาก แต่รางวัลที่ให้กับพวกนางไปจะให้ไปตกอยู่ในมือของถงเหยามิได้นะเพคะ
นางทำเรื่องต่ำช้าเลวทราม อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างชู้สาว ชายชู้คนนั้นยังทำร้ายหยู่เหวินจุนจนได้รับบาดเจ็บ เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป
จวิ้นจู่จะอยู่กับนางไม่ได้อีกแล้ว ฮ่องเต้ได้โปรดเมตตา ให้ลูกจุนได้เลี้ยงดูจวิ้นจู่ เพื่อไม่ให้สายเลือดของราชวงศ์ต้องตกต่ำ เป็นที่หัวเราะเยาะของคนอื่น”
เดิมทีงานเลี้ยงในครอบครัวนั้นอบอุ่นมีความสุขมาก พอฉินเฟยออกมาร้องไห้เท่านั้น บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
หยวนชิงหลิงมองเมิ่งซิงกับเมิ่งเยว่แวบหนึ่ง เห็นดวงตาของพวกนางมีน้ำตาเอ่อขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง ก็รีบส่งเซเว่นอัปที่อุ้มอยู่ในมือให้หยู่เหวินเห้าทันที
จากนั้นก็ยืนขึ้นพูดกับฉินเฟยว่า “เสด็จแม่ คำพูดนี้จะพูดเหลวไหลไม่ได้ ฮูหยินเหยาไปอยู่ร่วมกับผู้อื่นฉันชู้สาวตั้งแต่เมื่อไหร่”
ฉินเฟยมองหยวนชิงหลิง ยังคงติดใจและแค้นที่ตอนนั้นขอร้องนางแต่นางไม่ยินดีช่วยเหลือ ฉะนั้นจึงพูดเสียงเย็นว่า “เมื่อไหร่น่ะหรือ เรื่องนี้พวกเจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ชายชู้คนนั้นไม่เพียงแต่อยู่ร่วมชายคาเดียวกับนาง ยังทำร้ายลูกจุนจนบาดเจ็บด้วย”
นางพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็สะอื้นขึ้นมา มองไปยังฮ่องเต้หมิงหยวนและพูดว่า “เป็นถึงองค์ชายใหญ่ แรกเริ่มนั้นถูกแย่งภรรยา จากนั้นก็ถูกตีจนบาดเจ็บ เกียรติของลูกผู้ชายก็ไม่เหลือแล้ว จะให้เขามีชีวิตอยู่อย่างไร
ฮ่องเต้ แม้ว่าเขาจะทำผิดมหันต์ แต่เขาก็เป็นเลือดเนื้อของพระองค์ และเขาเองก็กลับตัวกลับใจเสียใหม่แล้ว ขอร้องทรงให้โอกาสเขาอีกครั้ง ให้จวิ้นจู่กลับไปอยู่ข้างกายเขาเถอะ มีอย่างที่ไหนกันถูกสามีหย่าแล้วยังให้ลูกติดตามภรรยาที่ถูกทิ้งอีก”
สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนเขียวคล้ำ มองฉินเฟยโดยไม่พูดจาแม้แต่คำเดียว
หวงกุ้ยเฟยรีบลุกขึ้นมาไกล่เกลี่ย “ฉินเฟยจะไปฟังข่าวลือที่พูดต่อๆกันมาแล้วมากล่าวโทษฮูหยินเหยาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ จะเป็นการทำร้ายจิตใจจวิ้นจู่ เรื่องนี้ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น มา รีบลุกขึ้นมา นั่งลงกินด้วยกันสักหน่อย”
“ข้าจะฉีกปากเจ้า เป็นหม้ายอะไรกัน ลูกชายข้าตายแล้วหรืออย่างไร ทำไมใจเจ้าจึงได้อำมหิตนัก ลูกชายข้าไปล่วงเกินอะไรเจ้า เจ้าถึงต้องไล่กัดไม่ปล่อยเช่นนี้ เขาตกระกำลำบากจนไม่มีที่พึ่งแล้วเจ้ายังไม่ปล่อยเขาไปอีก ข้าสงสัยว่าชายชู้คนนั้นเจ้าเป็นคนจัดหามา พวกเจ้า ชายโฉดหญิงชั่วทั้งหลาย ไร้ยางอาย……”
หงกุ้ยเฟยใช้น้ำเสียงกราดเกรี้ยวตัดบทคำพูดของนาง “ฉินเฟย อย่าพูดจาเหลวไหล เจ้าเป็นผู้อาวุโส ทำไมจึงพูดจาไม่รู้หนักเบาเช่นนี้”
ฉินเฟยมองหวงกุ้ยเฟยด้วยสายตาโศกเศร้าระคนโมโห“ได้ ตอนนี้พวกเจ้าต่างก็รวมหัวกันเพื่อจะรังแกข้าที่เป็นสนมตกอับไม่ได้รับความโปรดปรานแล้ว ใช่เรื่องจริงหรือไม่ พวกเจ้าก็ออกไปตรวจสอบดู ถ้าหากข้าพูดเท็จเพียงครึ่งคำ รับรองได้ว่าข้าต้องถูกฟ้าผ่าไม่ได้ตายดีแน่”
พูดจบ นางก็เดินไปข้างหน้าจะจับมือเมิ่งซิง กับเมิ่งเยว่ “พวกเจ้าไปกับย่า อย่าอยู่กับคนพวกนี้ ไม่ช้าจะกลายเป็นคนไม่ดี ”
สองพี่สาวตกใจตนวิ่งตรงไปหลบอยู่ในอ้อมอกของหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงปกป้องทั้งสองคนเอาไว้ถอยไปข้างหลัง และรู้สึกโมโหขึ้นมาแล้ว “เสด็จแม่ ท่านอย่าทำเช่นนี้ ท่านทำให้เด็กตกใจแล้ว”
ฉินเฟยคิดไม่ถึงว่าจวิ้นจู่ทั้งสองจะกลัวนาง ยอมเชื่อใจคนนอกมากกว่าคนเป็นเสด็จย่าอย่างนาง หัวใจเจ็บปวดมาก ทั้งเสียใจทั้งโมโหและพูดขึ้นว่า
“พวกเจ้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร ข้าเป็นเสด็จย่าของพวกเจ้า นั่นเป็นพ่อแท้ๆของพวกเจ้า ใครใช้ให้พวกเจ้าไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว มานี่ ตามย่ากลับตำหนัก พรุ่งนี้จะส่งพวกเจ้าไปอยู่กับพ่อของเจ้า อยู่กับแม่ของพวกเจ้าไม่ได้แล้ว”
เมิ่งซิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ร้องไห้ออกมาทันที “ข้าไม่ไป ข้าไม่ไปอยู่กับท่านพ่อ ข้าจะอยู่กับท่านแม่”
“แม่เจ้าเป็นหญิงสารเลว” ฉินเฟยโมโหจนไม่สนใจภาพลักษณ์ ด่าคำหยาบคายออกมา
สีหน้าของหยวนชิงหลิงเคร่งขรึมลง หันหน้ากลับไปมองหรงเยว่แวบหนึ่ง ใช้สายตาส่งสัญญาณ การทะเลาะไม่ใช่จุดแข็งของนาง ฉะนั้นตอนนี้จึงได้แต่เลือกที่จะปล่อยหรงเยว่ออกหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...