บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 969

เพราะมีอ๋องหวยอยู่ข้างกายหรงเยว่ แม่สามีตัวเองหลู่เฟยก็อยู่ด้วย ฉะนั้นจึงเก็บอารมณ์โกรธในใจลงไปอย่างสุดกำลัง ตอนนี้หยวนชิงหลิงได้ส่งสายตามาให้ ได้รับการอนุญาตจากหยวนชิงหลิง ทันใดนั้นนางก็ตบโต๊ะลุกขึ้น พูดอย่างโมโหว่า

“พอแล้ว จะหยุดได้หรือยัง ลูกชายของท่านเป็นคนอย่างไรใครบ้างจะไม่รู้ เอาเขาไปเปรียบกับฮูหยินเหยา จะเทียบหาอะไร อย่ารังเกียจว่าข้าพูดจาไม่น่าฟัง พูดจาไร้ความรู้แต่ก็มีเหตุผล ผู้หญิงถ้าหากติดตามเขา ไม่แน่ว่าอาจจะถูกขายเพื่อแลกเงินในสักวัน

ฉินเฟยท่านให้กำเนิดลูกชายแต่ไม่รู้จักนิสัยใจคอลูกชายหรือ ตอนนั้นถ้าหากไม่มีฮูหยินเหยาคอยช่วยเหลือสนับสนุนอยู่ อาศัยเขาคนเดียวจะสามารถดิ้นรนได้นานเช่นนี้หรือ ตอนนี้เขาพูดคำสองคำท่านก็เชื่อแล้ว จะทำตัวช่วยเหลือเลือดเนื้อเชื้อไขน่ะได้

แต่ไม่สามารถหลับหูหลับตาเชื่อโดยไม่สนใจความเป็นถูกต้อง ฮูหยินเหยาถูกลูกชายท่านทำร้ายจนเกือบจะตายไปตั้งกี่หนตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีชีวิตที่สงบสุขได้กี่วัน ไม่ขอร้องไห้ท่านช่วยฮูหยินเหยา แต่อย่ารังแก ได้หรือไม่”

คำพูดของหรงเยว่นั้นหยาบจริงๆ แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่านางเติบโตมาในยุทธจักร แม้เป็นต้าซิงจวิ้นจู่แต่ก็ไม่เคยสัมผัสเกียรติยศอันสูงส่งของราชวงศ์ต้าซิงแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้เรียนรู้พิธีการของราชวงศ์ คำพูดนี้แรกเริ่มนั้นไม่น่าฟัง แต่ว่าระบายอารมณ์โกรธในใจออกมาได้ดีมาก

แม้แต่หลู่เฟยที่ปกติไม่ค่อยจะชินตากับความหยาบของลูกสะใภ้สักเท่าไหร่ วันนี้ยังอดที่จะตบมือชมว่าดีไม่ได้

อ๋องหวยแววตาเรียบเฉยหลุบลง รอให้หรงเยว่กลับมาอยู่ข้างกายแล้ว จึงยื่นแก้วน้ำให้นางอย่างเงียบๆ

“ดื่มให้ชุ่มคอเสียหน่อย”

หรงเยว่มองเขาอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง เห็นผู้ชายของตนเองไม่โกรธ จึงผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งเสียง ถ้ารู้แต่แรกคงจะด่าให้ไม่น่าฟังมากกว่านี้หน่อย

ฉินเฟยโมโหตาเหลือกขึ้น เกือบจะเป็นลมไปแล้ว หวงกุ้ยเฟยใช้โอกาสตัดบททันที สั่งให้คนส่งฉินเฟยกลับไป เกรงว่านางจะพูดจาไม่น่าฟังทำร้ายจิตใจจวิ้นจู่อีก

งานเลี้ยงในครอบครัวที่จัดขึ้นอย่างดี ถูกทำให้กลายเป็นเช่นนี้ หวงกุ้ยเฟยอยากจะกระอักเลือดเสียจริง

ตี๋กุ้ยเฟย ชิงเฟยต่างก็จากไปแล้ว จิ้งเฟยนิ่งขรึมอยู่ชั่วครู่ คิดถึงอ๋องเว่ยที่เลี้ยงดูอยู่ข้างกาย ก็อดที่จะมีสีหน้าเศร้าเสียใจไม่ได้ มอบหมายสองสามีภรรยาอ๋องซุนไม่กี่คำ ก็จากไปด้วย

หวงกุ้ยเฟยจึงได้แต่มีรับสั่งให้เลิกงานเลี้ยง คนค่อยๆทยอยจากไป ท่านอ๋องทั้งหลายต่างก็ออกไปแล้ว เหลือไว้เพียงพระชายาไม่กี่คนกับหวงกุ้ยเฟยนั่งคุยกันด้านใน

เมิ่งซิงยังคงร้องไห้ ดึงแขนเสื้อของหยวนชิงหลิงพูดว่า “น้าห้า ท่านแม่อยู่กับชายอื่นจริงหรือ นางไม่ต้องการพวกข้าแล้วหรือ”

เมิ่งเยว่ทำหน้าขรึมดุน้องสาวทันที“อย่าพูดจาเหลวไหล นั่นเป็นการพูดให้ร้ายต่อท่านแม่จากคนอื่น”

หยวนชิงหลิงดึงมือของทั้งสองคนเอาไว้ ตัดสินใจว่าไม่สามารถใช้ความคิดในยุคสมัยนี้สอนพวกนาง ไม่เช่นนั้นฮูหยินเหยาชาตินี้ก็ไม่ต้องคิดจะมีความสุขแล้ว แม้ว่าตอนนี้นางยังไม่พบเจอคนที่เหมาะสม แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าภายหน้าจะไม่พบ

และไม่สนว่าจะพบหรือไม่ เหตุผลก็ควรจะเป็นเช่นนี้

นางเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ฟังที่น้าห้าจะพูดกับพวกเจ้าคำหนึ่ง แม่ของพวกเจ้าตอนนี้ไม่ได้อยู่กับผู้ชายคนอื่น แต่ว่า แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง พวกเจ้าคงได้แต่อวยพร ในเป่ยถังของเรามีหญิงสาวที่หย่าร้างหรือถูกทอดทิ้งให้ออกจากบ้านไม่น้อย ล้วนสามารถแต่งงานได้เหมือนกัน แล้วทำไมท่านแม่ของพวกเจ้าจะทำไม่ได้เล่า

นางเกิดมาต่ำต้อยกว่าคนอื่นหรืออย่างไร นางลำบากมามากมายทั้งชีวิต พวกเจ้าก็เติบโตแล้ว เรื่องของพ่อแม่ก็ปิดบังไว้ไม่ได้ ย่อมมีสักวันที่พวกเจ้าจะรู้ว่านางเคยลำบากเพื่อชีวิตแต่งงานเพื่อครอบครัวนี้ตั้งเท่าไหร่ ได้รับความลำบากมากแค่ไหน นางคู่ควรที่จะมีชีวิตที่มีความสุขยิ่งขึ้น นางคู่ควรมีคนปกป้องนาง พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่”

เมิ่งเยว่ช่วงนี้คอยติดตามคุณย่าหยวนอยู่ในโรงเรียนแพทย์ ความคิดของคุณย่าหยวนก็ก้าวหน้ามาก ฉะนั้นเมื่อหยวนชิงหลิงพูดเช่นนี้ เมิ่งเยว่ก็พยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ข้าหวังว่าท่านแม่จะมีความสุขมากกว่าใครทั้งสิ้น”

เมิ่งซิงกลับยังคงไม่เข้าใจ ได้แต่ส่ายหน้าร้องไห้พูดว่า “ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอมให้ท่านแม่แต่งงานกับชายอื่น”

“เมิ่งซิง ถ้าเช่นนั้นเจ้าสามารถอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ตลอดชีวิตหรือไม่ ตอนนี่เจ้าอาศัยอยู่ที่บ้านท่านตา ท่านแม่อยู่ตัวคนเดียว แม้ว่าพวกเจ้าจะสามารถกลับไปอยู่เป็นเพื่อนนางได้ แล้ววันหน้าพวกเจ้าแต่งงานออกเรือนเล่า

นางต้องโดดเดี่ยวเช่นนี้ไปตลอดชีวิตหรือ”หยวนชิงหลิงพูด

เมิ่งซิงเอ่ยด้วยเสียงร่ำไห้ว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่แต่งงาน ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนนาง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน