หยวนชิงหลิงถามถึงเรื่องอาคมหมอผี ยายแก่นิ่งอึ่งไปเนิ่นนาน พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเทาว่า “นางได้ยินเสียงเรียกร้องแล้วหรือ? วิชาปลูกชีวีจะไม่เกิดผลแล้ว”
เป็นวิชาปลูกชีวีจริงๆด้วย หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้แล้ว แล้วก็มองดูดวงตาเป็นหลุมดำคู่นี้ของยายแก่ พร้อมถามขึ้นว่า “วิชาปลูกชีวีเจ้าเป็นคนช่วยนางหรือ?”
ริมฝีปากยายแก่สั่นเทา พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ดวงตาหนึ่งคู่ ขาหนึ่งข้าง เลี้ยงหนอนกู่ปลูกชีวี เดิมคิดว่าอย่างน้อยก็สามารถยับยั้งควบคุมไว้ได้ยี่สิบสามสิบปี กลับคิดไม่ถึง เพียงแค่สิบกว่าปี เสียสละไปกว่าร้อยชีวิตแล้ว ถึงสามารถช่วยนางออกมาได้ แล้วจะให้นางกลับไปได้อย่างไร?”
ประโยคนี้ฟังจนหยวนชิงหลิงใจสั่น เสียสละกว่าร้อยชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตหมันเอ๋อ หากนางตกอยู่ในมือหมอผีเจียงเป่ยอีกครั้ง คนพวกนี้จะอยู่อย่างสงบได้อย่างไร?
“การอาคมหมอผีนี้ สามารถแก้ได้ไหม?” หยู่เหวินเห้าถามขึ้น
ยายแก่ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เดิมไม่มีทางแก้ แต่ได้ยินเจียงเป่ยเล่ากันว่า อาคมหมอผีสามารถใช้ยันต์เลือดอักษรวัสติกะของผู้หญิงตระกูลหลงแก้ได้”
ยันต์เลือดอักษรวัสติกะตระกูลหลง? คืออะไร? เป็นยาถอนพิษ หรือเป็นหนึ่งในพิธีกรรมใดในศาสนา?
“เป็นยันต์คำสาปหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
ยายแก่ส่ายหัวอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ นี่เป็นเพียงคำร่ำลือ จริงเท็จอย่างไร มีเพียงหมอผีถึงจะรู้”
คำพูดของยายแก่ ทำให้หยวนชิงหลิงตัดสินใจจะไปแคว้นต้าโจว
ตอนกลางคืนได้ปรึกษากับเจ้าห้าอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าห้าก็ไม่ได้ห้ามแล้ว ส่งจดหมายไปให้จิ้งถิงที่แคว้นต้าโจวก่อน จากนั้นก็จัดการงานที่มีอยู่ในตอนนี้ แล้วก็ไปกราบทูลขอฮ่องเต้หมิงหยวน
เกี่ยวกับสถานการณ์หลังจากนี้ของหนานเจียง ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นชอบอยู่แล้ว และหลังจากมีการสู้รบ ทั้งสองประเทศยังไม่เคยมีการส่งทูตเยี่ยมเยียนกัน ตอนนี้องค์ชายรัชทายาทยื่นความประสงค์เพื่อไปเป็นทูต ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสม
หลังจากที่หยวนชิงหลิงเคยสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง นางกลัวที่จะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นอีกอย่างมาก เพราะฉะนั้นจะต้องหาหนทางเตรียมรับมือ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ อย่างแรกคือเพื่อหมันเอ๋อ อย่างที่สองก็คือเพื่อตนเอง
แต่เมื่อเจ้าห้าเตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้ว ตอนที่เตรียมจะออกเดินทาง กลับกระวนกระวายขึ้นมา
เพราะครั้งนี้เค้าจะต้องได้เจอกับจิ้งถิง ดังนั้นเขาอยากที่จะพาแฝดสองไปด้วย เพราะจิ้งถิงยังไม่เคยเห็นแฝดสอง ส่วนพวกเด็กๆไม่พาไปแล้ว พาเด็กห้าคนเดินทางไปด้วย การเดินทางในครั้งนี้ก็จะกลายเป็นทาสลูก
แต่เมื่อเพิ่งกำหนดวันออกเดินทาง พวกเด็กๆต่างก็เตรียมกระเป๋าเดินทางของตนเองเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าไร้เดียงสาที่คล้ายกันทั้งสามคนปรากฏอยู่ตรงหน้าหยู่เหวินเห้า เขาทำใจไม่ได้ที่จะพูดว่าไม่พาพวกเขาไปด้วย
เวลานี้ จึงต้องให้หยวนชิงหลิงเป็นคนออกหน้า พูดโน้มน้าวให้พวกเด็กๆเฝ้ารออยู่ที่บ้าน
ผลสุดท้าย หลังจากหยวนชิงหลิงไปคุย กลับกลายเป็นกลับมาพูดโน้มน้าวเขา ให้พาพวกเด็กๆไปด้วย
หยู่เหวินเห้ารู้ตำแหน่งในบ้านของตนเองดี ทำได้เพียงยินยอมอย่างจนใจ
แต่จากนั้นกลับต้องตะลึง หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว หมาป่าสามตัว เสือสองตัว รอเรียงกันอยู่ตรงหน้าประตู ต่างก็คาบถ้วยของตนเองไว้ รอขึ้นรถม้าออกเดินทางไปพร้อมกัน
“ไม่ได้ เลื่อนออกไปหนึ่งวัน” หยู่เหวินเห้าคิดว่าจะพาคนกับสัตว์ออกเดินทางเยอะขนาดนี้ไม่ได้ นี่จะเหมือนอะไรกัน?
เลื่อนออกไปนั่นเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้แล้ว พวกเด็กๆก็รอคอยอยู่
หยู่เหวินเห้านับจำนวนคนดู มีลูกห้าคน แม่นมสองคนรับผิดชอบดูแลแฝดสอง สวีอี อะซี่ หมาป่าสามตัว เสือสองตัว ยังมีลู่หยาฉี่หลอรับผิดชอบดูแลพวกเด็กๆ รวมทั้งองครักษ์ผู้ติดตาม บวกกันแล้วรวมสี่สิบปาก การเดินทางในครั้งนี้ยังต้องเตรียมของฝากไปด้วย ดังนั้นรถมาที่เตรียมไว้มีสิบกว่าลำ นี่จะต้องเดินทางถึงเดือนไหนปีไหนค่อยถึงแคว้นต้าโจว?
“ช่างเป็นตระกูลที่ใหญ่ยิ่งนัก” หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...