ตอนที่ 3236 เหตุผล
แดนเทพมากเร้นค่อยๆ เงียบลง
กลางฟ้าดินหลินสวินลืมตาขึ้น
ชั่วขณะนั้นให้ความรู้สึกเหมือนฟ้าดินสั่นไหว ฟ้าดินไร้สิ้นสุดเปล่งพลังชีวิตออกมาทันที
เพียงแต่ยามเห็นเงาร่างของหลินสวิน กลับพบว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง ถึงขั้นแม้แต่กลิ่นอายเสี้ยวหนึ่งยังสัมผัสไม่ถึง
ก่อนหน้านี้ยังสามารถสัมผัสได้ถึงท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่ ‘ยิ่งใหญ่ดั่งแรกกำเนิด ว่างเปล่าเช่นนั้น’
แต่ตอนนี้แม้แต่ท่วงทำนองเช่นนี้ก็หายไปแล้ว
กลิ่นอายทั้งหมดล้วนกลับสู่ความ ‘ไร้’!
เห็นเช่นนี้จักจั่นทองเหมือนวิญญาณหลุดลอย พึมพำในใจว่า ‘วาสนานี้ อย่างไรก็ไม่ใช่ของข้า…’
และห่างออกไปพลังจิตของไท่ชูหยุดดิ้นรนแล้ว
เขามองหลินสวินอึ้งๆ เหมือนมองเส้นทางมหามรรคที่เขาเคยหวังจะไปให้ถึง
ครู่ใหญ่เขาถึงเอ่ยทอดถอนใจ “การประชันหมากครั้งนี้ข้าแพ้แล้วจริงๆ…”
“เจ้าลัทธิ!”
อีกาดำทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งเข้ามาน้ำตาไหลไม่หยุด
“ร้องไห้ทำไม”
ไท่ชูเงยมองนาง ยิ้มพูด “ในเมื่อเป็นการประชันหมากย่อมมีแพ้ชนะ ก็เหมือนที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แม้วางแผนไว้อย่างยากลำบากมาเนิ่นนาน ก็สู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวแปรไม่ได้”
อีกาดำก้มหน้า น้ำตาไหลไม่หยุด
ไท่ชูยื่นมือไปลูบหัวนาง พูดเสียงอบอุ่น “อย่าร้องเลย เจ้ารู้ว่าข้าแพ้น้ำตาที่สุด”
อีกาดำเช็ดขอบตา พยายามกลั้นความเศร้าโศกในใจเอาไว้ เงยใบหน้าเล็กขึ้นเอ่ยว่า “เจ้าลัทธิ สำหรับข้าท่านไม่ได้แพ้!”
ไท่ชูยิ้ม สายตากลับมองหลินสวินที่อยู่ห่างออกไป เอ่ยว่า “เจ้ามองข้าเช่นนี้ คงไม่ใช่คิดจะให้ข้าฆ่าตัวตายหรอกนะ”
หลินสวินส่ายหน้าพูด “ข้ากลับหวังว่าเจ้าจะไม่ตาย”
ไท่ชูอึ้ง เงียบงันไปครู่หนึ่ง ครู่ใหญ่หลังจากนั้นพลันหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “เจ้าไม่แค้นหรือ ก่อนหน้านี้จักจั่นทองใช้ชีวิตของโพธิข่มขู่ ทำให้เจ้าเสียจังหวะในการเคลื่อนไหว และทำให้ข้าฉวยโอกาสทำร้ายเจ้าจนบาดเจ็บสาหัส แทบจะสิ้นชีพด้วยซ้ำ”
“นี่ก็คือพิบัติเคราะห์”
หลินสวินพูดเรียบๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ จะมีข้าในตอนนี้ได้อย่างไร แม้จักจั่นทองสังหารอาจารย์ข้า ข้าก็มีความมั่นใจว่าจะช่วยเขากลับมาได้”
เขาเว้นช่วงไปแล้วถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “ข้าเพียงคิดไม่ถึงว่าคนที่ข้าเคารพและไว้ใจมาโดยตลอด กลับไม่ใช่คนในเส้นทางเดียวกัน…”
เสียงแฝงความผิดหวัง
ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ยามจักจั่นทองเอาชีวิตของโพธิมาข่มขู่ ที่หลินสวินโกรธไม่ใช่เรื่องที่จะรักษาชีวิตโพธิได้หรือไม่ แต่เพราะการ ‘ทรยศ’ ของจักจั่นทอง
นี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุที่หลินสวินเสียสมาธิในชั่วขณะนั้น
“จักจั่นทอง ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดจะอธิบายให้ชัดเจนอีกหรือ”
ห่างออกไปเฉินซีพูดเสียงเย็น
เฉินหลินคงเองก็มองไป ในดวงตาเย็นชาแฝงความรู้สึกซับซ้อน หากเป็นไปได้เขาไม่อยากให้จักจั่นทองเป็นคนทรยศจริงๆ
ดวงตาของโพธิและซย่าจื้อเองก็มองไปยังจักจั่นทอง
“ไม่มีอะไรต้องอธิบาย”
จักจั่นทองคิดๆ แล้วพูดอย่างราบเรียบ “ข้าแพ้ที่การไปช่วงชิงวาสนา นับว่ายอมแพ้ทั้งปากและใจแล้ว”
หลินสวินขมวดคิ้วน้อยๆ ดวงตามองใบหน้าอบอุ่นสงบนิ่งของจักจั่นทอง นึกถึงเรื่องราวในอดีต ในใจก็อดทรมานไม่ได้
ครู่ใหญ่เขาถึงถามว่า “ผู้อาวุโส ยังจำครั้งแรกที่พบกันในป่าต้นหม่อน ท่านกับข้า ‘พูดคุย’ เรื่องต่างๆ เอ่ยถึงเรื่องในอดีตของมหาจักรพรรดิหมื่นเคราะห์กับข้า… เรื่องพวกนี้ท่านยังจำได้หรือไม่”
จักจั่นทองพยักหน้า ใบหน้าเผยความระลึกอดีต “จำได้ ข้าเคยบอกว่าที่เจ้ากับข้าเจอกันเป็นวาสนาหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล”
“ท่านในตอนนั้นรู้นานแล้วว่าต้องมีวันนี้ใช่หรือไม่”
หลินสวินถาม
จักจั่นทองเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “ข้าเคยฟังอาจารย์เจ้าอธิบายมหามรรคยี่สิบปีนอกคีรีดวงกมล เคยไปหาต้นกำเนิดนิพพานที่ต้นชีวิตอัศจรรย์ทำหายที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และเคยฟังมรรคาถาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัวดอกหนึ่งหมื่นกาลที่อาจารย์ของเจ้าทิ้งเอาไว้…”
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ตอนที่ข้าเจอเจ้า ก็มีลางสังหรณ์แล้วว่า ในอนาคตเจ้าอาจจะเป็นบัวดอกนั้น และนัยเร้นลับนิพพานก็จะเป็นของเจ้า”
หลินสวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “หากสุดท้ายสิ่งที่ท่านต้องการคือพลังแห่งนิพพาน เหตุใดจึงไม่ฆ่าข้าตั้งแต่ตอนนั้น”
จักจั่นทองยิ้ม “สหายน้อยในใจเจ้า ข้าเป็นคนที่ทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุผลหรือ”
หลินสวินส่ายหน้า พูดโดยไม่คิด “แน่นอนว่าท่านไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะฉะนั้น ข้าจึงรู้สึกไม่เข้าใจ จึงไม่กล้าเชื่อว่า ในการประชันหมากครั้งนี้ท่านจะทำเรื่องเช่นนี้”
จักจั่นทองยิ้มขื่น กลับไม่พูดอะไรอีก
โพธิที่เงียบมาโดยตลอดอดพูดไม่ได้ “จักจั่นทอง ข้าอยากถามเพียงว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาก่อนจะถึงวันนี้ ในใจเจ้าเห็นพวกเราเป็นสหายหรือไม่”
สายตาของจักจั่นทองมองไปยังโพธิ ยิ้มพูด “มหามรรคและมิตรภาพสามารถครอบครองพร้อมกันได้ นี่ก็คือสิ่งที่ในใจข้าสะใจที่สุดในวันนี้”
โพธิกลับเหมือนฟังเข้าใจแล้ว สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมา เอ่ยว่า “เช่นนี้ ข้าก็วางใจแล้ว”
เฉินหลินคงพูด “จักจั่นทอง เจ้ายอมแพ้แล้ว แต่ทำไมถึงไม่บอกเหตุผลมาให้หมด”
เขายังคงโกรธมาก
เฉินซีเองก็ขมวดคิ้ว จักจั่นทองนี่ เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องอื่นปิดบัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์