ผู้หญิงคนนี้เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแห่งหนึ่ง “ฉันได้ยินมาว่าคุณมีแฟน แต่ทำไมไม่เคยเห็นเขาเลยล่ะคะ ฉันอยากเห็นเขาจริง ๆ”
ลู่ม่านเซิงจับผมแล้วพูดอย่างมีชั้นเชิง “ฉันไม่ชอบให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนน่ะค่ะ ก็เลยไม่เคยให้เขาออกงานด้วย ไว้เมื่อเราแต่งงานกัน ฉันจะเชิญคุณอย่างแน่นอนค่ะ”
“ลึกลับจังเลยนะคะ งั้นฉันจะรอติดตามต่อไปค่ะ”
บรรณาธิการหันหน้าไปและเห็นเวินหนี่อยู่ข้าง ๆ จึงพยักหน้าให้เธออย่างสุภาพ “คุณเวิน พบกันอีกแล้วนะคะ”
เวินหนี่เองก็รู้จักเธอ ครั้งก่อนเธอต้องการสัมภาษณ์พิเศษกับเย่หนานโจว และพวกเธอก็ได้พบกัน
และเธอก็ประสบความสำเร็จได้เพราะผ่านการช่วยประสานงานโดยเวินหนี่
เธอตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “สวัสดีค่ะบรรณาธิการเฉิน”
“พวกคุณรู้จักกันด้วยเหรอคะ?” บรรณาธิการเฉินมองพวกเธอสองคนสลับกันไปมา
ลู่ม่านเซิงพูดขึ้นว่า “รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทกันมากค่ะ”
เธอจงใจตีตัวออกห่างจากเวินหนี่
เวินหนี่ก็พูดต่อเธอว่า “พอกลับมาคุณลู่ก็พาดหัวข่าวเกี่ยวกับคู่หมั้นซะใหญ่โต ไม่แปลกใจที่บรรณาธิการเฉินจะอยากรู้ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ คิดว่าจะพากลับมาจากต่างประเทศเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่”
บรรณาธิการเฉินตกตะลึงและถามขึ้นอีกว่า “ไม่ใช่หรอกเหรอคะ?”
“อ่า สื่อรายงานมั่วน่ะสิคะ” ลู่ม่านเซิงกล่าวอย่างใจเย็น
เธอจงใจปล่อยข่าวนั้นเองเพื่อทดสอบว่าเย่หนานโจวจะสนใจว่าเธอมีคู่หมั้นหรือไม่
แต่เธอได้ยินมาว่าเย่หนานโจวดื่มหนักในคืนนั้น ซึ่งหมายความว่าเขายังคงสนใจเธออยู่
“แฟนของฉันอยู่ในจีนและรอฉันมาหลายปี ความสัมพันธ์ของเรามั่นคงมาก เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะตกหลุมรักชาวต่างชาติค่ะ”
ลู่ม่านเซิงมองไปที่เวินหนี่ เห็นได้ชัดว่าจงใจพูดให้เวินหนี่ฟัง
นอกจากนี้ยังเป็นการบอกเธอด้วยว่า ไม่ว่าพวกเธอจะแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง ลู่ม่านเซิงและเย่หนานโจวก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เวินหนี่รู้สึกแย่ในใจ เธอเป็นภรรยาตามกฎหมายของเย่หนานโจว แล้วทำไมถึงไม่ใช่เธอที่จะเป็นฝ่ายยั่วยุล่ะ?
“คบกันมาตั้งนานหลายปีแล้วทำไมยังไม่ได้แต่งงานกันสักทีล่ะคะ มัวรออะไรอยู่?” เวินหนี่มองลู่ม่านเซิงอย่างตรงไปตรงมา “สื่อข่าวก็มีพลังมาก แถมคุณลู่ก็ยังโด่งดังมากขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีเบาะแสอะไรบ้าง เป็นเพราะคุณลู่ปกปิดข่าวได้ดีงั้นเหรอคะ? ฉันมักจะอ่านข่าวซุบซิบอยู่บ่อย ๆ คราวก่อนดาราหญิงที่อยู่ในสถานการณ์นี้ก็ดูเหมือนว่าจะตกหลุมรักชายที่แต่งงานแล้วด้วยนะคะ”
ขณะที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ก็มีคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ซึ่งพวกเขาต่างก็รู้จักลู่ม่านเซิง
คำพูดของเวินหนี่ ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองลู่ม่านเซิง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรับรู้ถึงสายตาแปลก ๆ
บรรณาธิการก็รอคำอธิบายเช่นกัน เมื่อเห็นว่าลู่ม่านเซิงเงียบไม่ตอบ เธอจึงพูดขึ้นอย่างลังเล “ม่านเซิง คงไม่เป็นแบบนั้นหรอกใช่ไหม?”
ลู่ม่านเซิงที่พวกเขารู้จักนั้นสูงส่งแค่ไหน ทุกคนต่างก็รู้ดี จึงไม่เคยมีใครคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
แต่ในฐานะที่เธอเป็นบุคคลสาธารณะ กลับได้ยินแต่เพียงเรื่องการมีอยู่ของคู่หมั้นของเธอ แต่ไม่เคยพูดถึงมันเลย ซึ่งมันก็ทำให้แปลกมากขึ้น
คำว่า “ชายที่แต่งงานแล้ว” เป็นเหมือนหนามแหลมในหัวใจของลู่ม่านเซิงที่กระแทกเกราะป้องกันภายในของเธอ เธอกำมือแน่น “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ อย่าพูดมั่วกันไปเลยค่ะ”
เธอไม่ต้องการให้ผู้คนหัวเราะเยาะในงานนี้
เวินหนี่มองดูชุดของเธอแล้วกล่าวเสริมขึ้นอีกว่า “ชุดราคาห้าล้านมันก็นั้นคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจริง ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรือเปล่า”
ทันทีที่เธอพูดจบ บรรณาธิการเฉินก็ถามขึ้นว่า “บังเอิญเรื่องอะไรเหรอคะ?”
เวินหนี่มองไปที่ลู่ม่านเซิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แต่คำพูดของเธอนั้นเหมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของลู่ม่านเซิง “เมื่อวานนี้ไม่รู้ว่าฉันได้ยินใครพูดมา ว่ามีประธานคนหนึ่งที่นอกใจภรรยาให้บัตรเครดิตมือที่สามไปรูดเป็นล้าน สุดท้ายถูกภรรยาจับได้ทะเลาะกันใหญ่โตเลยล่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน