ชายคนนั้นสอดมือลงในกระเป๋าเสื้อและจ้องมองเวินหนี่ด้วยสายตาอ่อนโยนครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ลู่เซิน พวกเราอยู่ห้องเดียวกันทั้งตอนประถมและมัธยมต้น”
เวินหนี่จมอยู่ในความคิดเป็นเวลานาน
จากภาพจำของเธอ ลู่เซินนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ตอนนั้นเขาเป็นเด็กอ้วนตัวเล็ก ๆ และนั่งอยู่แถวหลังเงียบ ๆ ทุกภาคเรียน
เธอไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเขามากนัก
เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่มีผลการเรียนดีที่สุดมาโดยตลอด เธอทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการการศึกษาในชั้นเรียน และมากสุดก็แค่พูดคุยกันสองสามคำตอนเก็บการบ้านเท่านั้น
คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะกลายเป็นคนที่หล่อเหลาขนาดนี้
“ลู่เซิน?” ริมฝีปากของเวินหนี่โค้งขึ้นเล็กน้อย “ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ล่ะ? ฉันจำนายไม่ได้เลย”
“ใช่น่ะสิ ฉันเปลี่ยนไปมาก ไม่แปลกที่เธอจะจำไม่ได้” ลู่เซินมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “เพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็จำฉันไม่ได้ แต่ฉันจำเธอได้นะ”
เวินหนี่มีความสุขมากที่ได้พบเพื่อนร่วมชั้นเก่า
หลังจากที่เธอเริ่มทำงาน เธอก็ไม่ค่อยได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นเลย เพราะทุกครั้งมัวแต่ยุ่งกับการทำงาน
ชีวิตของเธอนั้นซ้ำซากจำเจ มีแค่งานและครอบครัว นอกเหนือจากเพื่อนร่วมงานแล้ว เธอก็มีถังเยาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนี้ ชีวิตของเธอก็ดูค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะเวลาส่วนใหญ่เธอมอบให้กับเย่หนานโจวไปจนหมด
“หลังจากเรียนจบมอต้นนายไปอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนว่าฉันจะไม่เคยได้ยินข่าวของนายเลย” เวินหนี่พูดคุยกับเขา
“ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศน่ะ” ลู่เซินตอบเธอ “เพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เอง”
“อย่างนี้นี่เอง” เวินหนี่เห็นว่าชุดสูทของเขาเปื้อนเป็นวงใหญ่จึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ถอดเสื้อออกสิ ฉันจะเอาไปซักให้นายเอง”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน