บทที่ 107 การต่อสู้ภายใน
“ใช้อำนาจระดมพล เวยเอ๋อร์นี่ไม่เปลี่ยนจริงๆ”
ซ่านจวนฮ่าวลากเสียงหัวเราะออกมายาวเหยียด ตอนนี้พวกเขาได้กลับมาที่เมืองเทียนเหยียนอีกครั้ง
“องค์ชายหก ฮองเฮาเหนียงเหนียง(เหนียงเหนียงเป็นคำแสดงความเคารพเมื่อพูดถึงเมียของฮ่องเต้)หาตำหนักอื่นให้ท่านแล้ว พระองค์ทรงฝากให้กระหม่อมมาบอกท่านว่า อย่าอยู่ใกล้พระชายาจิ้งเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ” บ่าวรับใช้ที่อยู่ด้านหลังเอ่ยเตือนสติ เมื่อเห็นองค์ชายหกกำลังจะเข้าไปหาพระชายาจิ้งในร้านจี้ซื่อถาง
ซ่านจวนฮ่าวสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา หันตัวกลับมาทันที “ใต้หล้ากว้างใหญ่ไพศาล แต่เวยเอ๋อร์นั้นย่อมต้องใหญ่กว่าสิ่งใด”
คำห้ามปรามของบ่าวรับใช้ล้วนไร้ประโยชน์ ก็เลยจำใจต้องเข้าไปกับเขาด้วย และเรื่องนี้ก็มีคนเอาไปรายงานฮองเฮา ฮองเฮาที่อยู่ในวังหลวงก็เกิดโมโหเดือดดาลยิ่ง คิดไม่ถึงว่าลูกคนนี้พูดพร่ำถึงคนที่ตนรักมาต้องแต่เด็กจะเป็นกู้อ้าวเวย
กู้อ้าวเวยเพิ่งจะปลอบใจว่านฟางเสร็จ ก็กำลังพูดคุยเรื่องมาเป็นหมอประจำอยู่ที่นี่กับเห้อจิ้นหล่าง
“ข้าทำได้เพียงต้องใส่ผ้าคลุมหน้าตรวจรักษา ท่านหมอเห้อช่วยตั้งชื่อตามใจท่านหมอให้กับข้าก็พอ”
“เป็นวิธีที่ดี” เห้อจิ้นหล่างหัวเราะออกมาเสียงดัง ทำให้กู้อ้าวเวยรู้สึกชื่นชมอย่างยิ่ง ไม่ได้เจอกันนาน กู้อ้าวเวยจู่ๆ ก็มีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกันต่อเครื่องปรุงยาจีนทุกชนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเอายาเม็ดและสมุนไพรมาด้วยไม่น้อยหรือไม่ อีกทั้งยังแบ่งปันให้กับเขาโดยไม่ขี้เหนียวแม้แต่น้อย เป็นธรรมดาที่จะยิ่งทำให้เขารู้สึกชื่นชม
ตำราลับเดิมทีก็ยึดตามการแพทย์ของตระกูล เนื่องเพราะมีสูตรยาลับไม่น้อยที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่เคยเผยแพร่ออกไปให้ใครได้รู้ แต่กู้อ้าวเวยกลับเป็นหมอที่มีความเมตตาอย่างแท้จริง
“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเอาใบสั่งยาของเจ้าไปลอกเลียนแบบรึ?”
“ข้าเชื่อใจท่าน ท่านหมอเห้อ” กู้อ้าวเวยกะพริบตาปริบๆ ให้ด้วยท่าทางที่น่าขำไม่น้อย เอาใบสั่งยาที่รักษาอาการลมเย็นให้เขาสองใบ สมุนไพรที่อยู่ในใบสั่งยาทั้งสองนี้ล้วนหาง่าย ทั้งราคาก็ถูกมาก ให้กับร้านยาจี้ซื่อถางจะดีกว่า
“เวยเอ๋อร์” ซ่านจวนฮ่าวผลักบ่าวรับใช้ที่กำลังขัดขวางเขาอยู่ข้างๆ เข้ามา
เห้อจิ้นหล่างมีความรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย กู้อ้าวเวยก็รีบไปยืนข้างๆ ปิดปากเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้องค์ชายหกผู้นี้จะบอกฐานะตัวเองให้คนอื่นรู้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะสามารถทำงานในร้านจี้ซื่อถางจนสนิทชิดเชื้อได้ แม้แต่ฐานะของนางก็ยังต้องปิดบัง
“ท่านไม่ได้ไปรีบจัดการเรื่องพ่อค้ามนุษย์หรือ เหตุใดถึงมาที่นี่เล่า?” กู้อ้าวเวยถามเสียงต่ำ
ซ่านจวนฮ่าวฉวยโอกาสเอามือของนางออก พูดต่อว่า “มีเบาะแสแล้ว ได้ส่งคนตามพวกนั้นไปแล้ว เพียงแต่ว่าข้าขัดหูขัดตาพี่สามนิดหน่อย ข้าก็เลยกลับมาให้คนอื่นไปพูดโกหกให้คนพวกนั้นสับสนเล่นๆ จะได้มีโอกาสสร้างคุณงามความดีไปคนเดียว ข้าก็เลยมีเวลาแอบมาเยี่ยมเจ้าไง”
“เจ้าช่างคิดอะไรรอบคอบ ข้ายังต้องปรึกษาเรื่องมาเป็นประจำที่ร้าน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ หากว่าเบื่อก็ไปจัดความเรียบร้อยที่จวนเป็นเพื่อนพี่สะใภ้สี่ของเจ้า”
“พี่สะใภ้สี่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย เจ้าน่ารักกว่านางตั้งเยอะ ให้ข้าพาเจ้าไปดูพระอาทิตย์ตกยังจะดีกว่า วิวทิวทัศน์บนยอดเขาสวยงามมากๆ เลยนะ” ซ่านจวนฮ่าวเดินเข้ามาใกล้ๆ แทบจะเอากู้อ้าวเวยเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
กู้อ้าวเวยกลับถูกท่าทางที่กระตือรือร้นของเขาทำเอาตกใจไม่น้อย สุดท้ายก็เดินเข้าไปใกล้ซ่านจวนฮ่าวก่อนที่จะจับแก้มทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ “จะมากำเริบเสิบสานกับข้าไม่ได้นะ”
“เวยเอ๋อร์...”
“ให้เจ้าเรียกข้าว่าเวยเอ๋อร์ ก็ถือว่ายอมให้เจ้ามากพอแล้ว หากว่าเขากลับมา เจ้าจะทำให้พวกเราสองคนลำบากนะ อีกอย่าง มีใครบอกข้าว่าเจ้าเป็นคนจิตใจล้ำลึกใช่หรือไม่?” จู่ๆ ปลายนิวของกู้อ้าวเวยก็ไปอยู่หลังหูของเขา หยิกลงไปสองทีไม่แรงไม่เบา “รีบไปจัดการธุระของเจ้า อย่าทำพลาดเพราะข้า”
“ก็ได้” ปลายหูของซ่านจวนฮ่าวแดงขึ้นมา ทำได้เพียงรีบเดินออกไป ไปตามหาพ่อค้ามนุษย์ต่อไป
คนงานที่เกาหัวอยู่ข้างๆ มองเหตุการณ์ทั้งหมดยังคงรู้สึกสับสนอยู่ เห้อจิ้นหล่างกลับขมวดคิ้ว “ท่านผู้นั้นคือ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...