บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 225

บทที่ 225 ไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง

นางตื่นขึ้นมาบนเตียงของซ่านเซิ่งหาน

ไม่เคยนอนหลับเต็มอิ่มแบบนี้มาก่อน การหลับลึกเป็นสถานที่ที่ความฝันร้ายไม่สามารถฉวยโอกาสเข้าไปได้

“เจ้าหลับมาหนึ่งวันเต็มๆ” น้ำเสียงของซ่านเซิ่งหานมาพร้อมกับแสงเทียนอันนุ่มนวล

กู้อ้าวเวยยันกายลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ข้างๆ หมอนมีงอบและเสื้อคลุมตัวนอกของนางวางเอาไว้

หลังจากผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จแล้ว กู้อ้าวเวยยังคงหัวเสียกับเรื่องที่ตนถูกโปะยาสลบจนหมดสติไป แต่นางยังหยุดกายลุกขึ้นเดินมาหยุดข้างลำตัวของซ่านเซิ่งหาน นั่งลงหน้าโต๊ะของเขา และหาวอย่างเกียจคร้านหนึ่งที “ท่านถ่วงเวลาข้าไปหนึ่งวันเต็มๆ ข้ายังมีเรื่องอีกมาก...”

“ของพวกนั้นทำช้าๆ ก็ได้” ซ่านเซิ่งหานมองอย่างนางจริงจัง

กระทั่งเขายังไม่ค่อยเข้าใจ ทั้งๆ ที่ลูกน้องของตนเคยทำร้ายนาง และเขายังเคยได้ยินกู้อ้าวเวยบอกว่านางไม่ได้เชื่อตนเลย

แต่ตอนนี้ กู้อ้าวเวยฟุบอยู่หน้าโต๊ะของเขาโดยไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง

“ที่พระองค์พูดมาก็ถูก” กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง ยกมือขึ้นหยิบม้วนหนังสือหนึ่งเล่มที่ไม่เคยอ่านมาก่อน “เช่นนั้นข้าก็จะทำต่อไปแล้ว”

ซ่านเซิ่งหานพยักหน้า และจัดการเอกสารราชการของตนต่อ เขายังบอกทุกเรื่องที่ตนทำให้กู้อ้าวเวยฟังอย่างไม่ปกปิดด้วยเช่นกัน

ซ่านเซิ่งหานเกือบจะปิดประตูไม่ออกไปไหน ส่วนในวัง ก็มีเรื่องซุบซิบนินทารั่วไหลออกไปด้วยเช่นกัน

มีสาวใช้จำนวนไม่น้อยมองเห็นสตรีงามหยดย้อยคนหนึ่งพำนักอยู่ในห้องของซ่านเซิ่งหานเป็นเวลานาน และไม่มีผู้ใดรู้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นฉางอีฉินหรือเยว่ล้วนถูกปฏิเสธอยู่นอกประตู เฝ้าอยู่ในห้องว่างเพียงลำพัง

วันแห่งฤดูใบไม้ผลิกำลังมาเยือน ทั้งนครเทียนเหยียนถูกปกคลุมด้วยม่านฝนปรอยๆ

ชิงต้ายอยู่ร้านยาเหย้าเพียงลำพังโดยไม่มีใครสนใจ ระหว่างนั้นก็มีเพียงแต่ฉีหลินและหยินเชี่ยวเข้ามาขอบคุณ หรือไม่ก็เมิ่งซู่พายัยไง่หงเข้ามาหาบ้าง คนที่พอไว้ใจได้ไม่กี่คนล้วนถูกชิงต้ายไล่ตะเพิดออกมาอย่างง่ายดาย

วันนั้นที่กู้อ้าวเวยกลับมา เป็นคืนฝนพรำพอดี

ซ่านเซิ่งหานส่งกู้อ้าวเวยกลับมาถึงร้านยาเหย้าด้วยตนเอง ทั้งสองยืนอยู่ใต้ชายคาด้วยกัน กู้อ้าวเวยมองชายกระโปรงที่เปียกชุ่มของตน ทำเพียงยกกระโปรงขึ้น เบนหน้ามองไปทางซ่านเซิ่งหาน “วันหน้ายังต้องขอความกรุณาองค์ชายสามช่วยเหลืออีกมากมายเลย”

“ข้าได้มอบของทั้งหมดให้เจ้าดูไปแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบเจ้ากลับไม่ยอมบอกเสียทีว่าคิดจะทำอะไรกันแน่”

ซ่านเซิ่งหานเก็บร่มลง และปลดงอบลงมองไปที่นาง

“ตอนนี้บอกท่านได้แล้ว” กู้อ้าวเวยหมุนกายไป ยกมือขึ้นทาบบนไหล่ของซ่านเซิ่งหาน เขย่งปลายเท้าขึ้นมาประชิดข้างใบหูของเขา “ข้าจะให้เมิ่งซู่ใช้นามของตัวเขาเองดึงข้าราชสำนักมาติดกับ ต้าหลี่ซื่อที่ถูกรัชทายาททำวินาศจะประสบภัยพิบัติเป็นที่แรกเลยทีเดียว”

“เจ้าไม่กลัวคนอื่นจะสงสัยเจ้าผ่านเมิ่งซู่หรอกหรือ” ซ่านเซิ่งหานขมวดหัวคิ้วขึ้นมา

“ต่อให้หาพบ นั่นก็หาบิดาของข้าพบ เขาจะต้องดึงเมิ่งซู่ไปทำประโยชน์ให้กับตัวเขาเองแน่นอน” กู้อ้าวเวยกล่าวจบ และชี้มาที่ตัวเอง ยิ้มพลางกล่าวเสียงแผ่ว “การติดต่อกับจวนเฉิงเสี้ยง ย่อมต้องหมายความว่ามือทมิฬที่อยู่เบื้องหลังก็คือซ่านจินจื๋อนั่นเอง”

“เจ้าไม่กลัวคนอื่นคิดว่าเมิ่งซู่เป็นแบบนี้จริงๆ หรือ ไม่แน่ว่าฮ่องเต้จะสั่นคลอนบัลลังก์เพราะคุณงามความดีของเสด็จอามากเกินไป จนลามไปถึงวันหน้าจะปราบเมิ่งซู่ลงมาด้วยก็ได้” ในใจซ่านเซิ่งหานรู้สึกตกใจเล็กน้อย

เหตุใดผู้หญิงคนนี้กล้าเอาเบี้ยทั้งหมดวางไว้ในมือของเมิ่งซู่ได้

“พอถึงเวลานั้น การต่อสู้ระหว่างราชวงศ์ ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว ฮ่องเต้จะนับว่าเป็นอะไรได้ คงจะไม่สามารถขุดรากถอนโคนอ๋องจิ้ง และทำลายจวนเฉิงเสี้ยงให้มอดดับลงได้จริงๆ หรอก ส่วนเมิ่งซู่ วันหน้าจะทำประโยชน์ให้แก่ท่านได้” ปลายนิ้วของกู้อ้าวเวยค่อยๆ เลื่อนลงมาจากหัวไหล่ของเขา บนใบหน้าแฝงรอยยิ้ม “ท่านแม่เล็กอยากให้กู้จี้เหยาทำร้ายข้าจนถึงแก่ความตาย ซูพ่านเอ๋อก็อยากให้ข้าตาย เช่นนั้นพวกเขาก็อย่าได้วิ่งหนีแม้แต่คนเดียว”

ซ่านเซิ่งหานขมวดคิ้วขึ้นมาเพราะสิ่งนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์