บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 248

บทที่ 248 พบเจออาโม่อีกครั้ง

เห็นมีคนตัวเล็กวิ่งมากอดเธอ

กู้อ้าวเวยจับเอาคนที่วิ่งมากอดเธอ คนตัวเล็กๆน่ารักๆคนนั้นหันมามองเธอ เห็นใบหน้าอ้วนๆและน่ารักที่เธอคุ้นเคยมาก

“ท่านพี่สาวคะ” อาโม่ยิ้มแฉ่งด้วยด้วยความดีใจและตกใจด้วย กอดแขนเธอและส่ายไปส่ายมา

ซู๋โหย่วเว่ยรีบเดินออกมา พอเห็นกู้อ้าวเวย รีบคุกเข่าถวายบังคม

กู้อ้าวเวยรีบไปห้ามเขาถวายบังคม ถอดผ้าคลุมหน้าออกและยื่นให้ชิงต้ายเก็บไว้ เธอเองอุ้มเอาอาโม่ขึ้นมา และพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่า ทำไมพวกคุณมาเทียนเหยียนกันหมดคะ ฮูหยินละ”

“เฟิงเมี่ยวกับพี่สะใภ้เมิ่งยังอยู่ที่ซ่านหลิน มีแต่ผมกับพี่ชายเมิ่งมาที่นี่” ซู๋โหย่วเว่ยตอบกู้อ้าวเวยด้วยความกลัวและอายนิดๆ พูดต่อว่า “อาโม่ซน เสียงดัง ผมกลัวเขาจะไปกวนเฟิงเมี่ยวพักผ่อน ก็เลยพามาด้วยครับ”

“คุณพ่อห่วงแต่คุณแม่ ไม่สนใจอาโม่เลย” อาโม่กอดเธอและเอาหน้าไปหลบไว้ที่คอของกู้อ้าวเวย “หนูจะอยู่กับท่านพี่สาวค่ะ”

“จ้า” กู้อ้าวเวยอุ้มเธอไว้ ไม่รู้สึกว่าหนักเลย

ชิงต้ายแนะนำตัวอย่างคร่าวๆ และตามซู๋โหว่ยเว่ยเดินเข้าไป

เจอเมิ่งซู่แล้วจึงรู้ว่า พี่ชายของเมิ่งซู่เห็นเมิ่งซู่มีโอกาสพัฒนาอย่างดีในอนาคต ก็เลยให้บิดากับตระกูลซู๋ย้ายมาอยู่ที่เทียนเหยียน พอดีเขาชอบออกไปข้างนอก ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ถ้ามีที่ดินอยู่ที่เทียนเหยียน ยังสามารถพบเจอกันได้บ่อยๆ

พ่อของเมิ่งซู่กับซู๋โหย่วเว่ยจึงเห็นด้วยว่ามาอยู่ที่นี่ เพราะสุขภาพร่างกายของเฟิงเมี่ยวยังไม่ฟื้นฟูดี เลยให้เธอพักผ่อนอยู่ที่ตำบลซ่านหลินก่อน รอถึงเขาสองคนจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จเรียบร้อยค่อยย้ายมา

“แบบนี้ก็ดีนะ” กู้อ้าวเวยอุ้มอาโม่ได้แค่สักพัก แต่เหงื่อออกเต็มตัว เลยให้เธอนั่งลงอยู่ข้างๆตัวเอง และพูดต่อว่า “ท่านชายเมิ่งคะ คุณบิดาของฉันกำลังรับสมัครอยู่ ถ้าคุณยอมไปทำงานกับคุณบิดาฉัน ย่อมมีตำแหน่งว่างให้คุณอยู่ค่ะ”

“คุณได้ข่าวแล้วเหรอ”

“ไม่ใช่แค่นี้ ฮ่องเต้ก็ให้ความสำคัญกับคุณเป็นพิเศษด้วย” กู้อ้าวเวยยิ้มและพูดต่อ “แต่ถ้าจะมาช่วยคุณบิดาของฉัน คุณต้องวางแผนไว้ในอนาคตให้ดีนะ”

 “ทำไมครับ” พ่อของเมิ่งซู่ไม่เข้าใจ เฉิงเสี้ยงกู้เฉิงเป็นขุนนางที่ระดับสูงสุด มีผลงานที่โดดเด่น ได้ยินว่า ลูกชายเลี้ยงคนใหม่ได้เลื่อนตำแหน่งที่ดีอย่างราบรื่น กำลังได้รับการพัฒนาอย่างสูง

แต่ทำไมพระชายาจิ้งที่เป็นลูกสาวของเขา ไม่เชื่อเขาละ

“ขนาดฉันเป็นลูกสาวเขาเอง เขายังไม่เชื่อใจฉันเลย และถ้าเป็นคนเก่งแบบคุณที่ยอมไปทำงานกับเขาอย่างง่ายๆ ยิ่งจะทำให้เขาเกิดความสงสัยมากกว่านี้อีก” กู้อ้าวเวยคิ้วขมวดและพูดต่อ “ฉันให้องค์ชายสามมาช่วยคุณแล้ว เขาจะแกล้งมาชักชวนคุณไปทำงานให้เขาเสมอ คุณแค่ต้องการปฏิเสธไปก็พอ รอถึงขณะที่ฮ่องเต้จะให้ตำแหน่งแก่คุณ คุณค่อยยอมรับการชักชวนของคุณบิดาของฉัน”

พ่อของเมิ่งซู่กับซู๋โหย่วเว่ยตาโตขึ้นด้วยความตกใจ

“คุณเป็นพระชายาจิ้ง ทำไมไปหาองค์ชายสามมาช่วยครับ” ซู๋โหย่วเว่ยถามอย่างกล้าหาญ

กู้อ้าวเวยแค่ยิ้มเบาๆ เมิ่งซู่ให้สัญญาณกับเขาโดยสายตา ว่าเรื่องนี้ค่อยคุยกันอีกทีในวันหลัง และถามเธอว่า “คุณไม่กลัวว่า บิดาผมกับคุณลุงเมิ่งจะบอกเรื่องนี้ให้กับคนอื่นเหรอครับ”

“ถ้าเผยแพร่ออกไป คนที่จะถูกประหารชีวิตทั้งครอบครัว ก็คือ คุณ”

แววตากู้อ้าวเวยเต็มไปด้วยความเย็นชา

พ่อของเมิ่งซู่คิ้วขมวด เมิ่งซู่ที่อยู่ข้างๆมองหน้าเธอและถามว่า “คุณชอบเสี่ยงแบบนี้มาตลอดเหรอครับ”

“การยอมเสี่ยง จึงจะมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาและมีค่า” กู้อ้าวเวยยิ้ม จูงมืออาโม่และพูดว่า “แต่ เรื่องงานคุยแค่นี้ก่อน ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ ให้ฉันพาอาโม่ไปเที่ยวในเมืองดีกว่า ได้ไหม”

พ่อของเมิ่งซู่คิ้วขมวด ดูเหมือนไม่อยากให้ไป

แต่เมิ่งซู่หัวเราะเบาๆ ยัยโง่หงที่ยืนอยู่ข้างๆรีบเดินเข้ามาและผลักอาโม่ไปหาเธอ พูดว่า “ได้แน่นอนค่ะ อาโม่อยากไปมาก ปกติท่านทั้งสองยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลาพาเธอไปเที่ยวหรอก”

“ได้จริงไหม” กู้อ้าวเวยมองไปหาซู๋โหย่วเว่ย

ซู๋โหย่วเว่ยพยักหน้า วางใจกับเธอ

อาโม่ร้องขึ้นอย่างดีใจ วิ่งไปกอดกู้อ้าวเวย ถามว่า “อาโม่นอนกับท่านพี่สาวได้ไหมคะ”

“ได้สิ” กู้อ้าวเวยจับแก้มเธอเบาๆ เห็นซู๋โหย่วเว่ยสั่งนี่สั่งโน่นเสร็จแล้ว จึงพาอาโม่จากไป

พวกเธอพึ่งจากไป พ่อของเมิ่งซู่มองหน้าเมิ่งซู่ด้วยความโกรธ และพูดว่า “คุณไม่กลัวว่าเดี๋ยวเธอจะเอาอาโม่เป็นตัวประกันและมาขู่เราเหรอ”

“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ” ยัยโง่หงรีบเดินมากจากอีกข้างและตอบเขา เล่าเรื่องที่กู้อ้าวเวยสูญเสียลูกไปเป็นเพราะอะไร ดวงตาแดงขึ้นเหมือนจะมีน้ำตาไหลลงมา พ่อของเมิ่งซู่เหมือนจะพูดอะไร สุดท้ายแค่ตอบว่า “คาดไม่ถึงเลย อ๋องจิ้งเป็นคนแบบนั้น”

 “มีอีกเยอะนะ”ยัยโง่หงเล่าต่ออีกว่า “ช่วงนี้ หนูได้ตามคุณนายไปสำรวจข้างนอก และได้ยินข่าวที่เกี่ยวกับอ๋องจิ้งไม่น้อยด้วยค่ะ”

“อ๋องจิ้งทำอะไรอีกครับ” ซู๋โหย่วเว่ยก็สงสัยเหมือนกัน

เห็นเมิ่งซู่ที่อยู่ข้างๆ กระทบแก้วบนโต๊ะ ทำหน้ามืดมนลงและพูดว่า “อ๋องจิ้งใส่ใจแต่ซูพ่านเอ๋อ เรื่องนี้เขารู้กันทุกคน พระชายาพึ่งสูญเสียลูกไปวันนั้น เขายังพาซูพ่านเอ๋อไปเที่ยวเลย”

ยัยโง่หงเงียบ พ่อของเมิ่งซู่มองดูเมิ่งซู่ไม่รู้จะทำยังไง

คนเราทั้งชีวิตนี้ มีแต่ความรัก ที่ให้เราทั้งสุขและทุกข์

ซู๋โหย่วเว่ยหน้ามืดมนลงเหมือนกัน และตบโต๊ะลุกขึ้น พูดว่า “ตลอดทางที่ผมอยู่กับพี่ชายเมิ่ง ได้ยินแต่คนอื่นพูดว่า พระชายาทำบุญตักบาตร ช่วยคนรักษาไข้ และยังเขียนใบสั่งแพทย์ด้วย ภรรยาดีๆแบบนี้ อ๋องจิ้งทำอย่างนี้ได้ไง ใจร้ายจริงๆ”

พ่อของเมิ่งซู่เห็นสองคนนี้เต็มไปด้วยความแค้นเคืองกับความไม่เป็น ตัวเองรู้สึกอาย และถามยัยโง่หงเบาๆว่า “ปกติ ผมดูแลฮูหยินดีไหมครับ”

สักพักยัยโง่หงจึงนึกออก หัวเราะและตอบว่า “เทียบกับคุณนายและคุณม่านซู๋ไม่ได้หรอกค่ะ”

พ่อของเมิ่งซู่สีหน้าเปลี่ยนอย่างกระทันหัน จับหูเกาหน้าและพูดต่อ “ถ้างั้น พอดีอาโม่ไม่อยู่ เรารีบจัดการเรื่องที่พักให้เสร็จเรียบร้อยดีกว่า”

“ถูกต้องครับ” ซู๋โหย่วเว่ยพยักหน้า เมิ่งซู่ก็พยักหน้าตามเหมือนกัน วันนี้กู้อ้าวเวยได้พูดให้เขาตัดสินใจได้ งั้นเขาก็สามารถวางใจและจัดการเรื่องที่พักอย่างเต็มที่ละ

ในขณะเดียวกัน ร้านอาหารป่ายเว่ยที่เทียนเหยียน กู้อ้าวเวยจับเสื้ออาโม่ไว้ กลัวเด็กน้อยคนนี้ที่โน้มตัวอยู่ที่หน้าต่างตงลงไป และพร้อมสั่งอาหารกับคนรับใช้เสี่ยวเอ้อด้วย

คนรับใช้เสี่ยวเอ้อมองดูเด็กน้อยคนนี้ เช็ดเหงื่อที่หน้าผากและถามว่า “พระชายาครับ คุณหนูเล็กๆคนนี้คือใครคะ”

“ลูกสาวของเพื่อนฉัน คุณไปสั่งให้พ่อครัวทำอาหารที่เด็กๆทานแล้วย่อยง่ายมาให้” กู้อ้าวเวยอุ้มอาโม่กลับมา ถามว่า “อาโม่ หนูอยากทานอะไรคะ”

“หนูอยากกินไข่ตุ๋นค่ะ ใส่หัวหอมด้วยนะ” อาโม่ตอบ ดูน่ารักเหลือเกิน

คนรับใช้เสี่ยวเอ้อหัวเราะ ตอบว่า “ได้ครับ ผมไปสั่งให้พ่อครัวทำให้ คุณหนูน้อยที่พระชายาพามาคนนี้ น่ารักเชียว”

ชิงต้ายหยิบขนมพุทราป้อนใส่ปากของอาโม่ พูดว่า “คุณหนูคะ อาโม่น่ารักจริงๆ”

“อาโม่น่ารักที่สุดแล้วค่ะ” อาโม่หัวเราะและจับแก้มตัวเอง นอนไปที่ตักกู้อ้าวเวย พูดว่า “ท่านพี่สาวคะ คราวนี้สอนหนูทำยานะคะ ครั้งที่แล้ว ทำให้ไออ้วนที่เพื่อนบ้านวิ่งหนีเกือบไม่พ้นเลย”

“ดื้อจริงๆ” กู้อ้าวเวยว่าเธอ แต่แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเอ็นดู

ชิงต้ายเห็นแล้ว อารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม อาโม่มาพอดีเลย ทำให้พระชายาได้สบายใจขึ้นมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์