บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 263

บทที่ 263 หนอม

กู้อ้าวเวยนวดหน้าผาก ขี้เกียจพูดกับซ่านจินจื๋อต่อ

ได้แต่นั่งรออย่างเงียบๆ

ผู้ช่วยของจี้ซื่อถางได้รีบไปหยิบเสื้อที่สะอาดมาจากร้านยาเหย้า

แล้วมีหมออีกท่านหนึ่งเข้าไปเฝ้าดูอยู่ข้างใน กู้อ้าวเวยถึงจะไปเปลี่ยนเสื้ออย่างไม่เต็มใจ

ยังไม่รอกุ่ยเม่ยมาถึง นางก็ได้นอนหลับอยู่บนโต๊ะ

ดวงตาของผู้ช่วยตกอยู่บนตัวของกู้อ้าวเวยเห็นหน้าของซ่านจินจื๋อขรึม เก้อเขิน: “ท่านอ๋อง

นี่มันก็เป็นถึงชีวิต กำลังคนของพวกข้าไม่เพียงพอ เลยได้……”

ซ่านจินจื๋อถมึงตาใส่เขา นำคำพูดที่เหลือที่เขาอยากพูดติดอยู่ในลำคอ

เดินมาอุ้มนางขึ้น ระวังและจนปัญญาเป็นอย่างมาก

คนในอ้อมแขนรู้สึกว่าตัวยิ่งอยู่ยิ่งเบา. เหมือนตกตะลึงที่ถูกการกระทำนี้

กู้อ้าวเวยเปิดตาเห็นเขา เลยขยับหัว หาท่าทางที่สบายพิงไว้

นำคนอุ้มกลับลานของตำหนักอ๋องค่อยๆปล่อยลง

คนที่ควรนอนหลับกลับลืมตาขึ้น ใช้ปลายนิ้วชักมุมเสื้อของเขาอย่างยิ้มแย้ม:

“คือซูพ่านเอ๋อบอกกับท่านว่า วันนี้ข้าไปตำหนักขององค์ชายหกสินะ”

“ใช่” ซ่านจินจื๋อนั่งอยู่บนขอบเตียง จะเห็นได้ว่าไม่มีแมวไม้เชือกสีแดงอยู่ที่เอวของนาง:

“เพราะเหตุใด?”

“มีเริ่มต้น ก็มักต้องมีจุดจบอยู่เสมอ” กู้อ้าวเวยหัวเราะขื่นๆ ดึงซ่านจินจื๋อมาด้านข้าง

ยกตัวขึ้นแล้วพูดข้างหูของเขาเบาๆว่า: “หากท่านยังรังแกข้า จิตใจของข้าก็จะรวนเรเปลี่ยนง่าย

มีองค์ชายอยู่มากมาย ไม่ขาดท่านเพียงผู้เดียว”

สายตาของซ่านจินจื๋อมืดมนลงมา อันที่จริงอยากร่วมเรียงเคียงหมอน

และเมฆฝนกับนางสักหน่อย

แต่สีหน้าของนางขาวซีด มีแค่ดวงตานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เลยต้องควบคุมไฟอันร้าวแรงใต้ท้องถอดเสื้อคลุมแล้วเจาะเข้าไปข้างนาง กอดนางไว้: .

“ข้าอยากมีลูกสักคน”

“ลูกของกู้จี้เหยาฤดูที่มีใบไม้ร่วงก็จะคลอดออกมาแล้ว” กู้อ้าวเวยจงใจพูดแบบนี้

แต่ก็ยังเอนตัวไปด้านข้าง หลังติดแน่นกับหน้าอกของอีกฝ่าย

“ไม่เหมือนกัน”เสียงของซ่านจินจื๋อค่อยๆไหลเข้าไปในหูของกู้อ้าวเวย

“มีอะไรไม่เหมือนข้ากับนางล้วนคือลูกของตระกูลกู้. คือพระชายาเอกของท่าน”

เสียงของกู้อ้าวเวยยิ่งเบาลงนิดฝังตัวเข้าไปในผ้าห่ม เปลือกตายิ่งจมลง

“นอนเถอะ”ซ่านจินจื๋อนำผ้าห่มบนหน้าของนางดึงลงมาถึงคางถึงจะนำมือกลับไป

กู้อ้าวเวยก็ทนไม่ไหวแล้วหลับตาลงแล้วหลับไปในความฝัน ได้มีเสียงร้องของเด็กกลับมาอีกครั้ง

ก้อนเลือดที่เลือนรางนั้นได้ถูกซูพ่านเอ๋อเอาออกไป ข้างหูกลายเป็นคำตำหนิของกู้เฉิง

คำนินทาและคำพูดของกลางวันนั้นถูกจารึกไว้ในเลือดกระดูกเหมือนคำสาป

นางเห็น ซ่านจวนฮ่าวและซ่านเชียนหยวนล้มลงในสละเลือดดวงตาไม่มีแวว

มีเพียงซ่านจินจื๋ออุ้มซูพ่านเอ๋อยืนอยู่ตรงหน้าของนางหัวเราะนางไร้เดียงสาไม่รู้อะไร

หัวเราะนางใจดีจนถูกรังแก ยิ่งหัวเราะนางว่าไร้ความสามารถฆ่าคนตาย

ทันทีทันใดนั้น มีแสงสีเงินเจาะทรวงอกของนาง เนื้อเลือดทุบบนใบหน้าและบนตาของนางตื่นขึ้นทันที. แสงสว่างตรงหน้าทำให้นางแสบตา

นางลุกขึ้นนั่งหายใจเข้าลึก

หลังเปื่อยและเต็มไปด้วยเหงื่อ เส้นผมยุ่งเหยิงติดอยู่ด้านข้างของใบหน้า

และชายที่อยู่ข้างกายก็ได้ตื่นขึ้นมา มองนางอย่างคลุมเครือ จากนั้นมืออันใหญ่นั้นก็กดนางลง

“เป็นไรหรือ?”

หน้าของซ่านจินจื๋อซ้อนทับกับใบหน้าในฝัน ถอยหลังไปอย่างจิตใต้สำนึก

การเคลื่อนไหวเล็กน้อยของนาง กลับทำให้ซ่านจินจื๋อตกตะลึงจนตื่นขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์