บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 272

บทที่ 272 ตัดความรักและความผูกพัน

วันต่อมาตอนเช้า กู้อ้าวเวยกำลังช่วยซู๋โหย่วเว่ยจัดการเรื่องที่จะเปิดร้านศาลาการแพทย์อยู่

โชคดีที่จี้ซื่อถางมักจะตรวจรักษาคนไข้้มากกว่า ซู๋โหย่วเว่ยไม่คุ้นเคยกับที่นี่และไม่รู้จักใครสักคน จึงรบกวนแต่กู้อ้าวเวยช่วยติดต่อกับเกษตรกรผู้ปลูกยามาขายยาให้ เวลาจี้ซื่อถางมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจึงไปช่วยบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าขาดเงินใช้

ในขณะนี้ เจิ้นฉิงคุนจับลากเธอออกจากประตูด้านหลังของร้านศาลาการแพทช์ของโหย่วเว่ย

กู้อ้าวเวยคิดสักพัก เอาใบรักษาให้เขา และถามว่า “เขายังพูดอะไรอีก”

“เขาบอกว่า การสอบฤดูใบไม่ร่วงใกล้จะมาถึงแล้ว บอกคุณเอารายชื่อให้เขาก่อนครับ” เจิ้นฉิงคุนรับเอาใบรักษา จับหูเกาคางทำตัวกำลังอ่านอยู่อย่างตั้งใจ

“รอฉันสักครู่” กู้อ้าวเวยพูดจบ และเดินเข้าไปในร้าน เขียนทั้งรายชื่อและชื่อของชนิดยา เสร็จแล้วเอาไปให้เจิ้นฉิงคุน พูดว่า “บอกให้เขาไปดูเองเถอะ ที่รายละเอียดมากกว่านี้ ฉันยังไม่สะดวกให้คุณ”

เจิ้นฉิงคุนพยักหน้า รับเอารายชื่อและจากไป

กู้อ้าวเวยคิดสักพัก และเงยหน้าขึ้น เห็นมีคนแอบมองเธออยู่ที่หลังต้นไม้

เธอไม่รู้ว่าทำไมกู้เฉิงต้องให้คนมาติดตามตัวเอง และเดินกลับเข้าไปที่ร้านอย่างช้าๆ ปกติตัวเองก็ได้เขียนใบรักษาให้คนไข้้อยู่แล้ว คนที่มาติดตาม น่าจะดูไม่ออกอะไรผิดปกติมั้ง

ตอนเที่ยง ฝนตกปรอยๆ

ซู๋โหย่วเว่ยนั่งอยู่ข้างๆ เสื้อของเขาเกือบเปียกหมด ยัยโง่หงพาอาโม่ไปอาบน้ำอบ มีแต่กู้อ้าวเวย เพราะไม่ได้ออกไปข้างนอก เสื่อไม่เปียกเลยและนั่งอ่านหนังสือทางแพทย์ที่ซู๋โหย่วเว่ยเอามาให้

สองสามวันนี้ เธอว่างมากอย่างผิดปกตินะ

“ทานข้าวครับ” เมิ่งซู่เก็บร่มไว้ และถืออาหารเข้ามา

ทุกคนนั่งทานข้าวด้วยกัน กู้อ้าวเวยจะทานอิ่มก่อนคนอื่นเสมอ แต่เธอไม่ได้ออกไป นั่งอยู่ที่เดิมและป้อนข้าวอาโม่ ถามเมิ่งซู่ว่า “ฮ่องเต้ไม่ให้ตำแหน่งแก่คุณ แต่อนุญาตให้คุณตามคุณบิดามาถึงที่ประตูวัง ทำไมคะ”

 “ฮ่องเต้คิดยังไง เดายากมาก” เมิ่งซู่ถอนหายใจเบาๆ ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกจุนนางในรุ่นเดียวกัน ล้วนได้รับตำแหน่งราชการหมดแล้ว เหลื่อแต่เขาที่เป็นจองหยวนยังไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเลย “แต่ว่า วันนี้องค์ชายสามได้เสนอว่า การทดสอบฤดูใบไม้ร่วงนั้นไม่ควรรับแต่ขุนนางฝ่ายทหาร การทดสอบฤดูใบไม้ผลิและการทดสอบฤดูใบไม้ร่วงในแต่ละปีก็ต้องปรับเหมือนกัน”

“แล้วไงต่อคะ” กู้อ้าวเวยคิ้วขมวดและถามว่า

“ฮ่องเต้ดีใจมาก เห็นด้วยกับความคิดเห็นขององค์ชายสามและยังให้รางวัลกับเขาด้วย แต่เฉิงเสี้ยงไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นะเมื่อเดินออกมา” เมิ่งเล่าให้เธอฟัง

อาโม่กำลังจะพูดอะไร กู้อ้าวเวยป้อนข้าวไม่ให้เธอพูด และยิ้มกับเธออย่างใกล้ชิด พูดว่า “แน่นอนค่ะ คุณบิดากับท่านอ๋องเป็นคนที่ควบคุมผู้ที่มีอำนาจหรือมีความสามารถมากกว่า การสอบขัดเลือกขุนนางการทดสอบฤดูใบไม้ผลิกับการทดสอบฤดูใบไม้ร่วงนั้น จริงๆแล้ว เป็นการสอบที่จัดมาเพื่อให้โอกาสกับประชาชนทั่วไป พวกเขาคิดว่าตัวเองคุมไม่ได้หรอก”

อาโม่งอแง หันหน้าไปอีกด้านไม่คุยกับเธอ

เมิ่งซู่ไม่ได้ตอบเธอ กู้อ้าวเวยยิ้มและอุ้มเอาอาโม่มานั่งบนตักตัวเอง ส่ายมือกับยังโง่หง ให้แกทานข้างก่อน ยังโง่หงขอบคุณเธอในใจและรีบทานข้าว

ซู๋โหย่วเว่ยสังเกตกู้อ้าวเวย ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน เธอไม่ได้ถือตัวเป็นพระชายาเลยแม้แต่นิดเดียว กลับเป็นคนที่มีน้ำใจ แต่เมื่อก่อนเจอพวกคุณหนูที่ชอบนินทาคนอื่น กู้อ้าวเวยเถียงกลับไปอย่างร้ายแรง เกือบจะใส่ยาพิษละ สนุกนะ

“ท่านพี่สาวคะ เด็กๆที่นี่โง่มากเลย หนูไม่ชอบ” อาโม่ดูอารมณ์ดีขึ้น จึงคุยกับเธอ

“โง่ยังไงละ” กู้อ้าวเวยช่วยเธอเช็ดปาก และใหเธอนั่งอยู่ข้างๆ

อาโม่ทำหน้าทำตา พูดว่า “เด็กที่นี่ชอบแต่อ่านหนังสือ ไม่งั้นก็คุยแต่คุณคูรที่บ้านของตัวเอง น่ารำคาญมาก หนูอยากเล่นดินปั้นค่ะ”

ซู่โหย่วเว่ยมองเธอไม่รู้จะทำยังไง และพูดว่า “เด็กหญิง เล่นดินปั้นได้ไง”

อาโม่ทำเสียงที่ไม่พอใจและเอียงไปที่อ้อมแขนของกู้อ้าวเวย พูดว่า “ก็อยากเล่นดินปั้นจริงๆไงคะ”

ซู๋โหย่วเว่ยไม่รู้จะทำยังไงกับเธอ แต่กู้อ้าวเวยคิดว่าการเล่นดินปั้นไม่มีผลเสียอะไรหรอก จับหัวเธอเบาๆ และตอบว่า “งั้นเราไม่เล่นกับพวกเขาละ คราวหน้าพี่พาหนูไปเล่นที่ตลาดน้อยนะ เด็กตรงโน้นซนมาก น่าสนุกดี”

เด็กในเมืองเทียนเหยียนจะไม่กล้าเข้าใกล้ตลาดน้อย แต่ว่า ตั้งแต่เจิ้นฉิงคุนมาช่วยพวกเขา และกู้อ้าวเวยมักจะให้ความช่วยเหลือและทำบุญ คนที่อยู่ในตลาดน้อยก็จะเคารพเธอ กับอาโม่ที่ได้ไปกับเธอที่ตลาดน้อยบ่อยๆด้วย ซู๋โหย่วเว่ยจึงวางใจให้ไป

“อย่าไปรบกวนคนอื่นนะ” ซู๋โหย่วเว่ยเตือนอาโม่

“ไม่หรอกค่ะ” อาโม่ทำหน้าทะเล่น และวิ่งออกไป ยัยโง่หงรีบตามเธอไป และเล่นด้วยกันที่ลานบ้านข้างนอกอย่างสนุกสนาน

ทานข้าวเสร็จเรียบร้อย มีคุณผู้ชายคนหนึ่งเข้ามารับยา กู้อ้าวเวยห่อยาให้เขา และเตรียมนั่งอ่านหนังสือต่อ

แต่พอเธอพึ่งได้นั่งลงไม่กี่นาที เห็นกุ่ยเม่ยวิ่งเข้ามา เสื้อเปียกหมด เขาคุกเข่าลงที่ข้างหน้า ทำให้เธอตกใจและลุกขึ้นทันที ไปจับเขาลุกขึ้น และถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ”

“พระชายาครับ ช่วยด้วยครับ” ดวงตาของกุ่ยเม่ยแดงมาก

“คุณมาที่นี่” กู้อ้าวเวยพาเขาไปที่ทางเดินข้างหลัง ซู๋โหย่วเว่ยอุ้มอาโม่หันไปดูพวกเขา เมิ่งซู่วางปากกาลงและรอฟังด้วยเหมือนกัน

เห็นกู้อ้าวเวยดูเขาอย่างจริงจัง กุ่ยเม่ยจึงเล่ามาทั้งหมด

สองชั่วโมงก่อน เขาได้ขาวว่า หมู่บ้านน้อยภูเขาที่คุณแม่ของเขาพักอาศัยเกิดดินถล่ม และช่วงนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านไม่มีอะไรกินเลย จึงได้ไปขุดภูเขาเพื่อทำเป็นถนน และยังดื่มน้ำที่ไม่สะอาดด้วย แถมที่เหลือแต่คุณแม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครช่วย จึงทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง สองวันนี้ยิ่งเป็นไข้อย่างหนัก

คุณยายในหมู่บ้านสงสารเธอ มีเงินเยอะแต่ไม่มีคนช่วยดูแล จึงเขียนจดหมายให้กุ่ยเม่ยกลับไป บอกว่าคุณหมอที่นั่นรักษาไม่ได้ คุณแม่ของเขาอยู่ไม่ถึงเดือนแล้ว

“งั้นรออะไรคะ คุณไปเตรียมรถม้ามา ฉันจะไปด้วย” กู้อ้าวเวยดุเขาด้วยความไม่พอใจ

สำหรับเธอ กุ่ยเม่ยเป็นทั้งอาจารย์และเพื่อน สอนกังฟูให้เธอ มีบารมีต่อเธอด้วย

“ท่านอ๋องไม่อนุญาตครับ” กุ่ยเม่ยกำมือไว้แน่นๆ พูดว่า “ต้นปีนี้ ผมพึ่งได้กลับไปแล้วหนึ่งครั้งครับ และอีกอย่าง ท่านอ๋องบอกว่า เอาเงินส่งไปที่บ้านด้วยแล้วครับ”

“ฉันไปคุยกับเขาเอง” กู้อ้าวเวยหันหน้าออกไป สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

กุ่ยเม่ยรีบจับเธอไม่ให้เธอไป พูดว่า “ท่านอย่าไปครับ ท่านอ๋องเคยสั่งสอนพวกเรา ห้ามพวกเรามีความผูกพันกับคนอื่นเด็ดขาด และยังให้เงินทองชดเชยด้วย...”

“เงินทองเท่าไหร่ก็เทียบกับชีวิตของแม่คุณหรอก” กู้อ้าวเวยหนีจากมือเขา และจับเสื้อของเขาเข้ามาใกล้ตัวเองอย่างรุนแรง

เห็นกู้อ้าวเวยทั้งโกรธและดุ กุ่ยเม่ยหน้ามืดลง รีบเอาจดหมายให้เธออ่าน และพูดว่า “คุณยายได้บอกอาการของแม่ทั้งหมด...”

กู้อ้าวเวยอ่านจบแล้วคืนจดหมายให้เขาอย่างร้ายแรง จับลากเขาเข้ามาใกล้ตัวเอง พูดด้วยความโมโหโกรธ “ถ้าแม่ของคุณจะเสียแล้ว ก็ต้องได้เห็นหน้าคุณก่อนเสียชีวิต”

กุ่ยเม่ยตาโตขึ้น เห็นมีน้ำตาในดวงตาขึ้นมาทันที “ท่านหมายความว่า แม่ของผม...”

“ยังไม่ได้ตรวจรักษา คุณเป็นผู้ชาย ห้ามร้องไห้ ยังสู้กับฉันที่เป็นนักเรียนของคุณไม่ได้เลย” กู้อ้าวเวยพูดกับเขาอย่างเสียงสูง กุ่ยเม่ยหยุดร้องไห้ทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์