บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 274

บทที่ 274 ไร้ประโยชน์

ฝนตกหนัก

กู้อ้าวเวยเดินอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่า เสื้อผ้าเกือบเปียกหมดแล้ว

ชิงต้ายกับคนรับใช้ผู้อื่นอยู่หากกับเธอไกลจนเดินไม่ทัน แอบถามเธออย่างเสียงเบา “คุณหนูตั้งใจพูดถึงถุงน้ำดีหงล์ใช่ไหม”

“ใช่สิคะ ถ้าฉันพูดถึงแต่เรื่องที่จะไปเมืองเยว่ซานอย่างเดียว ไทเฮาต้องสงสัยว่า ฉันมีเป้าหมายอะไรแน่นอน” กู้อ้าวเวยหน้าเข้มงวด และเช็ดน้ำบนไหล่ แต่เห็นชิงต้ายไม่ได้อยู่ในร่มเลย จึงรีบจับเอามีดมาถือเอง

“ไม่ถูกธรรมเนียมค่ะ” ชิงต้ายเตือนเธอเบาๆ

“คุณเป็นพี่สาวของฉัน ฉันไม่สนใจธรรมเนียมอะไรหรอก” กู้อ้าวเวยเดินเข้าใกล้ชิงต้าย และเดินช้าลง ให้สองคนได้อยู่ในร่มไว้ไม่โดนฝน พูดต่อว่า “และอีกอย่าง ฉันไม่เพียงแต่ต้องทำตัวเอาใจซ่านจินจื๋อเท่านั้น และยังต้องทำตัวสนใจไทเฮาอีกด้วย ท่านจึงจะได้วางใจ”

“ทำไมคะ ตั้งใจทำเอาใจแบบนี้ ยิ่งทำให้คนอื่นสงสัยอีก” แม้ว่าฝนตก แต่ชิงต้ายไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่

“คนในราชวงศ์ มีแต่คนที่เก่งกว่าและฉลาดกว่า ถ้าคุณอ้อมไปอ้อมมา กลับให้พวกเขาเกิดความสงสัยอีก” และปกติ เวลาอยู่กับไทเฮา เธอก็ตามใจตัวเอง อยากพูดอะไรก็พูดไป กตัญญูไทเฮาเหมือนกับแม่ของตัวเองจริงๆ

ชิงต้ายไม่รู้จะพูดอะไร รีบเดินออกไปนอกวังพร้อมเธอ และเดินเร็วขึ้นด้วย พูดต่อว่า “คุณหนูใจดีไปค่ะ”

“ฉันใจร้ายอยู่นะ พูดว่าจะกตัญญูไทเฮา แต่ก็ยังทำแบบนี้กับท่าน” กู้อ้าวเวยมองหน้าเธอ ไม่รู้จะทำยังไง

“งั้นท่านไปถึงเมืองเยว่ซาน ยังจะช่วยรักษาไทเฮาไหมคะ” ชิงต้ายพูดจบ เห็นกู้อ้าวเวยตาโตขึ้นนิดๆ และต่างฝนวิ่งไปข้างหน้า พร้อมตอบไปว่า “คุณกับกุ่ยเม่ยสองคนไปได้เร็ว ฉันไปช่วยท่านชายเมิ่งก่อนแล้วกัน รอพวกคุณกลับมานะ”

กู้อ้าวเวยอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่มองที่หลังของชิงต้ายและยิ้มอย่างเดียว รีบกลับไปตำหนักอ๋อง

ถึงตำหนักอ๋อง พวกเฉิงซานยังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู กู้อ้าวเวยโยนร่มให้เฉิงซาน ยิ้มอย่างอวดดี และพูดว่า “เดี๋ยวฝนหยุด ฉันจะเริ่มเดินทาง”

“พระชายาครับ ท่านอ๋องสั่งมา ห้ามออกไปเด็ดขาดครับ” เฉิงซานถือร่มไว้และตอบเธอ

“บอกให้ท่านอ๋องไปถามไทเฮาก่อนเถอะ” กู้อ้าวเวยพูดจบและเดินข้าวไปข้างในอย่างมั่นใจ

เห็นเฉิงซานสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่ทราบว่ากู้อ้าวเวยใช้วิธีอะไร สามารถชักชวนไทเฮาได้ด้วย

รีบไปรายงานเรื่องนี้กับซ่านจินจื๋อ ซ่านจินจื๋อโกรธและตบโต๊ะลุกขึ้น รีบเข้าไปในวังเพื่อวยืนยันเรื่องนี้ ไทเฮาเห็นสีหน้าของเขาไม่ค่อยดี จึงบอกว่าตัวเองอยากไปแช่น้ำแร่

ส่วนเรื่องที่จะไปหาถุงน้ำดีหงล์ ไทเฮาไม่ได้พูดถึงสักคำ

ซูพ่านเอ๋อคนนี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายสองคนนี้มีปัญหากัน เธอเป็นคุณแม่ของพวกเขา ไม่อยากจะฆ่าซ่านจินจื๋อจริงๆหรอก เพราะฉะนั้น มีแต่ปิดบังไว้ก่อน กลัวเดี๋ยวจะเกิดเรื่องที่เหมือนซ่านหลิงเอ๋อร์อีก

“ตอนนี้ฝนตกหนัก พายุรุนแรง ถ้าเสด็จแม่เกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง และจะเอาไงดีละ ลูกก็ยุ่งงานมาก ตามไปไม่ได้อยู่ดี” ซ่านจินจื๋อสีหน้ามืดมน

กู้อ้าวเวยชักชวนเสด็จแม่ได้สำเร็จ แค่เพราะสาเหตุนี้จริงๆเหรอ

“คุณไม่ต้องตามไปด้วยหรอก อายเจียได้ยินว่า องค์ชายสี่มีปัญหากับชายาของเขา อายเจียคิดว่าจะให้เขาสองคนไปด้วย เพื่อให้สองคนนี้ดีกัน” ไทเฮาอ้างว่า

“ที่จะให้องค์ชายสี่ไปด้วย เป็นการตัดสินใจของเวยเอ๋อเหรอครับ”

“ซวนเอ๋อร์ คุณไม่เชื่อใจเวยเอ๋อเลยนะ” แววตาของไทเฮาเต็มไปด้วยความสงสัย และในใจยิ่งเชื่อคำพูดของกู้อ้าวเวย แม้ว่าปกติเขาสองคนทำเหมือนรักกันมากเมื่ออยู่ในวัง แต่ในฐานะเป็นคุณแม่ เธอเองก็พลาดจริง ลืมไปว่ายังมีซูพ่านเอ๋อเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่ระหว่างสองคนนี้

ถูกพูดถึงเรื่องในใจของตัวเอง ซ่านจินจื๋อก็ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรมาก แค่เห็นสีหน้ามืดลง พยักหน้าและพูดว่า “แม้ว่าลูกชอบเวยเอ๋อ แต่เธอเป็นคนที่ช่างวางแผน ฉลาดหลักแหลม ลูกจำเป็นต้องทำการเตรียมตัวเผื่อไว้ด้วย และอีกอย่าง เธอจะไปเมืองเยว่ซานมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาคนไข้้ที่เป็นคุณแม่ของลูกน้องคนหนึ่งของผมเอง การที่เสด็จแม่รับปากกับเธอนี้ ไม่เหมาะสมจริงๆครับ”

“พูดถึงเรื่องนี้ ไทเฮาตบโต๊ะ และพูดว่า “เธอไปช่วยรักษาคุณแม่ลูกน้องของคุณ ผิดตรงไหนละ”

“มาตรฐานของลูก คือ ลูกน้องทุกคนต้องไม่มีความผูกพันและไม่มีความรักแม้แต่นิดเดียว”

“แต่อายเจียไม่ได้สั่งสอนให้คุณเป็นคนที่ไม่มีหัวใจแบบนี้ คุณมีนิสัยเย็นชา ใจจืดมาตั้งแต่เด็ก ซูพ่านเอ๋อเป็นคนที่ทำให้คุณกลับมีความรัก แต่ดูสภาพของคุณตอนนี้สิ มีแต่สงสัยคนอื่น คุณคิดว่า ทำไมเวยเอ๋อต้องไปรักษาแม่ลูกน้องของคุณให้ได้คะ หรือว่าเธอทำเพื่อตัวเองนั้นเหรอ” ไทเฮามองหน้าเขาด้วยความโมโห ไม่รู้จะว่ายังไงดีและส่ายหัวเบาๆ

พูดขนาดนี้แล้ว ซ่านจินจื๋อไม่รู้จะตอบยังไง

เอาใจกุ่ยเม่ย สำหรับกู้อ้าวเวย ไม่มีประโยชน์อะไรจริง

.....

ตอนนี้ ฝนตกปรอยๆ ตกน้อยกว่าตอนแรก

กู้อ้าวเวยเก็บของเสร็จแล้ว แต่ยังไปค้นหาอะไรอยู่ที่ตู้ เหมือนกำลังหาใบรักษา

กุ่ยเม่ยยืนเงียบอยู่ข้างๆตั้งแต่แรก จนถึงฝนหยุดตก กู้อ้าวเวยเอากระเป๋าทั้งใบใหญ่และใบเล็กให้เขา กุ่ยเม่ยถามว่า “ท่านพระชายาครับ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อผมครับ ผมแค่เป็นคนรับใช้คนหนึ่ง ให้แต่ใบรักษา...”

เห็นกู้อ้าวเวยสีหน้าเปลี่ยนทันที กุ่ยเม่ยไม่กล้าพูดต่อไปอีก

“เพราะ ให้ฉันอยู่เฉยๆและไม่ช่วยอะไร ทั้งๆที่ฉันรู้ว่าคุณมีปัญหา ฉันทำแบบนั้นไม่ได้” กู้อ้าวเวยมองหน้าเขาอย่างจริงจัง และยังจับมือของกุ่ยเม่ย พูดว่า “ที่สำคัญ คุณไม่ใช่คนรับใช้ แต่เป็นอาจารย์ของฉัน”

กุ่ยเม่ยซาบซึ้งใจและอยากร้องไห้

ข้างนอก อากาศแจ่มใสหลังฝนตก นกสองตัวบินไปบินมาอย่างสนุกสนาน

กู้อ้าวเวยยื่นของให้เขา ยิ้มและพูดว่า “ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี รีบไปเถอะ”

“ครับ” กุ่ยเม่ยพยักหน้า และขึ้นไปรถม้า ตอนแรกคิดว่ามีแต่เขาสองคน แต่ตอนนี้ยังมีคนขับรถม้าอีกสองคนด้วย

กู้อ้าวเวยจับลากเขาเข้าไปข้างใน พูดกับเขาว่า “ช่วงนี้ คุณพักผ่อนดีๆ ถ้าคุณแม่ของคุณเห็นคุณเป็นสภาพแบบนี้ ต้องเสียงใจแน่เลย”

ทั้งพูดและเอาแพนเค้กให้เขากินด้วย

กุ่ยเม่ยพยักหน้าอย่างตกตะลึง และกินแพนเค้กในมือ เห็นดวงตาของเขาแดงมาก

กู้อ้าวเวยเองก็ถือแพนเค้กแผ่นใหญ่ๆกิน แต่ในใจคิดเรื่องอื่นอยู่ ใจรอยไปไหนไม่รู้ ดูหนักใจมาก

ชาติที่แล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอเสียชีวิตอย่างคาดไม่ถึง ตอนนั้นเธอกำลังผ่าตัดให้คนไข้้อยู่ ไม่ได้เจอพ่อแม่ในครั้งสุดท้าย จำได้แต่ เมื่อเธอยืนอยู่ข้างเตียงที่พ่อแม่นอน ตัวร่างกายนั้น ทั้งเย็นและแข็งมาก

เธอช่วยชีวิตคนอื่นได้เสมอ แต่ช่วยชีวิตของคนข้างตัวเองไม่ได้เลย

เห็นดวงตากุ่ยเม่ยกลายเป็นสีแดง เธอก็แค่ยิ้มเฉยๆ ดูปกติเหลือเกิน

หวังว่าเขาจะได้เจอหน้าคุณแม่ของเขา ไม่ว่าจะรักษาหายหรือไม่ก็ตาม ขอให้ได้เจอแล้วกัน

รถม้าวิ่งไปอย่างรวดเร็ว หลิ่วเอ๋อที่นั่งอยู่บนทิงเฟิงโหลเห็นทั้งหมดนี้แล้ว ถามว่า “ทำไมพระชายาต้องทำถึงขนาดนี้คะ”

นางสาวที่แต่งตัวสวยๆ นั่งอยู่ข้างๆ มองเห็นหลิ่วเอ๋อมีสภาพอย่างเศร้าโศก หัวเราะเธอและพูดว่า “ว่าแต่ เธอเหมือนแม่ของเธอจริงๆนะ ทำอะไรตามใจตัวเอง เก่งกว่าพวกเรามากนัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์