บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 284

บทที่ 284 มิตรหรือศัตรู

ไอน้ำกรุ่นพวยพุ่ง เรือนร่างส่วนใหญ่แช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน ช่างทำให้คนสุขสบายจนแทบอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางออกมา

กู้อ้าวเวยหลับตา ขณะสูดดมภายในบ่อน้ำพุร้อนคล้ายมีคล้ายไม่มีกลิ่นของสมุนไพร ช่างเพลิดเพลินนัก

ในทางกลับกันสาวใช้ที่ขนาบข้างกำลังมองรอยแผลคมดาบสองแห่งบนไหล่ของกู้อ้าวเวยด้วยความกลัวตัวสั่นงก ไม่ต้องพูดถึงรอยฟกช้ำบนร่างของกู้อ้าวเวย รอยช้ำบนกระดูกสะบ้าหัวเข่าทำให้เหล่าสาวใช้ปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง

แต่กลับไม่มีคนที่กล้าจะถามนางอย่างจริงจัง

ขณะที่แช่อยุ่ในบ่อน้ำร้อน กลับยังมีลี่วานที่ไม่ทราบว่ามาเพราะเหตุใด

บนร่างลี่วานยังคลุมไว้ด้วยชุดสีขาวราวหิมะ มีบางอย่างที่ไม่เข้าพวกภายในบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ใบหน้าที่โดนไอน้ำร้อนจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแต่เมื่อพูดขึ้นมากลับไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย “ต้องขอบคุณที่ท่านยุแยงความสัมพันธ์ จนบัดนี้องค์ชายไม่เห็นแก่ข้าอีกแล้ว”

“เจ้าสมควรเป็นคนที่เขาเชื่อถือมากที่สุด เจ้ากลับปิดบังเขา เดิมทีเจ้าก็ทำไม่ถูก”กู้อ้าวเวยหยิบเหล้ากระดูกเสือมาจากด้านข้าง เมื่อจิบลงไปพลันรู้สึกสดชื่น

ลี่วานสีหน้าแปรเปลี่ยน “ข้าเองก็หวังดีกับเขา”

“เจ้าไม่รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใด แล้วจะหวังดีเพื่อเขาได้อย่างไรกัน” กู้อ้าวเวยโบกมือ ส่งสัญญาณให้เหล่าสาวใช้ไปเตรียมขนมและสุราให้กับลี่วาน

“เช่นนั้นท่านก็ทราบว่าองค์ชายต้องการสิ่งใด?”

“อย่างน้อยที่สุด ข้าก็ไม่เคยบังคับให้เขาต้องทำสิ่งใด”กู้อ้าวเวยโต้ตอบกับนางไปมาจนรู้สึกหน่าย ลี่วานอ้าปากค้าง กลับกลายเป็นว่าถ้อยคำโต้แย้งล้วนพูดไม่ออก

ผ่านไปชั่วครู่กู้อ้าวเวยถือโอกาสที่ตนยังไม่ตกเป็นรอง รีบลอบหนีขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนผลัดเปลี่ยนเป็นชุดสะอาด สวมรองเท้าแตะไม้สำหรับนอกสระน้ำพุร้อนแล้วเดินไปด้านนอก ถือโอกาสสั่งสุราชิงชุนจากสาวใช้ เดินหอบออกไป

กุ่ยเม่ยที่รออยู่ด้านนอกเบิกตากว้างหันมามองนาง “เสพติดสุราแล้วหรือ?”

“นิดหน่อยน่า สุราของเมืองเยว่ซานเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเชียวนะ” กู้อ้าวเวยพยักหน้าหงึกๆทำท่าครุ่นคิด “ถนนทิศเหนือมีโรงกลั่นสุรา ได้ยินว่ามีสุรากระดูกเสือกับสุราชิงชุนชั้นดี เจ้าไปซื้อมาสักหน่อย ถึงเวลาจะได้นำไปถวายแก่ไทเฮา

“สุรากระดูกเสือ? ค่อนข้างแรงเกินไปกระมัง”

“ที่ข้ามีสมุนไพร ไม่ต้องกลัวหรอก” กู้อ้าวเวยนำสุราชิงชุนในมือโยนส่งให้เขา

กุ่ยเม่ยดื่มไปหนึ่งอึก สวมผ้าคลุมสีดำจึงค่อยจากไป

กู้อ้าวเวยนำเหล่าทาสหญิงเดินเข้าไปในเรือน ส่วนลี่วานเดินตามมาจากด้านหลัง “ดูเหมือนท่านตั้งใจที่จะเป็นอริกับข้าจริงๆ”

ในช่วงเย็น กู้อ้าวเวยนำสุราหลายไหและห่อสมุนไพรมาส่งมอบด้วยตนเอง สนทนาเป็นเพื่อนไทเฮาตลอดสองชั่วยามจนมืดค่ำจึงได้กลับ ภายในลานอันเงียบสงบทาสหญิงนางหนึ่งที่ติดตามแจ้งนางว่า “เมื่อสักครู่พระชายาองค์ในชายสี่ได้ส่งสุราชิงเหมยมาสองไหเพคะ บอกว่าองค์ชายสี่เป็นผู้ส่งมา ยังได้รอสักพักจนพบว่าท่านไม่อยู่ถึงได้จากไปเพคะ”

สุราชิงเหมยยังคงอยู่ที่บนโต๊ะทางซ้าย

กู้อ้าวเวยส่ายหน้าด้วยความจนใจ แต่ยังให้คนนำไปเก็บ

หลังจากที่ล้างหน้าบ้วนปากอย่างรีบๆ นางก็หลับสนิทไปทันที

ค่ำคืนนี้กลับนอนไม่หลับกระสับกระส่าย ฝันร้ายรุมเร้าหลอกหลอน ยามที่ตื่นขึ้นมาเหงื่อเย็นไหลท่วมร่าง ปลายนิ้วสั่นระริก ศีรษะยังปวดอยู่รางๆ

เสื้อบนร่างเปียกชุ่ม นางได้แต่คลานลงมาผลัดเป็นชุดสะอาด

กำลังคิดที่จะรินน้ำแต่ได้ยินเสียงดัง ‘ปัง’ บานหน้าต่างทั้งสองถูกเปิดออกอย่างรุนแรง กุ่ยเม่ยโซซัดโซเซหลายก้าวพลันเข่าทรุดที่ประตู เงาร่างสีขาวที่เคยปรากฎขึ้นที่หมู่บ้านฉางผิงกำลังยืนอยู่ภายในเรือน น้ำชาในมือของกู้อ้าวเวยหกรดลงพื้น บนใบหน้านางถูกกรีดเป็นรอยบางๆ

“คนมา!” บ่าวหญิงนอกเรือนที่ได้ยินส่งเสียงร้องกรีดแหลม

องครักษ์นับไม่ถ้วนกรูกันเข้ามา ทว่าเงาร่างสีขาวกลับหายไปอย่างรวดเร็ว กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย เพียงแต่รีบประคองกุ่ยเม่ยเข้าไปในห้อง ปิดบานหน้าต่างทั้งหมดพลางออกคำสั่ง “ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามาในเรือน!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าองครักษ์ด้านนอกผงกศีรษะระรัว สำหรับการปิดหน้าต่างปิดประตูของกู้อ้าวเวยไม่มีใครคัดค้าน

กู้อ้าวเวยเห็นกุ่ยเม่ยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ส่วนเส้นเอ็นอ่อนตัวกลับต้องใช้เวลาสักระยะจึงรีบป้อนเม็ดยาให้เขา พลางคุกเข่าลงบนพื้นทดสอบน้ำชา

เข็มเงินเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแกมม่วง

กู้อ้าวเวยหน้าเปลี่ยนสี พลันพบข้อต่อของแมลงมีพิษจำนวนหนึ่งในกากใบชา

ในตำรากล่าวไว้ว่าชนเผ่าเหมียวเชี่ยวชาญการใช้พิษกู่ แมลงพิษที่เหมียวเจียงเพาะเลี้ยงเมื่อแช่น้ำจะกลายเป็นสมุนไพรพิษ แต่คนผู้นี้ดูเหมือนไม่ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดที่ต้องนำแมลงพิษไปตากแห้งและบดละเอียด

“น้ำชานี่มีพิษ เงาร่างสีขาวนั่นเป็นคนมาช่วยข้า” กู้อ้าวเวยประคองกุ่ยเม่ยให้ยืดตัว พลันลดเสียงกระซิบ

กุ่ยเม่ยตะลึงลาน ส่งเสียงสำลักสองสามครั้ง “คนผู้นั้นกลิ้งกลอกอย่างยิ่ง วิชาตัวเบาสูงส่ง พลังฝ่ามือกลับไม่ค่อยเท่าไหร่นัก?”

“เจ้ารับบาดเจ็บได้อย่างไร?”

“ข้าพบมันทำให้สาวใช้สลบ ตอนที่รับตัวสาวใช้ไว้ก็ถูกซัดมาหนึ่งฝ่ามือ”กุ่ยเม่ยส่งเสียงสำลัก

กู้อ้าวเวยเดิมทีใคร่อยากพูดอะไรบางอย่าง บานประตูกลับเกิดเสียงเคาะ เจ้าหน้าที่สองนายที่ติดตามใต้เท้าฉีกำลังเคาะประบานประตูทั้งยังเรียกเสียงดัง “องค์พระชายา แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ! พระชายาองค์ชายสี่ประสบเหตุคนร้ายโจมตี ถูกวางยาพิษพ่ะย่ะค่ะ!”

“ข้าไป พวกเจ้าส่งคนไปไล่ตาม ต้องจับตัวคนร้ายผู้นี้มาให้ได้!”

ขณะที่กู้อ้าวเวยกล่าวเช่นนี้กลับขยิบตากับกุ่ยเม่ย พลันกล่าวกระซิบ “เจ้าก็ตามไปด้วย ไม่อาจให้คนชุดขาวนั่นถูกจับได้เด็ดขาด”

“พ่ะย่ะค่ะ” กุ่ยเม่ยพยักหน้าอย่างขึงขัง

เมื่อคนทั้งสองออกไป กุ่ยเม่ยฝืนออกไล่ตามคน ส่วนเจ้าหน้าที่อีกสองนายนำคนกลุ่มหนึ่งติดตามคุ้มครองรอบกายกู้อ้าวเวย เมื่อมาถึงเรือนของลี่วาน น ซ่านเชียนหยวนกำลังเดินวนด้วยความกระวนกระวาย เมื่อเห็นกู้อ้าวเวยมาถึงก็เอ่ยวาจาทันที “ท่านรีบไปดูนางเร็วเข้า!”

กู้อ้าวเวยพยักศีรษะ หลังจากตรวจชีพจรให้นางก็แปลกใจเล็กๆ

พิษนี้ เป็นพิษของตระกูลหยุน ในตำราพิษที่หยุนชิงหยางมอบให้แก่นางก็มีพิษชนิดนี้

แต่น่าเสียดายที่นางไม่มียาแก้พิษ จึงได้แต่ให้คนไปต้มยา ส่วนตนก็รออยู่ในห้องดุจคล้ายมีความคิด

ซ่านเชียนหยวนจัดสรรคนไปค้นหาตำแหน่งที่อยู่ล่าสุดของนักฆ่าผู้นั้น ผ่านไปชั่วครู่ก็วกกลับมา “นักฆ่าผู้นี้ก็คือคนชุดขาวที่เพิ่งจะโจมตีท่านไปเมื่อสักครู่”

“งั้นหรือ?” กู้อ้าวเวยนิ่วหน้า รู้สึกแปลกประหลาดอยู่ภายในใจ

หรือว่าคนชุดขาวนั้นก็เป็นคนของตระกูลหยุน หากเป็นเรื่องที่หมู่บ้านฉางผิง เขาเข้าใจผิดว่ากุ่ยเม่ยเป็นบุคคลผู้มีความสามารถพิเศษของตนถึงได้ลงมือ เช่นนั้นในครั้งนี้เหตุใดจึงลงมือกับลี่วาน

รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องเท่าไรนัก กู้อ้าวเวยจึงให้ซ่านเชียนหยวนออกไป “เจ้าออกไปก่อน อีกสักครู่ข้าจะฝังเข็มให้นาง อย่าได้ให้คนเท่ามา”

“ตกลง” ซ่านเชียนหยวนพยักศีรษะ รีบสั่งให้คนทั้งหมดออกไป

กู้อ้าวเวยกลับไม่ได้รีบร้อนฝังเข็ม แต่กลับพลิกหาภายในห้องลี่วานอย่างละเอียด พบกล่องแมลงพิษที่ยังมีชีวิตอยู่ในช่องว่างแห่งหนึ่ง ด้านข้างเป็นกล่องใส่เครื่องประดับขนาดเท่าฝ่ามือแต่กลับบรรจุไว้ด้วยแมลงพิษแห้ง

คล้ายคลึงกับตัวที่อยู่ในน้ำชาของตนอย่างมาก

จึงเก็บกลับคืนไปโดยไร้สุ้มเสียง ใบหน้าของกู้อ้าวเวยเย็นเยียบลงอย่างสมบูรณ์

ลี่วานก็สามารถใช้พิษเป็นด้วย? กลับเป็นที่นางดูแคลนเสียแล้ว

ใช้เวลาอยู่หลายชั่วยามจึงแก้พิษในร่างของลี่วานได้ นางสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เมื่อชำเลืองมองก็หันไปเห็นกู้อ้าวเวยที่นั่งอยู่ริมเตียง ส่งเสียงตกตะลึงตามจิตใต้สำนึก หดตัวไปอยู่ที่มุมกำแพง ขณะที่ชี้กู้อ้าวเวยนางกลับพูดอะไรไม่ออก

นางสามารถรอดมาได้อย่างไร!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์