บทที่ 287 กำกับเองแสดงเอง
ยามกลางวันล่องทะเลสาบ ยามราตรีเสียงดนตรีสอดประสาน
จวนอ๋องจิ้งประสานเสียงเพลงตลอดทั้งค่ำคืน มีเพียงวิหารเฟิ่งหมิงที่เงียบสงบอยู่ตลอดเวลา สถานที่แม้แต่เจ้านายนับน้อยครั้งที่จะพักอยู่ที่นี่
หรือซ่านจินจื๋อไม่พอใจกู้อ้าวเวยอีกแล้วถึงได้เลือกลานจวนที่ถัดจากวิหารเฟิ่งหมิงสร้างเวทีแสดงเพียงเพื่อรอยยิ้มของซูพ่านเอ๋อร์ เสียงอึกทึกทั้งวันทั้งคืนทำให้กู้อ้าวเวยลุกขึ้นกลางดึกอีกครั้ง จึงสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป
กุ่ยเม่ยที่เฝ้ายามโปรยตัวลงมาจากหลังคา “ท่านมิใช่ว่าจะไปวิวาทกับซูพ่านเอ๋อร์เพราะท่านอ๋องหรอกกระมัง?”
“รอจนพิษแพร่กระจายในจวนหู้ปู้เซ่อหลาง เขาก็จะกลับมาเอง” กู้อ้าวเวยทอดถอนใจ ช่วงนี้งานยุ่งมาก เด็กๆในโรงเรียนกวดวิชาก่อนหน้านี้ทานเห็ดมีพิษไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เดือดร้อนถึงนางที่ต้องเทียวไปร้านยาจี้ซื่อถางตลอดวันอย่างไม่มีทางเลือก และคืนนี้ก็เพิ่งนอนไปได้แค่สองสามชั่วยาม
ซูพ่านเอ๋อร์จงใจตั้งตัวเป็นศัตรูกับตน
กุ่ยเม่ยตามมาติดๆโดยที่ไม่ได้ให้คนเตรียมรถม้า เพียงตามกู้อ้าวเวยกลับไปโรงยา เจ้าพุทรากับปายเสามีคนรับใช้ของตระกูลฉีดูแลอยู่ ทั้งสองตัวปีนป่ายขึ้นเตียงของกู้อ้าวเวยแล้วนอนหลับไปด้วยกันกับนางนานสองสามชั่วยาม
ยังนอนไม่ทันเต็มอิ่มนางก็ถูกปลุกจนตื่น
ยังนึกว่าเป็นเจ้าพุทรามาก่อนกวน เพียงใช้ฝ่ามือตบปุๆให้สิ่งนั้นเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน พลันส่งเสียงครางแผ่วในลำคอแล้วนอนต่อ
เสียงร้องเหมียวๆแว่วขึ้นมาอีกครั้ง กู้อ้าวเวยที่จำใจลืมตาตื่นกลับเห็นใบหน้าซ่านจินจื๋ออยู่ใกล้แค่คืบ ในอ้อมแขนตนยังกอดแขนของซ่านจินจื๋อไว้อย่างแนบชิดสนิมสนม
สมองตื่นตัวขึ้นในทันที กู้อ้าวเวยปล่อยแขนของซ่านจินจื๋อแล้วคลานลงจากเตียง “ท่านอ๋องทำไมมาเช้าตรู่ถึงเพียงนี้?”
“ในตระกูลกว่างจี้ถูกวางยาพิษ” ซ่านจินจื๋อไม่ได้ฉุนเฉียว พลางอุ้มป๋ายเสาโยนกลับไปในที่นอน แล้วนำเสื้อผ้าโยนเข้าอ้อมแขนกู้อ้าวเวย
กู้อ้าวเวยจัดแจงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรู้ทัน ขณะที่เดินก็มัดรวบผมขึ้นแล้วคว้ากล่องยาใบเล็กได้ก็เดินออกไปด้านนอก
ตอนขึ้นรถม้ากู้อ้าวเวยได้สั่งให้กุ่ยเม่ยไปแจ้งร้านยาจี้ซื่อถาง “บอกว่าข้ามีธุระไม่สามารถไปได้ รอข้าสักสองสามชั่วยาม”
กุ่ยเม่ยจึงรีบไปจัดการ ส่วนซ่านจินจื๋อดูเหมือนใคร่อยากกล่าวบางอย่างกับนาง ทว่ากู้อ้าวเวยกลับเปิดม่านยื่นตัวออกไปเกือบครึ่งร่างเพื่อซื้อซาลาเปาไส้ถั่วแดงร้อนๆสองอันมาถือกิน
ตลอดทางที่มาห้องโถงของจวนหู้ปู้เซ่อหลาง ไม่ว่าผู้ใหญ่เล็กเด็กแดง บ่าวชายหรือสาวใช้ ทุกคนล้วนริมฝีปากเป็นสีม่วง สีหน้าท่าทางอิดโรย
จนได้จับชีพจรให้กว่างจี้เป็นรายแรก กู้อ้าวเวยหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันที “ใต้เท้า ตอนที่ถูกยาพิษได้ไม่นานเหตุใดไม่หาหมอให้เร็วกว่านี้”
กว่างจี้กลับสูดลมหายใจเย็น “กระหม่อมไปพบหมอมาแล้วแต่ไม่ได้พูดว่าถูกยาพิษ!”
“ทำไมไม่มีใครรู้เลยล่ะ.....” กู้อ้าวเวยแสร้งจงใจพึมพำกับตนเอง เห็นกว่างจี้เปลี่ยนสีหน้าจึงกล่าวต่อ “บางทีพวกเขาหวาดกลัวที่จะข้องเกี่ยว ดังนั้นจึงไม่ยินยอมที่จะบอก”
ในความเป็นจริง นี่ก็เป็นคำสั่งของนางต่อบรรดาหมอร้านยาจี้ซื่อถางและโรงแพทย์โหย่วเว่ย ให้พวกเขาอย่าได้มาเกี่ยวโยงเรื่องนี้ ดีที่สุดคือแสร้งทำเป็นหลอกลวง
กู้อ้าวเวยนำเลือดจากกว่างจี้และคนรับใช้บางส่วนไปดำเนินการ
“ท่านอ๋อง ท่านจะต้องรับผิดชอบพวกเรา!” กว่างจี้รีบนำสายตาพุ่งไปทางซ่านจินจื๋อ “ในจวนพวกเราตั้งแต่บนลงล่างนายยันบ่าวถูกวางยาพิษซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน!”
“เฉิงซาน ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วย”
ซ่านจินจื๋อสีหน้าทะมึน กระทั่งตัวเขายังรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากที่จะเชื่อได้ลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...