บทที่ 324 อันตรายแห่งม้าคลั่ง
“ที่พูดมาเป็นความจริงหรือ?” ซูพ่านเอ๋อทั้งตกใจทั้งดีใจ
“ใช่แล้ว หนังสือการแพทย์สองเล่มนี้ข้าเพิ่งหยิบออกมาเมื่อครู่นี้เลย ทั้งสองเล่มนี้หายากมากเชียวนะ กลัวแต่ว่าองค์ชายสามหาตั้งหลายเดือนกว่าจะหามันพบ ถึงได้ส่งมันให้กับกู้อ้าวเวย” เมี่ยวหารเอาหนังสือสองเล่มที่ก่อนหน้านี้องค์ชายสามมอบให้ออกมา วางไว้ในอ้อมอกของซูพ่านเอ๋อ
ซูพ่านเอ๋อพลิกดูสักพัก ก่อนหัวเราะเย็นชา “ข้ายังเข้าใจว่านางถูกข้าทำร้ายไปจริงๆ เสียแล้ว จัดฉากตั้งครึ่งวันที่แท้ก็ไปรวมหัวกับองค์ชายสามนี่เอง ตอนนี้ยังนึกอยากจะหลอกท่านพี่จื๋อของข้าอีก”
เมี่ยวหารพูดเรื่องที่ทั้งสองนัดพบกันลับๆ ออกมาหนึ่งเที่ยว แต่กลับไม่รู้ว่าเพราะอะไรแม่นางที่บนอยู่ชายคาบ้านคนนั้นถึงจงใจเรียกพระองค์องค์ชายสาม หนังสือสองเล่มนี้ ก็เป็นของที่เขาได้ยินมาจากฝั่งคนรับใช้ทางนั้น บอกว่าพักนี้นางได้รับหนังสือใหม่สองเล่ม แปดถึงเก้าในสิบส่วนล้วนเป็นของที่องค์ชายสามมอบให้ทั้งสิ้น
“แค่หนังสือสองเล่ม ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” เมี่ยวหารรวบอาภรณ์ให้นาง พลางเอ่ยเตือนเสียงกระซิบ
ซูพ่านเอ๋อกลับพยักหน้าอย่างจริงจัง “ย่อมเพียงพออยู่แล้ว”
เมี่ยวหารยังนึกอยากเอ่ยเตือนนางว่าต้องระวังถึงตอนที่เอ่ยเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นซ่านจินจื๋อรังแต่จะยิ่งเคลือบแคลงศีลธรรมของนางเข้าไปใหญ่ ส่วนซูพ่านเอ๋อซ่อนหนังสือการแพทย์สองเล่มนี้เอาไว้เรียบร้อย และรีบเดินออกไป
รอบสนามล่าสัตว์วันนี้กลับไม่มีองค์รัชทายาทเลย
เพียงแต่ผ่านไปสักพัก กู้อ้าวเวยกลับมองเห็นลูกหลานของขุนนางและบรรดาองค์ชายจำนวนไม่น้อยกำลังควบม้าเข้ามาในป่า คงต้องตำหนิที่เมื่อครู่นางเสวนาเข้าด้ายเข้าเข็มกับไทเฮา ซ้ำยังคิดจะเปิดใบสั่งยาให้ไทเฮาอีกด้วย ช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้เอาเสียเลย
เป็นกุ้ยมามาที่ไปเอาเสื้อคลุมมาให้ไทเฮา กลับมาแล้วเห็นกู้อ้าวเวยยังอยู่ จึงแปลกใจ “พระชายา เมื่อครู่ตอนที่อ๋องจิ้งออกไป ท่านไม่ได้ไปหรือ”
“ข้าต้องไปด้วยหรือ” กู้อ้าวเวยชี้ที่ตัวเอง
ไทเฮาที่อยู่ข้างกายกำลังปอกทับทิมให้กู้อ้าวเวยอยู่ ได้ยินคำของกุ้ยมามา พลันนึกขึ้นได้ “การล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ แต่เดิมพระชายาเอกขององค์ชายแต่ละพระองค์ต้องไปสวดอ้อนวอนขอพรจากสวรรค์ด้วยตนเอง”
กุ้ยมามาทอดมองเบื้องหน้าแวบหนึ่งอย่างอึดอัดใจ เห็นขันทีเล็กๆ ที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้เดินเข้ามา บอกว่ากู้อ้าวเวยไม่ต้องไปขอพรสวรรค์แล้ว กลับอนุญาตให้รออยู่ที่นี่ได้อีกพักใหญ่ รอจนช่วงบ่ายค่อยตรงไปทานของป่าเลยก็ได้
ฮ่องเต้ทรงอนุญาตเอง พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
รอจนตอนบ่าย ล่าสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อยกลับมาได้แล้ว กู้อ้าวเวยสนอกสนใจต่อเนื้อติดมันอ้วนพีชิ้นใหญ่ ยามปกติโดยมากไทเฮาเสวยมังสวิรัติ เสวยเนื้อสัตว์เป็นส่วนน้อย จึงเสวยอาหารประเภทซุปผักป่าที่ดูแปลกๆ
กู้อ้าวเวยรอจนกินดื่มอิ่มหนำสำราญ จึงเดินทอดน่องไปหาหยินเอ่อในคอกม้า
หยินเอ่ออ้วนขึ้นมาหน่อย และดูสูงใหญ่กว่าเมื่อก่อนไม่น้อยเลย แม้แต่สภาพอารมณ์ก็ดูค่อนข้างจะหงุดหงิดเนื่องจากไม่ได้ออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่พอเห็นกู้อ้าวเวย มันยังคงก้มหน้าก้มตาถูไถที่กลางฝ่ามือของนางอยู่
อาจเพราะนางไม่ได้ขี่ม้ามานานมากแล้ว จึงขึ้นบนหลังม้าอย่างระมัดระวัง โดยยังคงให้คนเลี้ยงม้าคอยจูงอยู่
“พระชายาไม่ไปทานของป่าหรอกหรือ” คนเลี้ยงม้าอายุยังน้อยผู้นั้นเหลียวหลังกลับมาถามนาง
“กินมาแล้ว เจ้าพาข้าไปหาพื้นที่ราบ แล้วไปเล่นสนุกเองเถิด” กู้อ้าวเวยยิ้มตาหยี ปลายนิ้วลากไล้ผ่านไปมาบนหลังของหยินเอ่อ ขอบตาปรากฏแววเย็นวาบขึ้นมา
คนเลี้ยงม้าหนุ่มก็หัวเราะคิกคักตาม พานางมายังพื้นหญ้าที่ให้ม้าหาเล็มหญ้าที่หนึ่ง ก่อนเดินเตร่ออกไป
ละแวกใกล้เคียงยังมีองครักษ์จำนวนไม่น้อย นึกแล้วคงไม่น่าเกิดเรื่องอะไรได้ เพียงแต่หยินเอ๋อไม่ได้เห็นม้าจำนวนมากขนาดนี้มานานแล้ว จึงสาวกีบเท้าออกไปด้วยความตื่นเต้น กู้อ้าวเวยเกือบหดตัวอยู่บนหลังม้า แต่กลับปล่อยให้หยินเอ่อไปเล่นตามใจชอบ ต่อให้มันทำนางตก หญ้าผืนนี้ก็อ่อนนุ่มอยู่ดี นางไม่กลัวหรอก
และในเวลานี้ ซ่านเซิ่งหานกำลังจูงม้าของตนมายังสนามหญ้า ในมือยังกำกระดาษหนึ่งฉบับ เห็นว่ากู้อ้าวเวยกำลังเล่นสนุกอย่างสบายใจ ก็รู้สึกแปลกประหลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...