บทที่ 376 แต่งงานใหม่อีกครั้ง
เรื่องที่มีการปิดบังการแพร่ระบาดทำให้ฮ่องเต้ทรงโกรธมาก อ๋องจิ้งถูกตัดขาดเรื่องอำนาจทางการทหาร องค์ชายอีกสองคนที่ช่วยปิดบังเรื่องการแพร่ระบาดถูกสั่งกักขังเป็นเวลาสามเดือน แต่ต้องจ่ายค่าปรับอีกกว่าหมื่นตำลึง
ภายในหนึ่งเดือน เมืองเทียนเหยียนเปลี่ยนไปมาก นามขององค์ชายสามซ่านเซิ่งหานปรากฏอยู่ทั่วเมืองเทียนเหยียน ทุกตรอกซอกซอยต่างชื่มชมในการปกครองของเขา แก้ไขเส้นทางของแม่น้ำ สร้างเขื่อนให้เหมาะสม เปิดแม่น้ำเพื่อระบายน้ำ ลดภาษีสามเดือน
เวลาเดียวกันนั้น ซ่านจินจื๋อและซูพ่านเอ๋อ ก็ถูกเรียกกลับเมืองเทียนเหยียน และกักขังเป็นเวลาหนึ่งเดือน
และกู้อ้าวเวยก็ไม่ได้ออกไปวินิจฉัยโรคอีก ใช้เวลาฝึกการรักษาอาการป่วยหนัก ทุกวันจะฝึกการใช้มีดอยู่ในห้องกับกุ่ยเม่ย ในตอนบ่ายก็จะพาชิงจือไปเล่นที่ตำหนักอ๋อง ราวกับว่าวางแผนไว้ดีแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพบกับซ่านจินจื๋อ แม้แต่กู้จี้เหยาและซูพ่านเอ๋อก็ไม่สามรถพบเจอที่อยู่ของเขาได้
วันนี้ หน้าประตูตำหนักอ๋องจิ้ง
กู้อ้าวเวยพาชิงจือมาไว้ในอ้อมแขนของกุ่ยเม่ย กุ่ยเม่ยพาเข้าไปไว้ในกระเป๋าเล็กๆ แขวนไว้ที่หน้าอก มีห่อพัสดุอยู่บนหลัง ที่เอวมีกระบี่หนึ่งเล่มและกล่องยาอีกหนึ่งกล่อง และยังมีถุงใส่ตั๋วเงินอีกใบนึง
“เรื่องพวกนี้ต้องทำให้ดี ทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้วเจ้าก็ไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง แล้วไปรอข้าที่หลิ่งหนานตระกูลหยุน” กู้อ้าวเวยพูดจบ ก็โน้มตัวลงไปกอดม้าสีแดงตัวหนึ่งที่อยู่ใต้กุ่ยเม่ย “หยินเอ่อ ข้าเลี้ยงดูเจ้าให้อ้วนไปมาก ต้องลดน้ำหนักกับกุ่ยเม่ยบ้างนะจำได้ลดส่วนเกินบบนร่างกาย รู้หรือเปล่า”
หยินเอ่อส่งเสียงร้องออกมาทางจมูก ดวงตาทั้งสองมองมายังกู้อ้าวเวย ค่อยๆสะกิดนาง
กุ่ยเม่ยก็ได้ลูบขนบนด้านหลังของหยินเอ่อ “ข้ารู้ แม้ว่าข้าของเจ้าจะหายดีแล้ว แต่ในฤดูร้อนตอนที่มีฝนตกก็ยังต้องระมัดระวัง นอกจากนี้อย่าทำมีดที่ข้าให้ไว้หายล่ะ”
“ได้” กู้อ้าวเวยทำปากจุ๊ ๆ ตีก้นม้าเบาๆ
กุ่ยเม่ยก็ไม่ได้อยู่นาน ดึงบังเหียนแล้วจากออกไป เพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนชิงจือซึ่งอยู่ในกระเป๋าตรงหน้าอกของเขา
ป้าจางเช็ดน้ำตา และก็จากไปพร้อมสัมภาระบนหลังเช่นกัน กู้อ้าวเวยก็อดไม่ได้ที่จะต้องให้เงินนางไป และได้มอบประคำไม้จันทน์ที่นางไปขอมาจากวัดก่อนหน้านี้สวมให้นาง ปลอบโยนนางไปว่าเมื่อถึงเวลาชิงจือก็จะกลับมา ป้าจางจึงเดินทางออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
กู้อ้าวเวยรออยู่พักหนึ่งแล้ว ยู่จูและจื่อก็ได้มาถึงพร้อมสัมภาระบนหลังเช่นกัน
ยู่จูมีความอวดดีโอหังแต่ก็มีมนุษยธรรม จื่อไร้เดียงสาและน่ารักแต่กลับเป็นคนดื้อหัวรั้น สองสาวที่หลิ่วเอ๋อหามาล้วนชาญฉลาดทั้งสิ้น แต่จื่อกลับเหมือนเด็กที่ชอบหยอกล้อยู่จู ยู่จูกลับไม่ให้ความสนใจ ทั้งสองคนดูน่าสนใจมาก
“อย่างนั้นจากนี้ไปเราก็จะเป็นคนรับใช้ของท่านเจ้าแล้วใช่ไหม” จื่อกอดหมอนของตนเองแล้วตามติดด้านหลังของกู้อ้าวเวย นางไม่รู้จักเตียงนอน รู้จักเพียงแต่หมอน ก่อนที่จะมาอยู่กับกู้อ้าวเวยที่นี่เขาไม่เคยได้นอนหลับสบายเลย
ยู่จูแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าวัสดุชั้นดี เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าบนร่างกายของกู้อ้าวเวยแล้วมีราคาแพงกว่ามาก ดูไม่เหมือนสาวใช้เอาเสียเลย
“ข้าไม่ได้ต้องการให้พวกเจ้ามารับใช้จริง ๆ ต่อหน้าแล้วข้าจะบอกว่าพวกเจ้าเป็นแขก ดูเสื้อผ้าที่พวกเจ้าใส่สิ มันแพงกว่าเสื้อผ้าของข้าสองเท่าตัว” กู้อ้าวเวยกลอกตาของนาง
จื่อและยู่จูมองสบตากัน ต่างวางกระเป๋าสัมภาระของตัวเองลง เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของกู้อ้าวเวย พูดเป็นเสียงเดียวกัน “นี่คือสิ่งที่หลิวเอ๋อให้พวกเรานำมาให้เจ้า”
เปลือกตาของกู้อ้าวเวยยังกระตุกไม่หยุด เสื้อผ้าชั้นดีเหล่านี้มาจากไหนกัน และยังมีเครื่องประดับพวกนี้อีก แสงสะท้อนจากสร้อยข้อมือนี้คือพลอยทับทิม ถ้าไม่มีสักสามร้อยตำลึงก็คงจะเอามาไม่ได้
กู้อ้าวเวยบ่นพึมพำถึงกระเป๋าเล็ก ๆทั้งสองใบ เป็นเรื่องยากมากที่ทั้งสองคนจะไม่ทะเลาะกัน เงยหน้าขึ้น กลับปรับอารมณ์ลดลงโดยทันที และยิ้มเล็กน้อย เมื่อพบกับตาคู่หนึ่งของซ่านจินจื๋อ
“ท่านอ๋อง ไม่พบกันเสียนาน”
“จริง ๆด้วยนานมากแล้วจริง ๆ ในตำหนักแห่งนี้ เจ้าก็มาซ่อนตัวอยู่นานนะ” ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นให้คนที่อยู่หลังเขา เดินเข้ามายังเบื้องหน้าของกู้อ้าวเวย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...