บทที่ 389 โน้มน้าวให้แยกครอบครัว
“เข้ามา!ปกป้องท่านอ๋อง!”
ทั่วทุกสารทิศล้วนถูกล้อมรอบเอาไว้ กู้อ้าวเวยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ร่างของหญิงสาวที่งดงามผู้นั้นบิดตัวลง ทรุดลงนั่งอยู่กับพื้น
ซ่านจินจื๋อมองไปที่ลูกธนูในมือทีหนึ่ง ก็ถูกเฉิงซานเอาไป แต่ทว่าเพียงไม่นาน คนสองคนก็เดินเข้ามากดสาวสวยคนนั้นเอาไว้เป็นมั่น กู้อ้าวเวยรีบยกมือขึ้น “ช้าก่อน!”
“หญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่นางระบำภายในสำนักของพวกเรา!”เพียงชั่วครู่เหล่าบรรดานางระบำที่หวาดผวาต่างใช้สายตาจับจ้องไปที่หญิงงามผู้นั้นเป็นตาเดียว
แต่หญิงงามคนนั้นขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “หม่อมฉันเป็นหลานสาวของนเจ้าของร้านเกี๊ยว หม่อมฉันชื่อว่าหลี่เยน หม่อมฉันมาหาพระชายาเพราะมีธุระเพคะ!เพราะว่าไม่สามารถเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ ดังนั้นถึงใช้วิธีนี้แฝงตัวเข้ามา……”
“เช่นนั้นกับมือสังหารเมื่อครู่คงจะมีความเกี่ยวพันกับเจ้า?”กู้อ้าวเวยหยัดตัวตรงขึ้น แล้วก็รับเอาลูกธนูจากมือของเฉิงซานมาดู
“เกี่ยวข้องกับท่านชายหหวางโม่เพคะ!ในตอนนี้ท่านได้รับบาดเจ็บ เพียงแค่เพราะว่าในตอนแรกเรียกร้องให้กับคนของเสี่ยวเจและคนอพยพ ในตอนนี้ข้าราชการในราชสำนักล้วนแล้วแต่อดรนทนไม่ไหวคิดอยากจะสังหารเขา!อยากทูลขอให้พระชายาเป็นผู้ตัดสินให้กับท่าน ทำให้ท่านไม่ได้ต้องมาคอยพะวงหวาดหวั่นอันตรายใด ๆ อีกต่อไป” หลี่เยนตะโกนออกมาเช่นนี้
“ถ้าเช่นนั้นธนูลูกนี้……”กู้อ้าวเวยมองลูกธนูที่อยู่ในมือ ดูไม่ออกว่ามาด้วยเรื่องอันใด
“มาสังหารนางเพื่อปิดปาก”ซ่านจินจื๋อโบกมือให้กับเฉิงซาน เฉิงซานก็ได้นำเอาลูกธนูนี้ออกไป ได้สั่งให้คยไปสืบสวนเรื่องนี้
กู้อ้าวเวยเองก็รู้สึกตะลึงงันไปเล็กน้อย จริง ๆ แล้วนางเองก็ไม่ได้คิดรอบคอบถี่ถ้วนเช่นนี้ นี่นางเองที่เป็นคนเพิกเฉยหวางโม่
จะว่าไปแล้วในตอนนั้นหวางโม่ก็เพราะว่าช่วยขจัดปัดเป่าโพยภัยให้กับประชาจนแล้วจึงตัดโอกาสเส้นทางในการเป็นข้าราชสำนัก ในตอนนี้ได้เผชิญกับเรื่องนี้เข้า คงจะเป็นข้าราชสำนักพวกนั้นที่รู้ว่าหวางโม่จัดการได้ยาก ถ้าว่ากันตามนิสัยของหวางโม่แล้ว เกรงว่าในช่วงเวลานี้ได้ทำเรื่องอะไรลงไปไม่น้อย เพียงแค่ว่านางไม่รู้ก็เท่านั้นเอง
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว กู้อ้าวเวยจำเป็นต้องกวักมือเรียกหลี่เยน“ปล่อยนางให้มา มานั่งข้าง ๆ ข้า”
“พระชายาพระเจ้าค่ะ อย่าได้เชื่อคำของคนผู้นี้ ”ทาสรับใช้ไม่กี่คนต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียว ผู้ให้คำปรึกษาที่อยู่ด้านข้างไม่กี่คนต่างก็รีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน แสดงให้เห็นว่าคนผู้นี้ไม่น่าไว้ใจ
กู้อ้าวเวยเองใจก็ยังรู้สึกนึกกลัวลูกธนูดอกนั้นอยู่ คิดไปคิดมาก็ดูไม่เหมาะจริง ๆ
หลี่เยนก็เริ่มร้อนรนใจขึ้น รีบจ้องมองไปที่นางอย่างตื่นตระหนก “เพียงแค่ให้พระชายาและท่านอ๋องเสด็จไปโรงเตี๊ยมกับหม่อมฉันสักรอบ ก็จะรู้เองว่าหม่อมฉันกราบทูลเรื่องโกหกหรือไม่”
ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นดึงกู้อ้าวเวยให้มาอยู่ข้างกาย “ถ้าหากว่าโรงเตี๊ยมนั้นมันเป็นกับดักละ แล้วจะทำอย่างไร?”
หลี่เยน ใบหน้าแดงซ่าน ไม่รู้ว่าจะทัดทานอย่างไร
เฉิงซานที่อยู่ด้านหลังก็ดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของซ่านจินจื๋อ ได้มีคำสั่งเป็นการลับให้คนไปดูลาดเลาที่โรงเตี๊ยม
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่น ๆ ซ่านจินจื๋อก็ได้ออกคำสั่งให้คนนำหลี่เยนไปขังเอาไว้เสียก่อน กู้อ้าวเวยเองก็หมดความคิดที่จะช่วยเหลือออกแผนการ ในตอนที่เดินลงจากเรือ จื่อกับยู่จูได้ยินข่าวเข้าก็รีบมา เมื่อเห็นกู้อ้าวเวยยังปลอดภัยดี จึงสามารถวางใจลงได้
“ข้าไม่เป็นอะไรทั้งนั้น พวกเจ้าอย่าได้ไปรับถ่ายทอดนิสัยที่เหมือนแม่ไก่มาจากกุ่ยเม่ยเชียว”กู้อ้าวเวยจับเอาจื่อที่หมุนซ้ายหมุนขวารอบตัวเองเอาไว้ แล้วก็รู้สึกอิดหนาระอาใจ “อย่าวุ่นวาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...