บทที่547 แสร้งทำเป็นอ่อนแอ
เมื่อเวลาผ่านไป กู้อ้าวเวยก็เคยชินกับวันเวลาที่เลือนลับไป
เป็นเวลากี่ปีแล้วที่อยู่บนโลกนี้ จะว่าไปมันก็เกี่ยวกับความวุ่นวายกับซ่านจินจื๋อและความเจ็บปวดที่ไม่ต้องการ
วันนี้รู้สึกว่าบรรยากาศข้างนอกค่อนข้างดีและอาการของซ่านจินจื๋อก็เกือบหายเป็นปกติแล้ว เป็นการดีที่จะได้พักผ่อนหนึ่งวัน นางกำลังหาโอกาสที่จะออกไปเดินเล่น แต่ข้างๆหูก็เกิดเสียงดัง แต่ในหัวใจดวงนี้กลับสงบนิ่งดั่งสายน้ำ
สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงเมืองเล็กๆติดชายแดน ไม่มีความมั่งคั่งหรือเรียกว่าไม่มีความอุดมสมบูรณ์ กู้อ้าวเวยไม่ได้ซื้อยาที่ต้องการมาและตอนที่ไปทานอาหารในร้านอาหารก็ได้พบกับกลุ่มหื่นหรรษ์ที่มองมาอย่างไม่ละลายสายตา มองเหล่มาที่นางเป็นเวลานาน สุดท้ายนางก็ใช้มีดแก้ปัญหา
ตอนนี้หยุนอี้ปักอยู่บนโต๊ะจนไม่สามารถดึงออกได้
เถ้าแก่เนี้ยเสิร์ฟอาหารให้นางด้วยรอยยิ้มและเหลือบไปมองมีดที่อยู่บนโต๊ะก็คิดว่าหญิงสาวผู้นี้คงอารมณ์ไม่ดีจึงรีบออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้แต่แขกที่อยู่ข้างๆก็ยังไม่กล้าที่จะมองมาที่นาง
“โชคไม่ดีจริงๆ......” กู้อ้าวเวยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและยังคงพยายามดึงหยุนอี้ แต่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ดึงขึ้น นางแทบจะยกชามและตะเกียบออกไปเพราะมือนางลื่น จึงทำได้เพียงนั่งกินอย่างเรียบร้อย
เมื่อกินครึ่งหนึ่ง เฉิงซานที่ฟังคำสั่งของซ่านจินจื๋อที่ให้รีบไปตามหาคนก็เดินเข้ามา ก็ต้องผงะเมื่อเห็นมีดอยู่บนโต๊ะ กู้อ้าวเวย กระแอมเล็กน้อย “เมื่อสักครู่ข้าใช้แรงเยอะไปหน่อย ตอนนี้ข้าดึงมันออกมาไม่ได้”
เฉิงซานเดินไปดึงหยุนอี้ออกมาแล้วเช็ดอย่างระมัดระวังจากนั้นก็วางไว้ข้างๆกู้อ้าวเวย โดยที่มีคนสองคนอยู่ด้านหลังซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
กู้อ้าวเวยกินอาหารตามปกติ เมื่อกำลังจะลุกไปจ่ายเงิน ก็เห็นหื่นหรรษ์ที่เพิ่งจะคุกคามนางถูกโยนเข้ามาคุกเข่าข้างๆกู้อ้าวเวยเพื่อขอความเมตตา
“พวกเจ้าทำเรื่องแบบนี้ด้วยรึ?” กูอ้าวเวยไม่ได้มองไปที่หื่นหรรษ์ เพียงแต่มองไปที่เฉิงซาน จากนั้นก็ยื่นเงินให้คนรับใช้เสี่ยวเอ้อและรอเงินทอน
“ใต้เท้าสั่งว่าหากเจอหื่นหรรษ์จะต้องชดใช้ให้กับท่านทีละคน” เฉิงซานพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “และใต้เท้าก็รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายบอกว่าเริ่มเจ็บหน้าอกอีกแล้ว”
“ข้าเข้าใจแล้ว” กู้อ้าวเวยครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วก็ขี้เกียจที่จะรอเงินทอนจากคนรับใช้เสี่ยวเอ้อ เพียงแค่คิดถึงสิ่งที่ซ่านจินจื๋อจะทำนางก็รีบเดินออกไป
เฉิงซานนำคนไปให้บทเรียนหื่นหรรษ์เหล่านั้น จากนั้นก็รับเงินทอนกลับมาแล้วเดินกลับไปอย่างช้าๆ
เมื่อกู้อ้าวเวยปีนขึ้นไปบนรถม้า ซ่านจินจื๋อก็ซ่อนเอกสารทางราชการเอาไว้ หน้าของเขาซีดเผือดยิ่งกว่าตอนที่กู้อ้าวเวยจากไป
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าไม่อนุญาตให้ดูเอกสารทางราชการ” กู้อ้าวเวยปีนขึ้นไปบนรถม้าแล้วเปิดเอกสารอ่านอย่างละเอียด นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้ารายงานความแข็งแกร่งของเมืองเยว่ซานกับฮ่องเต้?”
ซ่านจินจื๋อไม่พูดอะไร เขาทำงานที่เมืองเยว่ซานมาหลายปีแล้วและตอนนี้เขาบอกเรื่องนี้กับฮ่องเต้ ซึ่งน่าจะหมายถึงความไว้ใจ
กู้อ้าวเวยถอนหายใจแล้วหยุดพูด เพียงแค่จับชีพจรแล้วถามเขาว่า “เจ็บตรงไหน?”
“เจ็บหน้าอก” ซ่านจินจื๋อแกล้งจับหน้าอก
กู้อ้าวเวยยิ้มเยาะแล้วตบไหล่เขา “คิดจะแสร้งอ่อนแอรึ? อ๋องจิ้ง?”
“จะกล้าได้อย่างไร” ซ่านจินจื๋อหัวเราะ แต่ในใจกลับไม่มีทางเลือก เขาอยากจะป่าวยอีกสักพักแต่เขาก็มีร่างกายที่แข็งแรงและคนที่เขาชื่นชมก็ยังเป็นหมออัจฉริยะที่มีการฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยม หากจะแสแสร้งอ่อนแอต่อไปก็คงจะไม่ได้
กู้อ้าวเวยส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ แล้วพูดเบาๆว่า “ถอดเสื้อผ้า ข้าจะทายาให้”
เมื่อกู้อ้าวเวยบอกให้เขาถอดเสื้อผ้า น้ำเสียงของนางนั้นสั้นกะทัดรัดได้ใจความ ซ่านจินจื๋อถอดเสื้อออกตามปกติแล้วมอง
กู้อ้าวเวยที่กำลังจ้องหน้าอกตัวเองสักพัก จากนั้นนางก็หยิบขี้ผึ้งที่มีกลิ่นฉุนทาให้เขา
ซ่านจินจื๋อผู้น่าสงสารเจ็บปวดทันทีที่เขาไอ กู้อ้าวเวยทำได้เพียงบีบจมูกของเขาเพื่อให้เขาอดทนไม่ไอ แต่ความเจ็บปวดกลับยิ่งมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...