สรุปตอน บทที่ 62 การคาดเดาในค่ายทหาร – จากเรื่อง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่
ตอน บทที่ 62 การคาดเดาในค่ายทหาร ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 62 การคาดเดาในค่ายทหาร
นางยักคิ้วขึ้น คนรอบๆเริ่มล้อมวงกันเข้ามา
ลือกันว่าพระชายาจิ้งไม่ได้รับความรักจากท่านอ๋องเลย มาวันนี้พระชายาจิ้งกลับมีเซียวไห่คนสนิทของท่านอ๋องมารับ ยังมีม้าที่ท่านอ๋องเลือกให้เองอีก เช่นนั้นพระชายาได้ความรักหรือไม่ได้กันแน่?
คนรอบข้างต่างพากันซุบซิบนินทา กู้อ้าวเวยเดินไปที่ม้าแดงตัวนั้น ลูบหัวมันเบาๆ: “ให้ข้าเหรอ? เช่นนั้นต่อไปข้าจะขี่มาไปไหนก็ได้ใช่ไหม?”
“ครับ พระชายา”เซียวไห่เห็นกู้อ้าวเวยทำท่าดีใจ
“ดีจังเลย!”กู้อ้าวเวยรีบดึงเชือกและปีนขึ้นไปขี่ ลูบหลังมันเบาๆ: “พุทราในบ้านตัวนั้นมันไม่ชอบข้า เจ้าต้องชอบข้านะ เข้าใจไหม”
ม้าแดงเดินรอบๆ จากนั้นก็เดินไปทางเสียวไห่อย่างระมัดระวัง มันเชื่องกว่าม้าแดงในลานล่าสัตว์กว่าเยอะมาก
“มันยังไม่มีชื่อนะ”เซียวไห่พูด
กู้อ้าวเวยขี่ม้าตามหลังไปช้าๆ ในนี้ยังเป็นเมืองเทียนเหยียน ไม่สามารถขี่เร็วได้ นางก็สบายและตบหลังม้าไปเบาๆ: “เช่นนั้นก็เรียกว่าหยินเอ่อแล้วกัน”
แมวดำเรียกว่าพุทรา ม้าแดงเรียกว่าหยินเอ่อ เซียวไห่ส่ายหัวไปมา
ทั้งสองขี่ออกไปอย่างช้าๆ ซ่านจินจื๋อนั่งอยู่บนม้ารอพวกเขาอยู่นาน พอเห็นกู้อ้าวเวยขี่ม้าลูบหลังม้าและพูดเองคนเดียว เขาก็พูดว่า: “ถ้าไม่เร่งความเร็วล่ะก็ พรุ่งนี้เกรงว่าจะไปไม่ถึงค่ายทหาร”
“ข้าไม่กล้าขี่เร็วหรอกนะ ทำไมต้องพาข้ามาด้วย?”กู้อ้าวเวยกอดคอม้าไว้แน่น
“หรือว่าจะปล่อยให้เจ้าทำร้ายคนในตำหนักข้างั้นเหรอ?”ซ่านจินจื๋อขี่ม้าไปข้างๆนาง: “เจ้ายังจำคำสั่งก่อนหน้านี้ของข้าได้หรือไม่?”
“จำได้ๆ ไม่ให้ข้าเข้าใกล้องค์ชายสี่และแม่หญิงพ่านเอ๋อ”กู้อ้าวเวยมองบน ดึงเชือกแฃะขี่ม้าตัวเองไปเรื่อยๆ ยังไม่ลืมพูดกับม้าตัวเองว่า: “หยินเอ่อ อีกเดี๋ยวเจ้าอย่าโยนข้าลงไปเชียวนะ รู้ไหม?”
ซ่านจินจื๋อทำหน้าโมโห แต่กู้อ้าวเวยที่ไปด้านหน้าแล้วก็หันกลับมามองเขาและพูดว่า: “ทำไมยังไม่ไปเล่า?ไหนว่าเวลามีไม่มากแล้วไง?”
ซ่านจินจื๋อกุมขมับ เซียวไห่กลับตบไหล่เขาเบาๆเชิงให้กำลังใจ จากนั้นก็พาคนตามหลังซ่านจินจื๋อไปทางอำเภอโล่เสีย
อำเภอโล่เสียอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเทียนเหยียน ตำแหน่งอยู่ตรงข้ามแม่น้ำหลังเขา เป็นค่ายทหารที่สำคัณอีกจุดหนึ่งเช่นกัน และพวกเขากำลังเดินทางไป อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งวัน
และตอนนี้ตะวันก็กำลังตกดิน กู้อ้าวเวยนั่งอยู่บนม้าซ่านจินจื๋อเรียบร้อยแล้ว นางขี่ม้าได้ช้ากว่าทุกคน
นางต้องกอดเอวซ่านจินจื๋อเอาไว้ นางมองไปทางหยินเอ่ออย่างเสียดาย พอเวลาพักมันถึงจะเข้ามาข้างนาง กู้อ้าวเวยยื่นมือไปลูบมันและพูดว่า: “หยินเอ่อ ทำไมเจ้าน่ารักเช่นนี้?”
ซ่านจินจื๋ออยากจะโยนนางลงไปเหลือเกิน แต่ก็ต้องขี่ช้าลงเพราะทางขี้นดอย
ฟ้าเริ่มมืด ทางเดินขึ้นดอยลำบากมาก และพวกเขาก็ต้องพักอยู่ในวัดร้างหนึ่งคืน พรุ่งนี้ก็ต้องถึงอำเภอโล่เสียแน่นอน
ต่างคนต่างพูดคุยเรื่องราชการ กู้อ้าวเวยนอนไม่ค่อยหลับ ลุกขึ้นมาเดินไปหยิบขวดน้ำมาดื่ม และนั่งข้างซ่านจินจื๋อเงียบๆไม่พูดอะไร
“ค่ายทหารในอำเภอโล่เสียสร้างขึ้นมาเพื่อเทียนเหยียน ทหารเรือของเราก็ปลูกฝังอยู่ที่นั้น ถ้าไปทางน้ำก็เป็นข้อได้เปรียบของเรา”เซียวไห่พูดต่อ ไม่รู้ว่าจะได้ดูแผนที่เมื่อไหร่
กู้อ้าวเวยมองไป สูดขี้มูกไป ยื่นมือไปใกล้ๆไฟ จากนั้นก็เอาขนมออกมากิน
“แต่ไม่ไกลยังมีพลทหารเชี่ยวชาญทางน้ำน่าจะโจมตีง่ายกว่า?ทำไมถึงเลือกอำเภอโล่เสีย และไม่เพียงแต่ฆ่าแพทย์ทหาร ยังฆ่าแม่ทัพไม่อีกสามคน นี่จะตั้งใจหยามกันชัดๆ!”ทหารด้านข้างพูดขึ้นด้วยความโมโห
กู้อ้าวเวยตกใจ มองไปทางชายคนนั้น และพูดอย่างแปลกใจว่า: “เช่นนั้นทำไมถึงฆ่าแค่แม่ทัพกับแพทย์ทหารล่ะ?แพทย์ทหารและแม่ทัพในอำเภอโล่เสียมีอะไรพิเศษงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรพิเศษหรอก”เซียวไห่พูดต่อบ พอรู้ตัวอีกที ทุกคนต่างก็มองไปทางนางและถามว่า: “พระชายา ท่านพูดเช่นนี้หมายความเช่นไร?”
“แม่ทัพฆ่ายาก แพทย์ทหารฆ่าง่าย เช่นนั้นทำไมถึงฆ่าแม่ทัพล่ะ?”กู้อ้าวเวยถามอย่างแปลกใจ และพูดต่อว่า: “และอำเภอโล่เสียก็เป็นจุดสำคัญของเทียนเหยียน โจมตีที่นี้ไม่มีข้อดีอะไร เช่นนั้นจับโจรก็ต้องจับหัวหน้า อีกอย่างฆ่าแพทย์ทหาร ฆ่าแพทย์ทหารแล้วค่อยวางยาก็อาจจะเป็นไปได้ แต่แม่ทัพทำไมถึงตายได้?”
ทุกคนต่างเงียบลง ซ่านจินจื๋อครุ่นคิดและพูดว่า: “เจ้าสงสัยว่ามีปัญหาภายในค่ายทหาร”
“ข้าคิดว่าภายในค่ายทหารมีปัญหา และการอยู่ของค่ายทหารก็มีปัญหาอยู่แล้ว”กู้อ้าวเวยชี้ไปที่แผนที่: “ที่ตรงนี้ไกลมาก ใกล้กับเทียนเหยียน แต่ก็ตั้งขึ้นเพื่อการรบแนวหน้า แต่รอจนแม่ทัพตายไปแล้วตั้งสามคนถึงค่อยมาบอกกับท่านอ๋องที่นี้ ตรงนั้นแม่ทัพกี่คนกันแน่?และที่นั้นไม่มีคนคุ้มและถามไถ่เลย เงินและเสบียงที่ถูกส่งไปจะมีคนแอบเอาไปตั้งเท่าไหร่กัน?”
ซ่านจินจื๋อมองไปที่นางและเข้าใจแล้วว่ากู้อ้าวเวยอยากสื่ออะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...