บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 10

บทที่ 10 เจ้าไม่ปล้นสวาทนางได้อย่างไร
งามล่มชาติล่มเมือง พริ้วบางดุจดั่งเซียน

นี่คือภาพลักษณ์ของเสี่ยวหลิงเซียนที่อยู่ในใจของผู้คน สมบูรณ์แบบจนไม่อาจละสายตาได้เลย

ทุกคนใช้สายตาส่งเสี่ยวหลิงเซียนจากไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ท่าทางเหมือนกับพวกคลั่งไคล้ดาราในภพก่อนที่เสิ่นเทียนเคยเห็นมา

ทั้งจริงใจและหลงใหล

“เสี่ยวหลิงเซียนเดินจากไปแล้ว หัวใจของข้าก็ตามนางไปเช่นกัน”

“ตื่นสักทีเถอะสหาย เจ้าไม่ได้กำลังมีความรัก”

“เมื่อครู่เสี่ยวหลิงเซียนพูดว่าอะไรนะ เหมือนนางบอกว่าในในร้านวิญญาณสวรรค์ยังมีโชคลิขิตอีกไม่น้อย”

“เสี่ยวหลิงเซียนฝึกทักษะเนตรทองทะลวงชีพจรสำเร็จ สามารถมองทะลุแร่วิญญาณทั่วหล้า นางบอกว่าในร้านวิญญาณสวรรค์มีของดี ก็แสดงว่าต้องมีอย่างแน่นอน!”

“พี่น้องทุกคน โอกาสที่พวกเราจะมั่งคั่งมาถึงแล้ว!”

“ข้ารู้สึกว่าหินแร่วิญญาณสีทองก้อนนั้นไม่เลว รูปร่างโค้งมนมีประกายวิญญาณแฝง ด้านในจะต้องมีของดีแน่นอน ”

“ข้ารู้สึกว่าหินแร่วิญญาณสีฟ้าก้อนนั้นสิถึงจะดี! รูปร่างแปลกตา ราวกับเทพธิดากอดพิณ ไม่แน่เปิดออกมาอาจจะเป็นเทพธิดาก็ได้”

“ไม่ต้องแย่งกัน ของข้า ทั้งหมดเป็นของข้า!”

……

ชั่วขณะ การค้าขายของร้านวิญญาณสวรรค์ดีขึ้นทันตาเห็น

ส่วนเถ้าแก่ซ่งที่ทำหน้าปวดใจในตอนแรก สีหน้าก็เริ่มดูดีขึ้นบ้างแล้ว

เสิ่นเทียนมองทิศทางที่เสี่ยวหลิงเซียนเดินจากไปอย่างเหม่อลอยด้วยความอาลัยอาวรณ์

เขาไม่ได้อาลัยอาวรณ์เสี่ยวหลิงเซียน แต่รู้สึกไม่สบายใจที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ทั้งหมด

องค์ชายสิบสามที่อับโชคตั้งแต่เกิด ความหวังเดียวที่สามารถพลิกชะตาเปลี่ยนชีวิตได้คือพึ่งพาโชคลิขิตของบุคคลมหาโชค

ตอนนี้มีบุคคลที่ไม่สามารถตรวจดูโชคลิขิตปรากฏกายขึ้น เสิ่นเทียนรู้สึกว่าแม่นางผู้นี้เป็นตัวแปรโชคลิขิต

และตัวแปรนี้ทำให้เสิ่นเทียนรู้สึกไม่ปลอดภัย!

“คุณชายเสิ่น หากท่านชอบนาง ถ้าอย่างนั้นก็รีบตามไปเถอะ!”

“ใช่แล้วคุณชายเสิ่น แม่นางเสี่ยวหลิงเซียนถึงจะเหมาะสมกับท่านที่สุด อย่าทำให้ตัวเองต้องเสียใจภายหลังเลย!”

กุ้ยกงกงและฉินเกาเห็นสีหน้าที่อาลัยอาวรณ์ของเสิ่นเทียน คนทั้งคู่พากันพูดเร่งเร้า

เสิ่นเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย “ข้าเป็นถึงองค์ชายสิบสามของอาณาจักรต้าเหยียน จะแอบเดินตามหญิงสาวไปได้อย่างไร”

กุ้ยกงกงพูดเสียงเบา “องค์ชายเสิ่น เมื่อกี้บ่าวเห็นมีคนท่าทางลับๆ ล่อๆ แอบตามแม่นางเสี่ยวหลิงเซียน ดูแล้วไม่เหมือนคนดี”

อะไรนะ

มีคนท่าทางลับๆ ล่อๆ แอบตามเสี่ยวหลิงเซียน หรือว่าเขาจะมีเจตนาร้าย?

ได้ยินคำพูดของกุ้ยกงกง เสิ่นเทียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาซะแล้ว

โจรถ่อยไร้ยางอายแอบตามเสี่ยวหลิงเซียนเพราะมีเจตนาร้าย หลังจากนั้นถูกพระเอกสวมบทวีรบุรุษผู้กล้าช่วยไว้ทัน เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกซาบซึ้งจนยอมพลีกาย

นี่ไม่ใช่พล็อตเรื่องที่พบบ่อยและคลาสสิคที่สุดในนวนิยายหรือ!

คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนเจอ โชคดีอะไรเช่นนี้!

ในเมื่อตอนนี้โจรถ่อยและเทพธิดาล้วนปรากฏตัวแล้ว

ถ้าอย่างนั้นพระเอกก็น่าจะใกล้ปรากฏตัวแล้วเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องเป็นบุคคลมหาโชคแน่ๆ

ขอเพียงคิดหาวิธีผูกมิตรกับบุคคลมหาโชคท่านนี้ เสิ่นเทียนเชื่อว่าเขาจะต้องพบโชคลิขิต เปลี่ยนดวงชะตาของตนเองให้ดีขึ้นอีกครั้งได้โดยเร็ว

เพียงแค่คิดก็ดีใจจนตัวลอยแล้ว!

……

กุ้ยกงกงมองดูเสิ่นเทียนที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้า อดไม่ได้ที่จะพูดเตือน “คุณชายเสิ่น ถ้ายังไม่รีบจะตามไปไม่ทันแน่”

เสิ่นเทียนดึงสติกลับมา รีบกล่าว “ไป พวกเรารีบตามไป!”

กุ้ยกงกงเคยได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาฝึกบำเพ็ญพื้นฐานจากพระสนมหลาน หลังจากผ่านการฝึกบำเพ็ญอย่างพากเพียรมานานหลายสิบปี ผลบำเพ็ญของเขาบรรลุถึงระดับแดนหลอมปราณขั้นห้าตั้งนานแล้ว

และหลังจากหันมาบำเพ็ญ ‘คัมภีร์มารสู่สุริยัน’ ผลบำเพ็ญของเขายิ่งก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สามวัน สามารถทะลวงถึงระดับแดนหลอมปราณขั้นเจ็ด

บวกกับทักษะแกะรอยที่บันทึกอยู่ใน ‘คัมภีร์มารสู่สุริยัน’ ทำให้คนทั้งสามไล่ตามเสี่ยวหลิงเซียนทันอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ เสี่ยวหลิงเซียนได้ออกจากสวนหมื่นวิญญาณ มาถึงในตรอกเปลี่ยวแห่งหนึ่ง

เธอยืนอยู่ในตรอกอย่างสงบ พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมยว่า “ออกมาเถอะ!”

ฟิ้ว!

มีร่างของคนตกลงมาจากท้องฟ้า ขวางอยู่ตรงหน้าของเสี่ยวหลิงเซียนอย่างกะทันหัน

เขายิ้มแล้วยิ้มอีก กล่าว “เสี่ยวหลิงเซียน ส่งของมาให้ข้าเถอะ!”

อย่างที่คิดเอาไว้ นี่เป็นการขู่ปล้นทรัพย์

ฉินเกาเป็นคนใจร้อน เขาถามเสียงเบา “องค์ชาย พวกเราจะลงมือเลยหรือไม่”

เสิ่นเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย “โง่”

“ใช่แล้ว โง่”

กุ้ยกงกงลากฉินเกากลับมา กล่าวอธิบายเสียงเบา “หัดรู้จักใช้สมองเสียบ้าง ตอนนี้เจ้าหมอนี่แค่ปล้นทรัพย์เท่านั้น ไม่ได้ปล้นสวาท”

“องค์ชายลงมือช่วยเหลือตอนนี้ อย่างมากก็แค่ได้รับคำว่า ‘ท่านจอมยุทธ์ ช่างเป็นคนดียิ่งนัก’ ”

“แต่แม่นางเสี่ยวหลิงเซียนงดงามเช่นนี้ อีกเดี๋ยวเจ้าโจรคนนี้ต้องทนไม่ไหวคิดปล้นสวาทแน่นอน ถึงเวลานั้นพวกเราก็ค่อยลงมือ”

“วีรบุรุษช่วยหญิงงาม องค์ชายสิบสามสง่างามเช่นนี้ เหตุใดต้องกังวลหญิงงามไม่หวั่นใจ”

“องค์ชาย กระหม่อมพูดถูกหรือไม่”

ฉินเกาได้ยินคำอธิบายของกุ้ยกงกง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถืออย่างยิ่ง “ล้ำลึก! องค์ชายทรงล้ำลึกยิ่งนัก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน