บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 101

บทที่ 101 ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเซียนรุ่นสอง
องก์ที่สาม แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…แสงมรกตส่องไปทั่วหล้า

บทที่ 101 ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเซียนรุ่นสอง

อีกด้าน เสิ่นเทียนลอยออกจากวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วก็งุนงงไปหมด

ดังนั้นก็เลยจบแบบนี้ ข้าได้อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมาอย่างน่าประหลาดหรือ

แม้ได้เป็นศิษย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่เลว มีความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหลายส่วน แต่เสิ่นเทียนคิดว่าอาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่พึ่งพาไม่ได้นิดๆ ทั้งยังเหมือนหูไม่ค่อยดีด้วย

เขามองเกราะเต่าดำสีดำและยังมีลายดอกไม้ในมือก่อนจะหยิบค้อนม่วงทองออกมาจากแหวนเวหา

อืม~

มือซ้ายถือเกราะเต่าดำ มือขวาถือค้อนม่วงทอง เสิ่นเทียนมักจะรู้สึกคลับคล้ายว่าเคยเห็นลักษณะแบบนี้มาก่อน

ลูกพี่บางคนในโลกภายนอกยกค้อนไม่ขึ้นเลยไปแอบฝึกฝนชุดกระบวนท่ามาหรือ

แปลก ไม่รู้ว่าเกราะของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่เทียบกับเกราะของเขาแล้วใครแกร่งกว่ากัน!

แต่ต้องบอกว่าถือเกราะเต่าดำนี่ในมือแล้ว รูปทรงมันก็ยังดูดีมาก

ส่วนการสวมไว้ที่ตัวแบบที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บอก จะเสริมความเร็วในการฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำนั้น

ข้อเสนอนี้เสิ่นเทียนมองข้ามไปเลย เขาไม่ขาดการเสริมพลังแค่นั้นอยู่แล้ว

…….

‘ดูท่าคงจะเลี่ยงฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แล้ว’

เสิ่นเทียนถอนหายใจ ‘แผนการในตอนนี้คงได้แต่ให้วงรัศมีเป็นสีเขียวเร็วที่สุด’

มีเพียงให้เป็นสีเขียวเร็วที่สุด กระทั่งจากเขียวเป็นแดงเท่านั้นถึงจะแบกรับฐานะนี้ไว้ได้

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ออกจากยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ มุ่งตรงไปยังทะเลสาบกระจกจันทราที่อยู่ใกล้ๆ โลกเล็ก

เขายังจำได้ว่าทะเลสาบกระจกจันทรานั้นมีหนุ่มน้อยผมทองตาหยีอยู่คน คนนั้นช่วยเขาให้เป็นสีเขียวได้!

…….

บึ้ม!

เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นบนทะเลสาบกระจกจันทราอีกแล้ว

ละอองน้ำสีขาวละลายเป็นหมอกขาวเต็มฟ้าภายใต้การกระตุ้นของสายฟ้าและอุณหภูมิสูง ภายใต้การส่องสะท้อนของดวงตะวัน หมอกขาวพวกนั้นส่องสะท้อนเป็นสีสันหลากสีราวกับสายรุ้ง

ฉินอวิ๋นตี๋ถอนหายใจด้วยความจนปัญญาอยู่กลางหมอกขาวไร้ที่สิ้นสุด “เฮ้อ อานุภาพยังอ่อนไปหน่อย”

ใช่ ฉินอวิ๋นตี๋ยังทำการศึกษายันต์อัสนีรูปแบบใหม่ ทั้งยังทดลองอย่างต่อเนื่อง ทุกการระเบิดคือการละลายเงินทุนจำนวนมากลงทะเลสาบกระจกจันทรา

แม้จะเป็นศิษย์สายตรงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ยังปวดใจ

ถึงอย่างไรยันต์ที่บรรจุวิชาอัสนีจะใช้กระดาษธรรมดามาวาดไม่ได้

ยันต์แบบนี้มีแต่ต้องใช้กระดาษวิญญาณที่ทำขึ้นจากหนังสัตว์อสูรถึงจะเขียนได้ ทั้งยังมีอัตราพลาดไม่น้อย

ฉินอวิ๋นตี๋แทบจะใช้ทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดมาซื้อกระดาษวิญญาณกับน้ำหมึกวิญญาณโลหิตอสูร ก็ยังพอใช้ในการทดลองเพียงไม่กี่ครั้ง

จนจบการทดลองหลายครั้งแล้ว เขาต้องกลับไปตั้งใจเขียนยันต์ต่อ เอาออกไปขายหาเงิน

“มันพลาดที่ใดกันแน่ เห็นๆ อยู่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อานุภาพไปไกลไม่ได้อยู่แค่นี้นี่!”

ฉินอวิ๋นตี๋ขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาตี่ฉายแววกังวลไม่อาจปกปิดได้

ใช่ การวิจัยของเขาเจอคอขวด ทั้งยังไม่มีต้นสายปลายเหตุ

…….

เคยมีครั้งหนึ่งที่เขาจุดชนวนยันต์ระเบิดอัสนีแล้วมีอานุภาพสูงจนน่าตกใจ

แต่จากนั้นฉินอวิ๋นตี๋ก็ปรับแก้ยันต์อย่างจริงจัง หมายจะให้ออกมาสุดยอดปาฏิหาริย์แบบครั้งนั้นอีก ปรากฏว่าทุกครั้งก็ไม่มีดีอะไรเลย ไม่อาจเทียบกับอานุภาพที่ทำแบบตามอำเภอใจครั้งนั้นได้เลย

ฉินอวิ๋นตี๋ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ใด เห็นๆ อยู่ว่าทุกครั้งหลังจากนั้น เขาจริงจังกว่าครั้งนั้นอีก!

ความรู้สึกที่เห็นประตูแห่งแสงอรุณใหม่แต่ไม่อาจเข้าใกล้และเจาะลึกทำให้เขาเป็นทุกข์มาก

“เฮ้อ ใช้ศิลาวิญญาณที่สะสมจากการขายยันต์ระเบิดอัสนีมาทั้งเดือนไปเกือบหมดอีกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน