บทที่ 101 ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเซียนรุ่นสอง
อีกด้าน เสิ่นเทียนลอยออกจากวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วก็งุนงงไปหมด
ดังนั้นก็เลยจบแบบนี้ ข้าได้อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมาอย่างน่าประหลาดหรือ
แม้ได้เป็นศิษย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่เลว มีความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหลายส่วน แต่เสิ่นเทียนคิดว่าอาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่พึ่งพาไม่ได้นิดๆ ทั้งยังเหมือนหูไม่ค่อยดีด้วย
เขามองเกราะเต่าดำสีดำและยังมีลายดอกไม้ในมือก่อนจะหยิบค้อนม่วงทองออกมาจากแหวนเวหา
อืม~
มือซ้ายถือเกราะเต่าดำ มือขวาถือค้อนม่วงทอง เสิ่นเทียนมักจะรู้สึกคลับคล้ายว่าเคยเห็นลักษณะแบบนี้มาก่อน
ลูกพี่บางคนในโลกภายนอกยกค้อนไม่ขึ้นเลยไปแอบฝึกฝนชุดกระบวนท่ามาหรือ
แปลก ไม่รู้ว่าเกราะของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่เทียบกับเกราะของเขาแล้วใครแกร่งกว่ากัน!
แต่ต้องบอกว่าถือเกราะเต่าดำนี่ในมือแล้ว รูปทรงมันก็ยังดูดีมาก
ส่วนการสวมไว้ที่ตัวแบบที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บอก จะเสริมความเร็วในการฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำนั้น
ข้อเสนอนี้เสิ่นเทียนมองข้ามไปเลย เขาไม่ขาดการเสริมพลังแค่นั้นอยู่แล้ว
…….
‘ดูท่าคงจะเลี่ยงฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แล้ว’
เสิ่นเทียนถอนหายใจ ‘แผนการในตอนนี้คงได้แต่ให้วงรัศมีเป็นสีเขียวเร็วที่สุด’
มีเพียงให้เป็นสีเขียวเร็วที่สุด กระทั่งจากเขียวเป็นแดงเท่านั้นถึงจะแบกรับฐานะนี้ไว้ได้
พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ออกจากยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ มุ่งตรงไปยังทะเลสาบกระจกจันทราที่อยู่ใกล้ๆ โลกเล็ก
เขายังจำได้ว่าทะเลสาบกระจกจันทรานั้นมีหนุ่มน้อยผมทองตาหยีอยู่คน คนนั้นช่วยเขาให้เป็นสีเขียวได้!
…….
บึ้ม!
เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นบนทะเลสาบกระจกจันทราอีกแล้ว
ละอองน้ำสีขาวละลายเป็นหมอกขาวเต็มฟ้าภายใต้การกระตุ้นของสายฟ้าและอุณหภูมิสูง ภายใต้การส่องสะท้อนของดวงตะวัน หมอกขาวพวกนั้นส่องสะท้อนเป็นสีสันหลากสีราวกับสายรุ้ง
ฉินอวิ๋นตี๋ถอนหายใจด้วยความจนปัญญาอยู่กลางหมอกขาวไร้ที่สิ้นสุด “เฮ้อ อานุภาพยังอ่อนไปหน่อย”
ใช่ ฉินอวิ๋นตี๋ยังทำการศึกษายันต์อัสนีรูปแบบใหม่ ทั้งยังทดลองอย่างต่อเนื่อง ทุกการระเบิดคือการละลายเงินทุนจำนวนมากลงทะเลสาบกระจกจันทรา
แม้จะเป็นศิษย์สายตรงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ยังปวดใจ
ถึงอย่างไรยันต์ที่บรรจุวิชาอัสนีจะใช้กระดาษธรรมดามาวาดไม่ได้
ยันต์แบบนี้มีแต่ต้องใช้กระดาษวิญญาณที่ทำขึ้นจากหนังสัตว์อสูรถึงจะเขียนได้ ทั้งยังมีอัตราพลาดไม่น้อย
ฉินอวิ๋นตี๋แทบจะใช้ทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดมาซื้อกระดาษวิญญาณกับน้ำหมึกวิญญาณโลหิตอสูร ก็ยังพอใช้ในการทดลองเพียงไม่กี่ครั้ง
จนจบการทดลองหลายครั้งแล้ว เขาต้องกลับไปตั้งใจเขียนยันต์ต่อ เอาออกไปขายหาเงิน
“มันพลาดที่ใดกันแน่ เห็นๆ อยู่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อานุภาพไปไกลไม่ได้อยู่แค่นี้นี่!”
ฉินอวิ๋นตี๋ขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาตี่ฉายแววกังวลไม่อาจปกปิดได้
ใช่ การวิจัยของเขาเจอคอขวด ทั้งยังไม่มีต้นสายปลายเหตุ
…….
เคยมีครั้งหนึ่งที่เขาจุดชนวนยันต์ระเบิดอัสนีแล้วมีอานุภาพสูงจนน่าตกใจ
แต่จากนั้นฉินอวิ๋นตี๋ก็ปรับแก้ยันต์อย่างจริงจัง หมายจะให้ออกมาสุดยอดปาฏิหาริย์แบบครั้งนั้นอีก ปรากฏว่าทุกครั้งก็ไม่มีดีอะไรเลย ไม่อาจเทียบกับอานุภาพที่ทำแบบตามอำเภอใจครั้งนั้นได้เลย
ฉินอวิ๋นตี๋ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ใด เห็นๆ อยู่ว่าทุกครั้งหลังจากนั้น เขาจริงจังกว่าครั้งนั้นอีก!
ความรู้สึกที่เห็นประตูแห่งแสงอรุณใหม่แต่ไม่อาจเข้าใกล้และเจาะลึกทำให้เขาเป็นทุกข์มาก
“เฮ้อ ใช้ศิลาวิญญาณที่สะสมจากการขายยันต์ระเบิดอัสนีมาทั้งเดือนไปเกือบหมดอีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน