ทว่าหลังจากรวมฐานรากมรรคขึ้นมาแล้ว พลังของเสิ่นเทียนก็ยกระดับจากพลังวิญญาณเป็นพลังฤทธิ์ ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เขารู้สึกว่ามหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุตรงระหว่างคิ้วของตนมีปฏิภาณมากขึ้นด้วย
เขาหลับตาลงช้าๆ แสงสีทองตรงระหว่างคิ้ววูบไหว
“ทะลวง!”
สองมือประสานมุทราห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตะโกนเสียงดัง
สายฟ้าสีทองพลันกระโดดออกมาจากระหว่างคิ้วของเขา ส่งแสงทองออกไปราวกับเบิกเนตรสวรรค์ ส่วนผิวกายของเขาก็รวมออกมาเป็นสายฟ้าหลายต่อหลายสายเช่นกัน
สายฟ้าเหล่านี้เป็นสีทอง เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์และงดงาม
เสิ่นเทียนรู้สึกได้ถึงความแกร่งและสูงสุดจากแก่นรากสายฟ้าชนิดนี้
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ค้อนสีม่วงทองทุกส่วนปรากฏขึ้นที่มือขวา
สายฟ้าสีทองแล่นผ่านมือเสิ่นเทียน หลั่งไหลเข้าไปกลางค้อนม่วงทอง ทำให้ทั้งค้อนเปล่งแสงระยิบระยับ
ตอนนี้ควบคุมพลังฤทธิ์ได้ ควบคุมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าได้ เขารู้สึกว่าค้อนม่วงทองเปลี่ยนไปในมือของตน
เขาเหมือนรู้สึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของค้อนม่วงทอง ค้อนเทพที่ลดระดับจากสมบัติวิญญาณชิ้นนี้เหมือนกำลังคืนชีพ
มันผสานรวมกับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้า แสงสีม่วงทองบนเปลือกนอกแกร่งขึ้นอย่างเร็วไว ตัวค้อนก็ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ไม่นาน ค้อนม่วงทองจากตอนแรกที่มีขนาดราวหนึ่งฉื่อพลันใหญ่จนมีขนาดสูงเท่าคน ดูบ้าอำนาจ
“น่าสนใจ ดังนั้นนี่คือร่างจริงของเจ้าหรือ?”
เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ใช้สองมือกำค้อนม่วงทองแน่นแล้วชูขึ้นโดยพลัน
สายฟ้าสีทองแตกกระจายใส่ค้อนม่วงทองกับร่างเสิ่นเทียน ตอนนี้เขาเหมือนกับเทพสายฟ้าลงมาจุติ
เสิ่นเทียนพลันกระโดดลงจากหินตระหนักรู้ พร้อมกับปาค้อนยักษ์กระแทกลงพื้นด้านข้าง คลื่นลมกระแทกใต้หล้า
บึ้ม!
ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่น ค้อนม่วงทองกระแทกลงพื้นอย่างแรง
วินาทีต่อมา พื้นแตกออกเป็นแสงสว่าง กระจายออกดั่งคลื่นน้ำ
ยอดค่ายกลป้องกันยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ปกป้องทุกหย่อมหญ้าบนยอดเขาไว้ เมื่อเปิดยอดค่ายกลป้องกันภูเขา แม้แต่ผู้บำเพ็ญระดับแก่นพลังทองยังยากจะทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้บนพื้น
ทว่าเสิ่นเทียนปาค้อนลงมา กลับกระแทกออกเป็นหลุมดินใหญ่เท่าอ่างล้างหน้าชัดเจน
นี่หมายความว่าอะไร
หมายความว่าค้อนเมื่อครู่นี้มีพลังทำลายล้างเหนือกว่ายอดฝีมือผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองมาก หากอานุภาพเช่นนี้แพร่งพรายออกไป จะทำให้ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานนับไม่ถ้วนตื่นตกใจ นี่มันจะไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว!
แน่นอน หลังปาค้อนออกไป เสิ่นเทียนก็พลังหมดโดยไม่เหนือความคาดหมายใดๆ อีกครั้ง
ค้อนม่วงทองหดกลับมาขนาดเท่าเดิมช้าๆ เสิ่นเทียนค่อยๆ นั่งยองลง
‘โอย ไม่ไหว เสียพลังวิญญาณมากไป เหนื่อยนิดๆ เลย’
ดูท่าทางการปะทุอัสนีเทพกำเนิดฟ้าทั้งหมดมาเสริมการต่อสู้จะยังกินแรงเล็กน้อย เอาไว้ใช้เป็นไพ่ตายแล้วกัน!
เสิ่นเทียนตรึกตรองเงียบๆ ในใจ ทว่ามีไพ่ตายเพิ่มมาใบหนึ่งก็ยังดีกว่าไม่มี
คิดๆ ดูแล้ว หากศัตรูที่ชำนาญความเร็วบางพวกหลบการโจมตีระยะไกลของกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้ากับปืนหยินหยางพิฆาตอสูรได้ จนเมื่อเข้าประชิดตัวเสิ่นเทียนอย่างบ้าคลั่งด้วยการเฝ้ารอคอยและดีใจในชัยชนะ เตรียมจะบุกเข้ามาอีกระลอก กลับต้องพบเรื่องน่าสิ้นหวังคืออีกฝ่ายไม่ใช่สายแครี่ แต่เป็นไฟต์เตอร์กึ่งแทงค์
ตอนนั้นสภาพจิตใจฝ่ายตรงข้ามจะต้องระเบิดตูมแน่
‘ความจริงข้าเล่นแทงค์เก่งที่สุด
ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือไม่?’
เสิ่นเทียนเก็บค้อนม่วงทองแล้วหยิบศิลาวิญญาณจากแหวนเวหาออกมาฟื้นพลัง
ตอนนี้เอง มีคลื่นส่งมาจากป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ มีศิษย์ส่งคำร้องขอเข้าภูเขา
เสิ่นเทียนส่งพลังฤทธิ์เข้าไปในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้นป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็สะท้อนภาพข้อมูลทั้งหมดออกมากลางอากาศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน