หลังจากเขาถูกโยนออกมาจากหอจันทร์รุ้ง ไม่นานก็เป็นที่สนใจของคนที่สัญจรไปมา
“นี่มันจ้าวเฮ่านี่! เจ้านี่มาหอจันทร์รุ้งอีกแล้ว จะดื่มเหล้าทรราชรึ”
“นอกจากเขาแล้วยังมีใครอีก เฮ้อ เมื่อก่อนเป็นโอรสสวรรค์หนุ่มที่มีปณิธานยิ่งใหญ่ น่าเสียดายจริงๆ”
“ช่วยไม่ได้ หนทางเซียนก็เช่นนี้แหละ อัจฉริยะในอดีตก็อาจจะกลายเป็นขยะได้ จะโทษก็โทษที่เขาดวงซวยเถอะ”
“ตอนนี้จ้าวเฮ่าดูอนาถามากเลยนะ! นี่ใช่บุตรชายคนโตขององค์ชายฉู่เทียนโหว ว่าที่พระราชบุตรเขยแห่งอาณาจักรหมอกลับแลของเราในตอนนั้นจริงๆ หรือ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่เทียนโหวหายสาบสูญไปในสนามรบบรรพกาล บางทีจ้าวเฮ่าอาจจะไม่ธาตุไฟเข้าแทรกสูญสิ้นพลังไปทั้งหมดก็ได้”
“ในโลกมีคำว่าถ้าหากที่ไหนกัน ความจริงในตอนนี้คือเขาเป็นคนพิการแล้ว กระทั่งโดนถอนหมั้น”
“ได้ยินว่ากิจการของตระกูลจ้าวโดนตระกูลอื่นฮุบเอาไปหมด ไม่เหลือให้เขาสักอย่างเลย”
“เหอะๆ อาจจะเป็นเพราะว่าตอนตระกูลเฮ่ารุ่งเรืองได้ก่อกรรมทำชั่วเอาไว้ กรรมเลยตามสนองแล้วล่ะสิ!”
…..
กลุ่มคนสัญจรเป็นพวกเย็นชาและเฉยชาเสมอ มองเรื่องสุขทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องสนุกตอนดื่มน้ำชาหลังมื้ออาหาร
ตอนนี้กลุ่มคนสัญจรพวกนั้นเห็นจ้าวเฮ่าเมามายก็ชี้นั่นชี้นี่วิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ไม่มีใครยื่นมือไปช่วยประคอง
เสิ่นเทียนถอนหายใจก่อนเดินไปหาจ้าวเฮ่าช้าๆ แล้วยื่นมือประคองเขา “สหาย อย่านอนที่พื้นสิ”
จ้าวเฮ่าลืมตาสะลึมสะลือมองเสิ่นเทียน “โอ้ว ดี~ สาวน้อยน่ารักมากเลย”
เสิ่นเทียนงุนงง
เสิ่นเทียนสาบานว่าถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้านี่เมาจนไม่รู้เรื่องละก็ เขาจะต้องฟาดค้อนม่วงทองไปสักที!
ก็ได้!
ความจริงสาเหตุหลักๆ คือดวงชะตาของเจ้าเด็กที่ดูมอมแมมในมอมแมมอีกทีนี่ค่อนข้างน่าตกใจ
บุพการีสิ้นชีพทั้งคู่ พลังบำเพ็ญสูญสิ้น กิจการตระกูลถูกแย่งไป ทั้งยังโดนองค์หญิงถอนหมั้น
นิยายแนวพระเอกเป็นขยะแต่ได้โชควาสนาจนยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เริ่มขึ้นแล้ว คนกระจอกพลิกฟ้าฆ่าดวงตะวันข้ามทะลวงนภา!
อีกอย่างวงรัศมีดวงชะตาที่เสิ่นเทียนเห็นบนศีรษะของเจ้านี่ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ
วงรัศมีเหนือศีรษะของเจ้านี่พิเศษมาก เป็นสีดำครึ่งหนึ่งกับสีทองครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้เสิ่นเทียนยังเห็นชัดเจนว่าวงรัศมีสีดำเหนือศีรษะเจ้านี่กำลังถูกสีทองปกคลุม
เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าวงรัศมีแบบนี้หมายถึงอะไร แต่ตามการคาดเดาของเขา น่าจะมีความหมายว่าเมื่อเรื่องราวเลวร้ายถึงขีดสุดก็จะพลิกผันกลับมาดีขึ้น
ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนเพิ่งเคยเห็นวงรัศมีแบบนี้เป็นครั้งแรก มีคุณค่าทางด้านการศึกษาที่สำคัญสำหรับเขา
ด้วยเหตุนี้ สหายอนาถาที่จะดื่มเหล้าคนนี้ เขาเสิ่นเทียนรับจบเอง!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “สหาย ข้าเลี้ยงสุราเจ้าสักแก้วดีหรือไม่[1]”
ดื่มสุราหรือ
เมื่อได้ยินว่าเสิ่นเทียนจะเลี้ยงสุราตน จ้าวเฮ่าก็แสยะปาก “ขะ…ขอบคุณที่ท่านเซียนใจป้ำ!”
เสิ่นเทียนงุนงง
จางอวิ๋นซีข้างกายทนมองต่อไปไม่ได้จริงๆ จึงเดินดั่งมังกรพยัคฆ์มาหน้าจ้าวเฮ่า “เจ้าหนู เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
จ้าวเฮ่ามองจางอวิ๋นซีแล้วโบกไม้โบกมือ “สหายอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้จะลวนลามคู่ชีวิตเจ้านะ ก็ท่านเซียนบอกว่าจะเลี้ยงสุราข้า ถ้าไม่อย่างนั้นก็รอข้าลงโทษตัวเองสามแก้วก่อน ให้ทุกอย่างมันจบในสุรา! เอิ๊ก~”
พูดจบ จ้าวเฮ่าก็หรี่ตาเรอออกมา กลิ่นสุราโชยเข้ามาอย่างรุนแรง
…..
เห็นจางอวิ๋นซีกัดฟันกรอดด้วยความโมโหแล้ว เสิ่นเทียนจึงลากจ้าวเฮ่าเข้าไปในหอจันทร์รุ้งด้วยความจำใจ
ไม่ไปไม่ได้แล้ว ขืนให้เจ้านี่มาสหายพี่น้องอะไรกับจางอวิ๋นซีอีก เกิดแม่นางพยัคฆ์โมโหขึ้นมาล่ะจะทำอย่างไร
สองคนนี้หนึ่งเป็นนักรบขึ้นคานวงรัศมีสีทอง อีกคนเป็นว่าที่พระเอกครึ่งดำครึ่งทอง ล้วนเป็นบุตรแห่งโชคที่วิถีสวรรค์เอาใจใส่
เดี๋ยวเทพเซียนทุบตีคนธรรมดาจะเกิดหายนะ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเสิ่นเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน