จ้าวเฮ่ามองสีหน้า ‘จริงจัง’ ของเสิ่นเทียนพลางใจสั่นไหว เกิดความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง
ตั้งแต่เขาธาตุไฟเข้าแทรกจนสิ้นพลังบำเพ็ญทั้งหมด ยังไม่เคยมีใครจริงใจและไม่เห็นแก่ตัวกับเขาเช่นนี้มาก่อน
แม้จ้าวเฮ่าจะไม่เคยฝึกฝนวิชาเซียนเกี่ยวกับการทำนายมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินมาว่าการทำนายความลับสวรรค์ทุกแขนงล้วนฝืนต่อสวรรค์
ต่อให้เป็น ‘การค้นวิญญาณประเมินแร่’ ที่พื้นฐานที่สุดในการทำนายความลับสวรรค์ก็ยังโดนวิถีสวรรค์เกลียดชัง กระทั่งวัยชราอาจจะเจอกับโรคภัยกลายเป็นหิน
การส่องหินแร่วิญญาณหรือชีพจรวิญญาณของภูมิประเทศเทือกเขายังถูกแว้งกัดได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการส่องชะตาชีวิตของคนหนึ่ง
ปกติถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ กัน ใครจะยอมโดนวิถีสวรรค์แว้งกัดช่วยเปลี่ยนชะตาให้เจ้าโดยไม่ได้รับผลตอบแทนกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้จ้าวเฮ่าก็พูดด้วยดวงตาร้อนผ่าว “สหาย แซ่จ้าวพิกลพิการเช่นนี้ ควรค่าให้เจ้าฝืนสวรรค์ทำนายชะตาให้รึ”
เสิ่นเทียนยิ้ม “ช่วยไม่ได้ ข้ากับสหายจ้าวเพิ่งเจอกันแต่ดวงสมพงศ์กัน มองปราดเดียวก็รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คน…ไม่ใช่คนธรรมดา สหายจ้าวเจ้าโดดเด่นองอาจห้าวหาญ รอบกายมีร่างจำแลงมังกรสวรรค์ทรงอำนาจคอยปกป้องอยู่ลับๆ ภายภาคหน้าจะต้องเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์แห่งยุคจนไม่อาจกล่าวได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้พลังบำเพ็ญเจ้าสูญสิ้นเป็นแค่มังกรหลับบนชายน้ำตื้นเท่านั้น เมื่อไรที่ลงมหาสมุทรอีกครั้ง จะมาพร้อมกับคลื่นยักษ์หมื่นลี้ร้องคำรามด้วยความโอหังดังสวรรค์เก้าชั้น!”
เสิ่นเทียนพูดพร้อมกับดึงจ้าวเฮ่า “สหายจ้าว ข้าทำนายทิศทางการฝืนสวรรค์เปลี่ยนชะตาให้เจ้าได้แล้ว ตามข้ามา!”
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนลากจ้าวเฮ่าพุ่งไปทางตะวันออกของเมืองเล็กหมอกลับแลแล้ว รอยยิ้มของจางอวิ๋นซีค่อยๆ แข็งค้าง
นัยน์ตาฉินอวิ๋นตี๋เต็มไปด้วยความเลื่อมใส ไม่นึกเลยว่าศิษย์พี่จะไม่ได้แค่ชำนาญมหามรรคหยินหยางทวนวารี แต่ยังฝึกควบวิถีแห่งการทำนายความลับสวรรค์อันลึกล้ำด้วย
สมกับเป็นศิษย์พี่ พรสวรรค์ความปราดเปรื่องเช่นนี้ มิน่าแม้แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยังคิดว่าเขาจะนำพาให้แดนศักดิ์สิทธิ์ของเราให้ยิ่งใหญ่ขึ้น!
ฉินเกาถอนหายใจโล่งอก แม้องค์ชายจะยังไม่มีคู่ครอง แต่ก็เหมือนจะสนิทกับจ้าวเฮ่ามาก
แบบนี้…ก็ดีเหมือนกัน
ทางด้านกุ้ยกงกงเหมือนนึกอะไรออกจึงทำหน้าเข้าใจแจ่มแจ้ง
มิน่าช่วงนี้องค์ชายถึงทำตัวแปลกๆ เช่นนี้ ทั้งค้นพบคัมภีร์มารสู่สุริยันในหออักษรหลวงอย่างน่าประหลาด และยังอ่านหินแร่วิญญาณออกอีก
ที่แท้องค์ชายก็ฝึกฝนวิถีแห่งการทำนายความลับสวรรค์ที่สูงส่งและลึกล้ำอย่างยิ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเรียนมาจากผู้สูงส่งท่านใด
ซี้ด หรือว่าในตำหนักใจพิสุทธิ์จะมีสุดยอดผู้สูงส่งที่ลึกลับไม่อาจคาดเดาได้ซ่อนตัวอยู่ตลอด
ที่แท้องค์ชายก็มีผู้สูงส่งคอยปกป้องมาตลอด มิน่าธาตุไฟเข้าแทรกแปดสิบแปดครั้ง ถึงได้รอดพ้นมาได้ทุกครั้ง
มี ‘อาจารย์’ ลึกลับท่านนั้นปกป้องอยู่ ภายภาคหน้าองค์ชายถือว่าปลอดภัยแล้ว หากพระสนมหลานในแดนปรโลกรู้เข้าจะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน
ขอไม่เอ่ยถึงความคิดหลากหลายในใจเจ้าพวกนี้แล้วกัน ความคิดในใจเสิ่นเทียนง่ายมาก นั่นคือเกาะจ้าวเฮ่าไปตามภาพโชคลิขิต
ในภาพโชคลิขิตนั้น เขาเห็นจ้าวเฮ่าไหว้มารดากลางหุบเขาแห่งหนึ่งทางชายแดนตะวันออกของเมืองหมอกลับแล ปรากฏว่าโดนดาวตกจากฟ้าพุ่งใส่ตรงๆ
หลังจากทะลวงระดับสร้างฐานสำเร็จ เสิ่นเทียนก็มีพลังจิตเพิ่มมา ความจำเหนือกว่าคนธรรมดาที่ไม่เคยฝึกบำเพ็ญหลายเท่า จำรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ
เขาพาจ้าวเฮ่ามาตามการคาดเดาทิวทัศน์ภูเขาและแม่น้ำตามภาพตรงชายแดนตะวันออกของเมืองหมอกลับแล ไม่นานก็มาถึงหุบเขาสวยงามลูกนั้น
ช่วงที่เดินเข้าหุบเขานั้น จ้าวเฮ่าสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “สหายเสิ่น เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหลุมศพมารดาข้าอยู่ที่นี่”
เสิ่นเทียนตอบนิ่งๆ “สหายจ้าวมีปัญจธาตุไฟ มีรูปแบบชะตามังกรชาด ต้องใช้พลังชีวิตแห่งธาตุไม้เสริมกัน ข้าเคยทำนายว่าที่นี่กับสหายจ้าวมีกรรมทางสายเลือดที่ไม่อาจตัดขาด ซึ่งนี่คือแดนผาสุกที่จะปลุกสหายจ้าวให้ตื่นพุ่งทะยานขึ้นฟ้า”
เสิ่นเทียนเดินไปกลางหุบเขาอย่างสงบนิ่ง ก่อนมาหยุดหน้าหลุมศพที่มีช่อไม้ดอกระย้าสีสันสวยงาม นั่นคือหลุมศพของมารดาจ้าวเฮ่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน