ตอน บทที่ 136 เจ้าผู้ปกครองแห่งดินแดนทักษิณ ราชินีหงส์อมตะ จาก บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 136 เจ้าผู้ปกครองแห่งดินแดนทักษิณ ราชินีหงส์อมตะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนโบราณ บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“พวกมนุษย์สมควรตาย บังอาจสังหารบุตรชายข้า บัดซบ!”
เสียงคำรามแหลมเล็กดังกังวานไปรอบๆ หมื่นลี้ ก่อนปักษาเทพสีทองตัวมหึมาจะพุ่งขึ้นฟ้า
มันกางสองปีกใหญ่พันจั้ง ทุกส่วนเหมือนหลอมขึ้นจากทองคำเทพ ส่องแสงวาววับใต้แสงตะวัน บดบังดวงตะวัน
นี่คือปักษาโหดเหี้ยมน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งตัวหนึ่ง ทั่วร่างลุกโชตช่วงด้วยเปลวไฟเทพสีแดงอมทอง มวลอากาศบริเวณรอบๆ กรงเล็บคมกริบแตกกระจาย ไม่อาจรับอานุภาพของมันไหว
นี่คือผู้อาวุโสสามแห่งเผ่าปักษาสวรรค์ และเป็นหนึ่งในเจ้าผู้ปกครองสูงสุดของเทือกเขาปักษาสวรรค์ เป็นยอดฝีมือที่สุดแห่งยุคของทั้งดินแดนทักษิณ!
ต้องรู้ว่าผู้อาวุโสของเผ่าอสูรกับผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ต่างกัน พวกมันถูกจำกัดให้เป็นผู้อาวุโสไปตลอดชีวิต ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกันถ้ายังไม่มีเผ่ามนุษย์แข็งแกร่งกว่าพวกมัน พวกมันก็จะเป็นผู้คุมอำนาจในเผ่าพันธุ์ตลอด
การจำกัดเช่นนี้ต่างกับจำกัดการเปลี่ยนอำนาจทุกพันปีของแดนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ แต่นี่ก็ทำให้เผ่าอสูรมีการแย่งชิงมากกว่าเช่นกัน
กล่าวได้ว่าปักษาเทพตัวนี้รับฐานะผู้อาวุโสสามอันสูงส่งในเผ่าปักษาได้ นั่นหมายความว่ากำลังรบของมันอยู่ห้าอันดับแรกในเผ่าปักษา
นอกจากราชาของเผ่าปักษาเทพ ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสรองแล้ว กำลังรบของมันแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปักษา
กระทั่งตอนนั้นมันยังเคยก่อกรรมทำชั่วในดินแดนบูรพา ฉีกร่างผู้อาวุโสสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์สักแห่งเอามากินอย่างมีความสุข
พูดได้ว่านี่คือเจ้าผู้ปกครองที่ทำชั่วอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด และจะยอมโดนเอาเปรียบไม่ได้เด็ดขาด!
ทันทีที่ได้ข่าวว่าบุตรชายของตนถูกผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสังหารและเอามาย่างกินต่อหน้าทุกคนนั้น มันก็โมโห
มันสยายปีกมหึมาจะบุกไปแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แห่งดินแดนบูรพาทันที จะใช้เลือดเนื้อของผู้อาวุโสเทพสวรรค์จำนวนมากมาเซ่นไหว้ให้บุตรชายตนที่สิ้นชีพไป
บึ้ม~!
ปีกยักษ์สีทองหลายพันจั้งขยับกระพือ ก่อให้เกิดพายุหมุนน่าสะพรึงอย่างยิ่งขึ้น ผ่านไปที่ใดแม้แต่แผ่นดินยังถูกไถเป็นร่องลึก
ผู้อาวุโสสามแห่งเผ่าปักษามีความเร็วสูงสุดของเผ่าปักษาสวรรค์ สยายสองปีกทียังพุ่งไปได้ไกลหมื่นลี้ ราวกับดวงตะวันทองคำทะลวงอากาศไป
ในเวลาสั้นๆ มันก็บินข้ามชายแดนไร้ที่สิ้นสุดมุ่งหน้าไปดินแดนบูรพา
ทว่าตอนนี้เองพลันปรากฏม่านเปลวเพลิงสีแดงหมื่นจั้งขึ้นมาขวางหน้ามันเอาไว้
นัยน์ตาผู้อาวุโสสามแห่งเผ่าปักษาฉายแววเสียใจระคนโมโห “องค์ราชินี ข้าอยากจะแก้แค้นให้บุตรชาย ขอให้ท่านอย่าขวางข้าเลย!”
เปลวเพลิงสีแดงกลางมวลอากาศรวมออกมาเป็นหงส์เพลิงร่างมหึมาอย่างยิ่งตัวหนึ่ง ทั่วร่างมีประกายแสงเซียนเข้มข้นวนเวียน ราวกับหงส์เซียนลงมาเยือน
“ไม่เจียมตัว!”
เสียงผู้หญิงดังมาจากเปลวเพลิงประกายเซียน สุภาพเยือกเย็นและสูงศักดิ์ เย็นชาและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม ทำให้ในใจคนอดเกิดความคิดอยากจะกราบไหว้มิได้
ร่างจำแลงหงส์เพลิงตัวนี้คือนางพญาอสูรสูงสุดของดินแดนทักษิณ เป็นผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งของเผ่าหงส์ที่ควบคุมทั้งป่าแห่งนิพพาน…ราชินีหงส์อมตะ
นางกำเนิดในยุคโบราณเมื่อหมื่นปีก่อน เมื่อพันปีก่อนผงาดขึ้นในสงครามศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ ผ่านร้อยสงครามไม่สิ้นชีพจนบรรลุนิพพานเป็นผู้อริยะ
ในสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้น ขุมอำนาจมากมายพลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส แต่เผ่าหงส์อมตะกลับยิ่งสู้ยิ่งแกร่งขึ้นภายใต้การนำของนาง จวบจนถึงตอนนี้ สงครามศักดิ์สิทธิ์ผ่านไปหมื่นปี ป่าแห่งนิพพานยังพัฒนาขึ้นเป็นขุมอำนาจที่แกร่งที่สุดของทั้งเผ่าอสูรแดนทักษิณ
ทางด้านราชินีหงส์อมตะยังกลายเป็นราชินีไร้มงกุฎของทั้งเผ่าอสูรแดนทักษิณ บัญชาการทั้งเผ่าหงส์อมตะ ควบคุมดูแลแดนทักษิณมากกว่าครึ่ง
อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสสามของเผ่าปักษาสวรรค์เลย แม้แต่เจ้าเผ่าปักษาสวรรค์ที่อยู่ขั้นปักษาอริยะเจ็ดด่านเคราะห์คนนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าราชินีหงส์ยังไม่กล้าบุ่มบ่าม
นางพูดเสียงเย็นชาว่า “ข้าเคยพูดไว้ว่าให้พักฟื้นพลังชีวิตในหมื่นปี ผู้อริยะแห่งแดนทักษิณห้ามออกจากดินแดน เจ้ากำลังสงสัยข้าอยู่รึ”
คำพูดของราชินีหงส์อมตะไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ แต่กลับทำให้ผู้อาวุโสสามที่กำลังพุ่งขึ้นฟ้าด้วยความโมโหหนาวสั่น
เขารีบพูดว่า “ข้ามิได้จะต่อต้านปณิธานขององค์ราชินีแน่นอน แต่ข้าอยู่ร่วมโลกกับคนที่มันสังหารบุตรชายข้าไม่ได้”
“ดูท่าข้าไม่ได้ลงมือมาหลายพันปี พวกเจ้าคงเมินอำนาจของข้ากันแล้ว โง่เขลา!”
เสียงเย็นชาดังขึ้น หงส์เพลิงตัวนั้นพลันกลายเป็นตาข่ายใหญ่เปลวเพลิงสีแดง เมื่อตาข่ายใหญ่เปลวเพลิงโผล่มา แม้แต่มวลอากาศยังสั่นสะเทือน ถูกลากออกเป็นรอยแยกมวลอากาศมากมาย
ร่างของผู้อาวุโสสามแห่งเผ่าปักษากระโดดข้ามชายแดนทักษิณไปแล้ว อีกวินาทีเดียวก็จะข้ามเข้าดินแดนบูรพา ทว่าวินาทีนั้นเอง ตาข่ายเทพเพลิงสีแดงมาโผล่ตรงหน้าปักษาทองยักษ์โดยพลัน ก่อนจะคลุมร่างปักษาทองเอาไว้ทั้งหมด
“องค์ราชินี ข้าไม่ยอม เผ่ามนุษย์รังแกข้าเช่นนี้ พวกข้าจะไม่ล้างแค้นได้อย่างไร”
ปักษาทองตัวมหึมาดิ้นไม่หยุด ใช้กรงเล็บฉีกตาข่ายใหญ่สุดชีวิต แต่ก็ไม่เกิดผลใดๆ เลย
ราชินีหงส์อมตะเอ่ยเสียงเย็นชา “ผู้อริยะจะเคลื่อนไหวไม่ได้ นี่เป็นสัญญาพันธมิตรระหว่างมนุษย์กับอสูร จะให้สิ้นสุดสัญญาเป็นชนวนก่อสงครามเพราะเจ้าได้อย่างไรกัน
ถ้าจะแก้แค้น ผู้แข็งแกร่งเผ่าปักษาระดับต่ำกว่าผู้อริยะสู้กับเผ่ามนุษย์แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในระดับเดียวกันได้เต็มที่ เป็นตายแล้วแต่สวรรค์ ถ้าเผ่ามนุษย์เอาผู้แข็งแกร่งมารังแกพวกเจ้า ต่อให้เผ่ามนุษย์ส่งจักรพรรดิออกมา ข้าก็จะออกหน้าทำสงครามโลหิตด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้เจ้าฝ่าฝืนกฎของเผ่าอสูร ข้าจะลงโทษปิดผนึกเจ้าพันปี ไปทบทวนตัวเองเสีย!”
เพิ่งสิ้นเสียง ตาข่ายเทพเพลิงมหึมานั่นพลันคุมขังอย่างหนาแน่น ก่อนค่อยๆ กลายเป็นกรงนก หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ส่วนพญาปักษาปีกทองยักษ์พันจั้งนั้นก็กลายเป็นขนาดเท่านกคีรีบูน
กรงนกสีแดงทะลวงมวลอากาศมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของป่าแห่งนิพพานในแดนทักษิณ
ตอนนี้ทั้งแดนทักษิณเงียบกริบ ไม่มีผู้แข็งแกร่งคนใดกล้าออกมาขวาง
แค่ร่างจำแลงก็ผนึกปักษาศักดิ์สิทธิ์ได้ในพริบตา เหมือนกับจับลูกนก
กาลเวลาผ่านมาหลายพันปี ฝีมือของราชินีหงส์กลับยิ่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
นาง…ก็ยังเป็นเจ้าผู้ปกครองแห่งดินแดนทักษิณอยู่ดี!
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน