เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าเซลล์และกล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างของตนถูกพลังงานบริสุทธิ์เติมเต็มเข้ามา
เวลานี้ความเหนื่อยล้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง
และที่สำคัญกว่านั้นคือ หลังจากกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมากแล้ว เสิ่นเทียนเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตนเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย
เขารู้สึกว่าหมอกวิญญาณมีผลกระทบกับพลังจิตน้อยลงไปมาก ขณะเดียวกันการมองเห็นในหมอกวิญญาณก็ยังดีขึ้นมาก
เดิมทีเสิ่นเทียนมองเห็นในหมอกวิญญาณไม่ชัดแม้ห่างไปแค่ห้าลี้ ตอนนี้มองเห็นคร่าวๆ สิบลี้แล้ว
หรือว่าของเหลวของเถาจองจำเซียนจะเป็นปฏิปักษ์กับหมอกวิญญาณ
เสิ่นเทียนดีใจอยู่ภายใน จึงยิ่งสูบกินเถาจองจำเซียนอย่างบ้าคลั่งไปใหญ่
ยามนี้ ร่างของเถาจองจำเซียนนี่หดเล็กลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน และสิ่งที่มหัศจรรย์กว่านั้นคือเห็นๆ อยู่ว่ามันโดนเสิ่นเทียนสูบกินของเหลว แต่มันกลับดิ้นไม่หลุด
ได้แต่มองเสิ่นเทียนสูบกินร่างตนจนกลายเป็นเปลือกว่างเปล่า
เอิ้ก~
ผ่านไปราวห้านาที เสิ่นเทียนเรอออกมา
เถาจองจำเซียนที่โดนสูบจนเหลือแค่เปลือกร่วงลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนมันตายก็ยังคาดไม่ถึงว่าตนจะโดนมนุษย์คนหนึ่งสูบกินจนแห้งตายไปด้วยความคับอกคับใจเช่นนี้
ถ้าสวรรค์ให้โอกาสมันอีกครั้ง มันจะไม่มาล่วงเกินเจ้าตัวประหลาดนี่อีกเด็ดขาด!
“เถาจองจำเซียนนี่ถูกปากมาก ในบรรดาศัตรูทั้งหมด ข้าให้เกียรติเจ้าว่าหวานที่สุด”
เสิ่นเทียนเลียริมฝีปาก เลียของเหลวหยดสุดท้ายตรงมุมปากเข้าไป
เปรี้ยวๆ หวานๆ มีกลิ่นหอมสดชื่นของพืช รสชาติเหมือนสลัดผักนิดๆ ต้องบอกว่าของเหลวของเถาจองจำเซียนนี่ดูไม่อะไร แต่รสชาติไม่เลวเลยจริงๆ
เสิ่นเทียนเก็บเปลือกเถาจองจำเซียนเข้าแหวนเวหาก่อนจะมองเถาจองจำเซียนอีกต้นด้วยแววตาเปล่งแสงอ่อนๆ
เถาจองจำเซียนอีกต้นตัวสั่นอย่างรุนแรง ก่อนจะฉีกรากครึ่งตัวแล้วหนีไปทางหมอกวิญญาณ
ช่วยด้วย มีคนจะกินเถาแล้ว!
เสิ่นเทียนแสยะปากยิ้ม น่าตลกนัก เมื่อครู่บอกว่าเจ้าอย่าล่วงเกินข้าไม่ฟัง ยังจะรัดข้าอีก
ตอนนี้คิดหนีหรือ สายไปแล้ว!
มาอยู่ในปากข้าเสียดีๆ จงถวายแก่นสำคัญทั้งหมดของเจ้าให้กับข้าเถอะ!
จากนั้นเคลื่อนความคิดเรียกปืนปทุมฆาตเทพที่ถูกพันไว้กลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง
เสิ่นเทียนแค่นเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่งก่อนตะโกนเสียงดัง “ชุดเกราะแรดดำปรากฏ!”
หลังจากสูบของเหลวของเถาจองจำเซียนนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกดีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พลังวิญญาณที่เสียไปทั้งหมดก่อนหน้านี้ ยามนี้ฟื้นคืนกลับมาแล้ว อีกทั้งจุดตันเถียนยังขยายใหญ่ขึ้นจนน่าตกใจด้วย
เสิ่นเทียนในตอนนี้ต้องการสงครามที่ถึงอกถึงใจโดยด่วน เพื่อระบายพลังปราณเดิมที่เอ่อล้นจนเกินไปในกาย
ชุดเกราะอัสนีเทพสีดำส่องแสงสว่างปกคลุมร่างเสิ่นเทียน ทำให้เขาองอาจห้าวหาญเหมือนกับแม่ทัพลงมาจากสวรรค์
เขายกปืนปทุมฆาตเทพขึ้นช้าๆ อัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าห่อหุ้มปืนปทุมฆาตเทพช้าๆ
“ขยี้มารปราบจลาจล ทำลายล้างพายุคลั่ง ราบเรียบดั่งสายน้ำกระจก ดูปืนดาวตกของข้า!”
กลิ่นอายพลังสายฟ้าแกร่งกล้าปกคลุมทั่วร่างเสิ่นเทียน ตอนนี้เขาสูงโดดเด่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากชุดเกราะแรดดำคลุมทั่วร่าง รูปทรงของหมวกเกราะเต่าดำเลยถูกบดบังไว้
นอกจากเสิ่นเทียนเองแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าข้างในสวมหมวกเกราะเต่าดำเอาไว้
ไม่อยากเชื่อว่าจะบีบให้ข้าต้องใช้ไพ่ตาย ถือว่ามีความสามารถอยู่บ้าง
แต่ตอนนี้ พวกเจ้าควรจะยอมรับชะตากรรมได้แล้ว!
เสิ่นเทียนก้าวเดินดั่งสายลม ล่าสังหารตามเถาจองจำเซียนนั่นอย่างรวดเร็ว
เมื่อมีหมวกเกราะเต่าดำกับชุดเกราะแรดดำคุ้มกายแล้ว แม้แต่เถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองก็ยังทำลายการป้องกันไม่ได้
ในเมื่อเจ้าทำลายการป้องกันของข้าไม่ได้ เช่นนั้นก็ถึงตาข้าต้องทุบตีเจ้า ข้าจะกินเถาจองจำเซียนต้นนี้ให้ได้!
ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ประหลาดยิ่งกลางหมอกวิญญาณ
ที่อื่นๆ ในเมืองหมอกลับแลต่างอยู่ในปราการป้องกันที่มีผู้ฝึกบำเพ็ญเฝ้าระวังอย่างหนาแน่น ระวังป้องกันเถาจองจำเซียนที่ซ่อนอยู่ในเงามืด
แต่เสิ่นเทียนที่เป็นผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานคนหนึ่งกลับไล่ตามเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทอง หนำซ้ำดวงตายังเปล่งประกายอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน