บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ
ร่างมายาของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองยังบุตรพุทธะขู่ตัว
ในใจเขายิ่งคิดยิ่งปวดร้าว ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว เด็กหนุ่มหล่อเหลาเช่นนี้กลับไม่ออกบวช!
ขอพูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็อยากจะบังคับให้เสิ่นเทียนเข้าฝ่ายพุทธ
แน่นอน แม้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะปวดร้าวในใจมาก แต่ภายนอกก็ยังรักษามาดยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ราวกับพระพุทธแท้จริง!
เขามองบุตรพุทธะขู่ตัวอย่างสงบนิ่ง “ขู่ตัว ในเมื่อศิษย์หลานฟางฉางไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าก็กลับมาได้แล้ว!”
ขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวลง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ได้พบกับฟางฉางมานานมากแล้ว ขอเป็นแขกที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สักสองสามวัน ค่อยกลับไปช้าหน่อยไม่ได้รึ”
เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม ยิ้มเมตตาอย่างยิ่ง “เจ้ายังมีพุทธคัมภีร์ที่ยังคัดไม่เสร็จ ขู่ตัว ต้องรู้นะว่า ‘กายเหมือนต้นโพธิ์ ใจดั่งแท่นกระจกใส หมั่นปัดถูบ่อยๆ จึงไม่มีฝุ่น’เจ้าคือบุตรพุทธะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี แบกภาระหน้าที่ในการเผยแพร่พุทธศาสนา และยิ่งต้องรักษาตัวกว่า ห้ามเกียจคร้านเด็ดขาด!
ส่วนเรื่องคุยกัน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบ”
เมื่อได้ฟังเจ้าพุทธะเสียงอัสนีพูดบ่นสั่งสอนแล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวยิ่งกว่าเดิม “ขอรับ ศิษย์เข้าใจ!”
เขาหมุนตัวมามองฟางฉางด้วยความอาลัยอาวรณ์ “ถ้าอย่างนั้นฟางฉาง ครั้งหน้าค่อยพบกันใหม่”
ประกายแสงพุทธบนผิวกายเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกระเพื่อมเบาๆ จิตใจแห่งพุทธะกำลังลุกโชตช่วง ร่างเขาหายไปช้าๆ ไม่อยากมองต่อไปแล้ว
ศิษย์ดีๆ ดันเป็นศิษย์คนอื่น ความรู้สึกนี้มันแย่มากจริงๆ
ประกายแสงลูกประคำหายไปช้าๆ ร่างเงาพุทธะของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับภาพปรากฏการณ์ก็สลายไปอย่างช้าๆ เช่นกัน
เหลือไว้เพียงเสียงที่ยังดังเลือนรางบนยอดเขาบัวขาว “สหายหลงหยวน อาตมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีสติปัญญาไม่เบา หากสนใจ ภายภาคหน้าก็มาตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ฝ่ายข้าได้ บางทีอาจจะได้อะไรไปบ้าง”
เจ้าพุทธะเสียงอัสนีเพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังมาจากโดยรอบ เพราะต้นโพธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
นั่นคือต้นไม้สูงสุดของฝ่ายพุทธที่ย้ายมาปลูกจากส่วนลึกที่สุดของฝ่ายพุทธในแดนทะเลทรายประจิม เล่าลือว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เบิกปัญญานานแล้ว เป็นต้นไม้ล้ำค่าสูงสุดอันดับสิบในรายนามไม้วิญญาณ
หากได้นั่งตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ การตระหนักรู้จะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว ฝึกฝนวิชาใดจะได้รับการปลุกเสก
เล่าลือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีเคยมีเจ้าพุทธะรุ่นหนึ่งตระหนักรู้ใต้ต้นไม้นี้เจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายเขาตระหนักรู้มหาคัมภีร์แท้จริงเสียงอัสนี จนสำเร็จอรหันต์ได้ในทันที!
ยุคนั้นเป็นยุคที่แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีรุ่งเรืองที่สุด!
และต้นโพธิ์ก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี เป็นที่เลื่อมใสอย่างยิ่ง
ปกติมีเพียงเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับบุตรพุทธะที่มีสิทธิ์ตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์
ไม่นึกเลยว่าวันนี้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีแค่มองเสิ่นเทียนแวบเดียวก็รับปากให้สิ่งยั่วยวนเช่นนี้
ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงความชื่นชมที่เขามีต่อเสิ่นเทียน
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ
เทียนซิ่วหนอเทียนซิ่ว ขุดมุมกำแพงบ้านข้าต่อหน้าข้าเลยหรือ
เหอะๆ ไม่คิดหน่อยหรือว่าเจ้ามีลูกสาวหรือไม่
……
บุตรพุทธะขู่ตัวอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังเอ่ยลาไป
ถึงอย่างไรถ้ารีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์อาจจะได้คัดพุทธคัมภีร์แค่พันจบ แต่ถ้าถูกกฎของแดนศักดิ์สิทธิ์พากลับไป เกรงว่าคงเพิ่มเป็นหมื่นจบ
เขาบอกลาฟางฉางก่อนเดินมาหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาไม่น้อยเลย อาตมาจะแบ่งให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องในแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีตามที่เจ้าบอก
อีกทั้งอาตมาจะขอให้พวกเขาสวดมนต์อวยพรให้เจ้าด้วย แน่นอน อาตมาไม่ชอบสวดมนต์ก็ไม่สวดนะ”
เมื่อเห็นเจ้าซื่อบื้อตรงหน้าแล้ว เสิ่นเทียนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่นิดๆ
อนาถามาก ออกมาหาสหายได้เที่ยวเล่นนานเท่าไรเอง ก็ต้องกลับบ้านไปทำการบ้านแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดึงบุตรพุทธะขู่ตัวไปข้างๆ “ศิษย์พี่ขู่ตัว แซ่เสิ่นจะให้กลอนเจ้าบทหนึ่ง เจ้ากลับไปพูดให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีฟัง เขาฟังจบบางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องคัดคัมภีร์แล้ว”
ขู่ตัวตาเป็นประกายแล้ว “จริงรึ? บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าหลอกข้านะ”
เสิ่นเทียนเอ่ย “แต่แซ่เสิ่นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะได้ผลหรือไม่”
ขู่ตัวพูดด้วยความดีใจ “ลองดูเถอะ! ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรเสียหาย”
เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนพูดเสียงเบา “แต่เจ้าต้องรับปากว่าห้ามบอกว่าข้าบอกมา”
ขู่ตัวมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมา “แต่ถ้าอาจารย์ถามจะทำอย่างไร นักบวชไม่โกหกนะ”
เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ศิษย์พี่กลับไปคัดคัมภีร์แล้วกัน!”
บุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าแน่วแน่ขึ้นมาทันที “นักบวชไม่คำนึงพิธีรีตองเล็กๆ! บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน อาตมาบอกว่าฝันเห็นเอาก็ได้”
เสิ่นเทียนยิ้มปลื้มใจ นักบวชนี่ดูไปก็ไม่โง่เหมือนกันนี่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน