ภาคที่สี่ สนามรบบรรพกาล…มหาโชคอยู่เหนือศีรษะ
บทที่ 179 ลงโทษคัดพุทธคัมภีร์หมื่นจบ
ณ โลกภูเขาวิญญาณเล็กแห่งดินแดนบูรพา แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี
ที่นี่คือแดนสุขาวดีที่ฝ่ายพุทธสร้างขึ้น แสงพุทธสว่างไปหมื่นจั้ง
ประตูมิติทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์วางกระจกพุทธเคลือบมันเงาเจ็ดสิ่งเลอค่าด้านหนึ่ง
กระจกพุทธด้านนี้ฝังทองคำม่วง เงินหิมะ เครื่องเคลือบ ภูตน้ำ ไข่มุก ปะการังและหินโมรา
นี่คือเจ็ดสิ่งเลอค่าของศาสนาพุทธ ล้วนเป็นระดับสูงสุดในสมบัติล้ำค่า ทั้งยังได้รับการปลุกเสกจากนักบวชศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี
ผู้เข้าฝ่ายนี้จะได้รับแสงพุทธส่องสว่าง จะลืมเรื่องกลุ้มในใจ จิตใจขาวสะอาดเป็นอิสระ กระทั่งกระจกพุทธเคลือบมันเงายังส่องแสงไปไกลร้อยลี้ ปกคลุมไปครึ่งแถบฟ้า
มองไกลๆ จะเห็นตีนเขามีพุทธสาวกซื่อตรงอยู่ พวกเขาเป็นสาวกที่หมั่นฝึกบำเพ็ญกระตือรือร้นที่สุด เดินเท้าหมื่นลี้มาแสวงบุญ
ในคนพวกนี้ไม่ขาดผู้บำเพ็ญที่มีพลังอ่อนแอเลย เห็นได้ชัดว่าขี่กระบี่บินมาได้ แต่เพื่อแสดงความจริงใจของตน พวกเขาจึงเดินเท้ามาไกลหมื่นลี้ อีกทั้งเดินสามเก้ายังน้องลงกราบหนึ่งที
นี่ก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี แม้แต่ในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนบูรพา ที่นี่ก็ยังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
มันแบกศาสนาพุทธทั้งแดนทะเลทรายประจิม หยั่งลึกจนเรียกได้ว่าไม่อาจประมาณได้
……
เมืองพุทธเสียงอัสนีใกล้ๆ กับโลกเขาวิญญาณเล็ก ตรงค่ายกลเคลื่อนย้าย
ปรากฏแสงพุทธขึ้นจากความว่างเปล่า ส่องแสงฟ้าครึ่งแถบสว่างระยิบระยับ
ท่ามกลางแสงพุทธส่องสะท้อนจะเห็นพระอรหันต์แปดร้อยรูปและมังกรสวรรค์เกรียงไกรทอดตัวยาวรางๆ
เสียงสวดมนต์ดังขึ้นจากมวลอากาศ เหมือนพระพุทธองค์นั่งสวดมนต์อยู่ จะพาปุถุชนข้ามฟาก และยังมีเสียงมู่อวี๋ดังมาปานน้ำหลาก แฝงไว้ด้วยท่วงทำนองแห่งพุทธที่โปรดทุกชีวิต ลี้ลับอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นก็ปรากฏนักบวชจีวรขาวหนุ่มผู้หนึ่งกลางฟ้าดินตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เขากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ จะเห็นปรากฏการณ์ต้นไม้เทพโพธิ์ขนาดใหญ่ข้างหลังเขารางๆ ดูจริงจังอย่างยิ่ง
นักบวชหนุ่มท่านนี้เหนือธรรมดามาก ดึงดูดสายตาของทุกคน
ใช่ ปรากฏการณ์เหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีเปลี่ยนไปเลย
นักบวชจีวรขาวท่านนี้ก็คือบุตรพุทธะขู่ตัว เขาเริ่มใช้คุณสมบัติพิเศษอีกแล้ว
แต่ช่วงที่เขาปรากฏตัวนั้น ก็มีสาวกคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วตรงฐานค่ายกลเคลื่อนย้าย
พวกเขาสวดภาวนาเสียงเบา แววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ดูจริงใจอย่างชัดเจน
บุตรพุทธะขู่ตัวเหมือนจะชินกับเหตุการณ์นี้แล้ว จึงถอนหายใจด้วยความจนปัญญา เอฟเฟคพิเศษค่อยๆ หายไป จนเมื่อเขาเดินไปได้ไม่นาน สาวกพวกนั้นก็พากันแยกย้ายไปรวมกันตรอกเล็กลึกลับ
คนหัวโล้นสวมหมวกคนหนึ่งรออยู่ตรงนั้น “แสดงใช้ได้”
คนหัวโล้นถือศิลาวิญญาณถุงหนึ่งและแจกจ่ายให้ทุกคน
“คงเต๋อ คงอวิ๋น คงเซ่อ พวกเจ้าประจบได้ดีมาก”
“พรุ่งนี้มารับป้ายคำสั่งศิษย์นักบวชระดับสูง เริ่มการแสดงแสวงบุญเถอะ!”
“อาจารย์ชื่นชมพวกเจ้านะ พยายามต่อไป อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็มีสิทธิ์ปลงผมแล้ว ส่วนคนอื่นๆ แสดงแบบขอไปที โอ้อวดเกินจริงไป ยังต้องฝึกอีก”
ในกลุ่มคน สาวกหนุ่มสามคนรับศิลาวิญญาณที่มากกว่าต่างมีสีหน้าดีใจ
“ขอบคุณอาจารย์ เราจะพยายามต่อไป จะปลงผมออกบวชให้ได้ก่อนกำหนด!”
……
บุตรพุทธะขู่ตัวไม่รู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตรอกเล็กนั้น
ตอนนี้บุตรพุทธะขู่ตัวมาถึงทางเจ้าโลกเขาวิญญาณเล็ก เดินหนึ่งก้าวเข้าไปในนั้น
ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปทันที บุตรพุทธะขู่ตัวมาปรากฏตรงกลางลานประกอบพิธีที่ปกคลุมด้วยแสงไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นจึงเห็นว่าโลกเล็กแห่งนี้ไม่ได้มีพืชไม้ใบหญ้า มีก้อนเมฆและสายรุ้งเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ดูหรูหราสว่างไสวอย่างยิ่ง
บุตรพุทธะขู่ตัวมาปรากฏตรงหน้าขั้นบันไดสวยงามที่สูงเสียดเมฆ ขั้นบันไดนี้มีความกว้างพันจั้ง และที่น่าตกใจกว่านั้นคือบันไดปูด้วยทองคำ เปล่งแสงไร้ที่สิ้นสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน